คงเคยเห็นเขาป่าและนากว้าง และคงเคยเดินทางอย่างฝันใฝ่ จากทุ่งนามาสู่ความวิไล ที่เขาและใครใครก็รู้สึกเช่นนั้น คงเคยเห็นดอกหญ้าอ่อน ที่เติบโตกับดินดอนยามหวาดพรั่น และอาจเห็นแดดแรงโรมรัน ดอกหญ้ายับไปกับวันเวลา ปวดร้าวกับวันอันปวดร้าว ความขมขื่นนั้นโหมราวกับว่า ใครจงใจบีบคั้นชีวา ให้แหลกยับย่อยลงอย่างธุลี โธ่เอ๋ยเขาป่าและนากว้าง แม้ธัญญาสล้างแลสดสี ก็เหมือนกับรกร้างเรื้อนานปี เหนื่อยยากหากไม่มีดีอะไร แล้วดอกหญ้าอ่อน ก็จากดินดอนหวังวันใหม่ มีความบริสุทธิ์เต็มหัวใจ ก้าวเท้าเดินไปอย่างไม่เหนื่อยล้า วันใหม่วันแดดร้าว คล้ายกับจะอารีให้คลายหนาวคราวฟันฝ่า แต่ความจริงแดดเมืองที่ทาบทา หาได้บริสุทธิ์อย่างนั้น หมอกเมือกหม่นควันพิษ แสงแรงรอนริดความใฝ่ฝัน ทุ่งธัญญาคุณค่าอนันต์ ซาบซึ้งหัวใจฉันแล้ววันนี้ อยากคืนกลับท้องทุ่ง แต่เหมือนความมืดมุงหมดทางหนี แดดเมืองแท้แล้วมิได้อารี มีแต่แผดเผาเราหม่นไหม้ นึกถึงแสงทองรองเรือง นึกถึงรวงข้าวสีเหลืองไสว แดดเมืองจะบีบคั้นนานเท่าใด หรือฉันต้องขาดใจในแดดร้าว ในเมืองใครแร้นแค้นแน่นหัวใจ ไม่มีใครมีเยื่อใยสนใจกัน .
10 ตุลาคม 2547 21:11 น. - comment id 348194
กลับมาแวะตอนค่ำครับผม เป็นงานชิ้นแรกๆในนามปากกา เพีย คำปันครับ
10 ตุลาคม 2547 22:19 น. - comment id 348236
ชอบมากเลยค่ะ โดยเฉพาะบทสุดท้าย เคยถามตัวเองเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่กล้าหาคำตอบ
10 ตุลาคม 2547 22:28 น. - comment id 348250
สวัสดีครับคุณเพียงพลิ้ว งานชิ้นนี้ไม่ได้คำฉับๆเหมือนกลอนส่วนใหญ่ของผม หลายคนอ่านก็ว่า ไม่ลื่นไหล ไม่ค่อยสัมผัส แต่ผมรู้สึกชอบครับ อย่างน้อยกวีซีไรต์ท่านหนึ่งก็พิจารณาตีพิมพ์ในนิตยสารที่ท่านเป็นบรรณาธิการตอนนั้น งานที่ลงคำฉับๆอ่านง่ายก็จริงครับ แต่ผมเขียนให้ประทับใจได้ยาก
11 ตุลาคม 2547 09:19 น. - comment id 348470
ได้คุยกับ นักเขียนท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า งานเขียน ที่ดีต้องได้อักขระถูกต้อง ต้องออกจากหัวใจ ดีดีไม่ดี ก้อเป็นสิ่งที่เกิด จาก หัวใจ ของเรา จงชื่นชม งานที่เรา เรา รักและเขียนมัน
11 ตุลาคม 2547 12:14 น. - comment id 348578
ต้องขอบคุณครับผม
11 ตุลาคม 2547 16:19 น. - comment id 348790
งานงดงามมากครับ ธรรมชาตินี้ เขียนอ่านยังไงก็งามทุกครั้งไปครับ
11 ตุลาคม 2547 17:45 น. - comment id 348861
ครับผม