๑ สุดดวงตา ตรงที่ฟ้าจรดพื้นเขียว ลมล่องท่องทุ่งเปลี่ยว เขียวใบข้าวสุดสายตา สายลมแปลกหน้าผ่าว เพลงใบข้าวดูแปลกตา ยืดตนเติบต้นท้า- ตะวันกล้า-ฝ่าริ้วลม แว่วนิทานชานทุ่งเคยฟุ้งใจ แห่งดินแดนแสนไกลได้รื่นรมย์ รางชาง ร้อยช้อยชม ได้ห่มรักถักทอใจ ไม่มีหรอกหนุ่มสาวชาวนา ถักทอข้าวกล้าร่วมแรง-ใจ ข้าวทุกกอที่ทอใบ- จากเรี่ยวแรงอันแกร่งใกล้วัยชราฯ ๒ ฟ้าปรุงฟุ้งแปลงเมฆมา รูปร่างนานา เกลื่อนฟ้า-ใบหน้าหญิงสาว รูปชายหนุ่มขี่ม้า ผมยาว ม้าตัวสีขาว พาเขาก้าวสู่หนใดฯ... ปลายกันยายน เรือนไม้ชายทุ่ง
8 ตุลาคม 2547 08:33 น. - comment id 346348
ice to have read this poem
8 ตุลาคม 2547 08:45 น. - comment id 346357
เรือนเมฆเสกม่านเคลื่อนคล้าย อาบแสงแดงป้าย ตะวันกลมโตลืมตา อ้อยอิ่งอ้อยอิ่งเถิดหนา เพื่อจะประวิงเวลา ยืดเยื้อเพื่อเช้ายาวนาน หมอกเทานิ่งเงา-ชื่นบาน ทุ่งข้าว- เช้ากาล- หรุบหรู่ในม่านหมอกมัว.. ( จากเวิ้งเช้า บางส่วน) หวัดดีครับพี่พุดตื่นแต่เช้าเลยนะครับ มาเยี่ยมยามเช้าครับ ซึมซับถ้อยรจนาแห่งพุดพัดชาแล้วทำให้คิดถึงเวิ้งเช้ากาพย์ฉบังสิบหก ที่ผมมอบให้ คุณพี่tiki เลยขอนุญาต โพส แจมด้วยนะครับ ู^__^ จาก : รหัสสมาชิก : 5943 - nava รหัส - วัน เวลา : 353182 - 08 ต.ค. 47 - 07:18 ********* น้องnavaคนดี พี่พุดอยากเรียกน้องว่า อรุโณทัยค่ะ ไม่รุสินะ งามดีนะคะ พีพุด ตื่นสายไม่ค่อยเป็นค่ะ แต่ไหนแต่ไรมาแล้วค่ะ เพราะชอบความสงบสุขยามเช้าค่ะ มารับรุ่งอรุโณทัย ดูสายแสงสีทองเรื่อเรือง สว่างไสว ยามตะวันผันดวงชักรถค่อยๆคล้อยเคลื่อนมา ทายทักทุกสรรพสิ่งค่ะ จริงๆ อยากไปรับแสงแรกริมทะเล เคยมีคราวหนึ่งค่ะ ไปนั่งริมทะเลในเกาะร้างไร้ลำพัง ไปกางเต๊นท์..นอนริมกองไฟ มีเด็กเรือผู้รู้ใจไปเป็นเพื่อน ไปสนอร์เกิ๊ลดำดูปะการัง ยามนั้นพีพุดจะนุ่งผ้าถุงดอกเดินเดียวดาย ริมชายหาดกว้างร้างไร้อย่างแสนสุขสงบเงียบงามใจอย่างที่สุดค่ะ และขอมอบแด่น้องที่อาจผ่านตาจากเรื่อง *น้ำจรดฟ้าค่ะ* http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_32552.php ใจของดาหลา กำลังระบมด้วยพิษรัก........ .ทะเลตรงหน้าที่เคยมองว่าแสนงาม มาวันนี้..ไม่งามเหมือนดั่งเก่า.................. ดาหลาเช่าเรือลำเล็กๆ ออกมา กลางทะเลกว้าง...... มีเด็กชายผิวคล้ำ เกรียมแดด เป็นนายท้ายเรือ.... ดาหลาไว้ใจประสบการณ์ทางทะเลของเด็กชายคนนี้ที่มีมากกว่าอายุจริง ...ดาหลานุ่งโสร่งผ้าปาเต๊ะ แบบสาวชาวเกาะ พันทับชุดว่ายน้ำ เนื้อตัวดาหลาคล้ำแดด ไม่แพ้กัน ดาหลาออกมาท้าทายสายลมร้อน..และแสงแดดกล้า.. กลางทะเลมาเป็นอาทิตย์แล้ว ใจที่ร้าวระบมด้วยความรานร้าวใจ....ค่อยๆลดออาการลง......... ผืนน้ำทะเลสีเขียวเข้มราวมรกต.... ตัดกับขอบฟ้าสีน้ำเงินเข้ม....ไร้ขอบเขต...... ความเวิ้งว้างของโลกสีคราม ..กับ..ความอ้างว้างทางใจ.. ผสมปนเปกลมกลืนกันไป ภายในใจ อันบอบช้ำดวงน้อยของดาหลา...... ความนิ่ง...เงียบ..ของผืนน้ำรายรอบ...ทำให้ใจดวงร้าว ค่อยๆสงบลง.....อย่างช้าๆ....... โลกตรงหน้าเหมือนมีดาหลาเพียงผู้เดียว.............. ดาหลามาที่เกาะเล็กๆแห่งนี้..มีเต้นท์ .. และเสบียงมาพร้อมที่จะค้างคืน......... ทอดสมอเรือแล้ว..เด็กชายตัวน้อยจะเป็นผู้ช่วยทำทุกอย่าง..... กางเต้นท์... และเตรียมฟืนไว้สำหรับ ก่อกองไฟในยามค่ำคืนที่กำลังจะมาเยือน........ ดาหลาเดินย่ำเท้าไปเรื่อยๆตามริมหาดทรายขาวยาวเหยียด..... รอยเท้าบนผืนทรายที่ดาหลา เดินโดยลำพังนั้น... จะค่อยๆถูกน้ำทะเลซัดสาดหายไป...หายไป ทุกอย่างดูเหมือนไร้ร่องรอย . ธรรมชาติกำลังสอนใจดาหลา .... .บำบัดเยียวยาให้ใจดวงงามพลิกฟื้นตื่นขึ้นมายอมรับ ความจริงของชีวิต อันแสนสับสนนี้........ คืนวันเดียวดายที่เกาะร้าง.. ค่อยๆลบความระทมขมขื่นให้ใจจางหายจากบอบช้ำ......... เสมือนคลื่นที่ลบรอยเท้าบนผืนทราย..................... ดาหลาเป็นลูกทะเล เกิดมาก็เห็นทะเลงามตรงหน้า..... และไม่ว่ายามเศร้า....หรือสุข ใจก็ร่ำร้องหาทะเล บางเวลาเมื่อดาหลา มีความรัก.. ทะเลก็เป็นฉากรักอันงดงามตราตรึงใจ......... ดาหลาเคยใช้ทะเลเป็นพยานรักกับคนที่ดาหลารักปานชีวิต ..... ท่ามกลางแสงจันทร์โลมไล้......... ทะเลต้องจันทรานั้นงามสุดจะบรรยาย.... รัศมีจันทร์ส่องกระทบผืนน้ำ..ราวกับทาทาบด้วย เกล็ดเพชร แสงเงาเลื่อมพรายพราว..วิบวับ..วิบวับ....งามจนน่าไหลหลง............ หนาวน้ำทะเล... กลับอุ่น เมื่อมีอ้อมกอดคนที่รัก ตระกองกอดใต้ฟองคลื่น...เล้าโลม.. ทั้งใจ..กาย..นุ่มนวล..อ่อนหวาน......... ในค่ำคืนแห่งความทรงจำอันงามงดนั้น.. ทะเลช่างแสนงามจับตา ..จับใจ จนยากที่จะเลือนลืม แม้บางเวลาทะเลจะดูน่ากลัว ....ยามมีพายุร้าย.... เหมือนชีวิตดาหลา...... ที่ถูกพายุใจหอบพัดพาจนใจกระเจิงมาถึงที่เกาะแห่งนี้............... .....ดาหลาบอกให้เด็กนำเรือออกกลางทะเล..... เพื่อดำน้ำดูฝูงปลา......... โลกสีคราม....สวยสุดใจ...... ฝูงปลามากมายหลายหลากสีแหวกว่าย..ราวไร้ทุกข์ร้อน....... โลกสีคราม มีมนต์สะกดใจของดาหลาให้.. นิ่ง..เงียบงัน..สงบสุข....ล้ำลึก................ ฝนก่อตัวตั้งเค้า.......สายฝนบางเบาเริ่มพราวพร่าง.... .เรือลำน้อยค่อยๆฝ่าฟองคลื่น บ่ายหัวกลับมายังเกาะที่ดาหลาเตรียมจะค้างคืน................ ท่ามกลางสายฝนพรำ....ดาหลาหนาวสั่น......... ร่างกายที่หนาว..ยังไม่เท่าใจที่สะท้านเยือก ด้วยความอ้างว้างสุดใจ ...... ท่ามกลางทะเลใจที่แสนระทมเปล่าเปลี่ยว....ร้างราผู้คนดังอยู่ลำพัง กับเรือน้อย ในทะเลจริงแห่งชีวิตที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้............... .น้ำตาปนกับสายฝน ดาหลาสะอึกสะอื้นร่ำไห้ราวจะขาดใจ....... ทำนบน้ำตาพังทลายสิ้น..ในนาทีนั้น..... ด้วยใจที่สะเทือนไหวสุดจะทานทน....อีกต่อไป..... ท่ามกลางเสียงครวญคร่ำของใจ พร้อม สายฝนพรำ.. .ดาหลาได้ยินเสียงเพลงจากท้ายเรือ.. ดังแว่วมา.....ประโลมใจ................ รักก็เกม......ก็เกมอะไรสักอย่าง.... เจ็บช้ำครวญคราง...ไม่นานก็หาย........ ................................. ............................ ........................... สายพิรุณใส....ค่อยๆรินไหลผ่านใบหน้า. ราวแทรกซึมเข้าไปร่ำไห้ให้กับใจที่แหลกสลายยับ ดาหลาแหงนหน้าขึ้นปล่อยให้เม็ดฝนกระทบต้องใบหน้า.......... ทุกๆหยดฝนพราวเตือนใจ ให้ดาหลา....มีสติ ... รู้ยอมรับความจริงของชีวิต.............. ใช่แล้ว...รักก็เกม ...ก็เกม..อะไรสักอย่าง.. เจ็บช้ำครวญคราง ไม่นานก็หาย............... ธรรมชาติจากสายฝนเย็นฉ่ำ.. กำลังให้บทเรียนสอนใจดาหลาอีกบทหนึ่งของชีวิต............... ดาหลาเอามือลูบหน้า... ลูบไล้ราวกับจะให้ความใสสะอาดของหยาดฝน.. ช่วยชะล้างใจ ให้สดสว่างโดยพลัน.................. ม่านฝนเริ่มสร่างซา.....พร้อมเปิดม่านตาและม่านใจของดาหลา.. ให้สว่างกระจ่างใส ไปพร้อมกัน.............. สายฝนในใจของดาหลาค่อยๆ..หยุดรินไหล..... ดาหลาได้ใจดวงเดิมที่แสนงามกลับคืนมา พร้อมพลังใจที่จะยอมรับความจริงของชีวิตว่า......... ชีวิต..มิได้เป็นดั่งฝัน....เสมอไป.................
8 ตุลาคม 2547 15:02 น. - comment id 346553
กระดูกสันหลังของชาติสู้ๆ ^o^
8 ตุลาคม 2547 15:14 น. - comment id 346566
อ่านแล้วรู้สึกดีเนาะ
8 ตุลาคม 2547 20:29 น. - comment id 346760
ตรงที่ฟ้าจรดพื้น เราตื่นมาพบกับความฝัน ตรงที่สองเราได้พบกัน แต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย
8 ตุลาคม 2547 20:43 น. - comment id 346777
อ่านแล้วคิดถึงพ่อจัง ช่วงนี้คงกำลังหว่านปุ๋ยอยู่ งานกรุ่นอุ่นไอความจริง
9 ตุลาคม 2547 08:46 น. - comment id 347101
ice to have read this poem จาก : gluhp ............. thank you...thank you ... gluhp
9 ตุลาคม 2547 08:53 น. - comment id 347106
น้องnavaคนดี พี่พุดอยากเรียกน้องว่า อรุโณทัยค่ะ ไม่รุสินะ งามดีนะคะ พีพุด ตื่นสายไม่ค่อยเป็นค่ะ แต่ไหนแต่ไรมาแล้วค่ะ เพราะชอบความสงบสุขยามเช้าค่ะ มารับรุ่งอรุโณทัย ดูสายแสงสีทองเรื่อเรือง สว่างไสว ยามตะวันผันดวงชักรถค่อยๆคล้อยเคลื่อนมา ทายทักทุกสรรพสิ่งค่ะ จริงๆ อยากไปรับแสงแรกริมทะเล เคยมีคราวหนึ่งค่ะ ไปนั่งริมทะเลในเกาะร้างไร้ลำพัง ไปกางเต๊นท์..นอนริมกองไฟ มีเด็กเรือผู้รู้ใจไปเป็นเพื่อน ไปสนอร์เกิ๊ลดำดูปะการัง ยามนั้นพีพุดจะนุ่งผ้าถุงดอกเดินเดียวดาย ริมชายหาดกว้างร้างไร้อย่างแสนสุขสงบเงียบงามใจอย่างที่สุดค่ะ และขอมอบแด่น้องที่อาจผ่านตาจากเรื่อง หวัดดีพี่พุดขอบคุณเหลือหลายในน้ำใจเอื้อเฟื้อ ที่มาพร้อมกับน้ำจรดฟ้าแหละยินยอมให้เรียกตามที่พี่อยากเรียก
9 ตุลาคม 2547 08:56 น. - comment id 347108
กระดูกสันหลังของชาติสู้ๆ ^o^ จาก : รหัสสมาชิก : 9532 - extreme life หวัดดี- extreme life ู^___^ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียน
9 ตุลาคม 2547 08:59 น. - comment id 347110
อ่านแล้วรู้สึกดีเนาะ จาก : รหัสสมาชิก : 8683 - เถ้าธุลี ................. หวัดดีครับเถ้าธุลี
9 ตุลาคม 2547 09:02 น. - comment id 347112
ตรงที่ฟ้าจรดพื้น เราตื่นมาพบกับความฝัน ตรงที่สองเราได้พบกัน แต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย จาก : รหัสสมาชิก : 2997 - รุ้งสวรรค์ สวัสดีครับรุ้งสวรรค์..^____^
9 ตุลาคม 2547 09:06 น. - comment id 347115
อ่านแล้วคิดถึงพ่อจัง ช่วงนี้คงกำลังหว่านปุ๋ยอยู่ งานกรุ่นอุ่นไอความจริง จาก : รหัสสมาชิก : 97 - ฟา .......ถูกทีเดียว ฟา กลับบ้านบ้างไหม?
10 ตุลาคม 2547 12:19 น. - comment id 347840
^___^นึกว่าจะใบ้หวย..แล้วซิ : นาวา : 354649 - 10 ต.ค. 47 - 04:29 อือ คุณนาวา ขอชื่อที่อยู่นะคะ จะส่งหนังสือเล่มใหม่ที่มีบทกลอนคุณมาให้ค่ะ จาก : ทิกิ_tiki 4895 ไม่ลงทะเบียน