เรียกว่า---ประชาธิปไตย จากไฟลุกโชนจนมอดถ่าน ซากศพทับถมอุดมการณ์ จดจารึกตำนานแห่งพานปูน อนาถเอ๋ย---หัวอกนกพิราบ แค่เค้าเงาภาพผู้สาบสูญ กับคราบน้ำตาความอาดูร บนกองปฎิกูลอดีตกาล เสรีภาพล่องหนอยู่บนฟ้า เมฆเทามืดทาดุจผ้าม่าน กลั่นกระสุนโปรยห่ามาเป็นทาน คร่าผลาญเลือดท้นถนนนอง คือ---ตุลาคม เพียงลมพัดอู้อยู่กึกก้อง โหยหาสิ่งใดในพานทอง หรือเสียงร้องที่แหบหายในพายุ ++ ภาพเก่าๆ ++ จากรอยเท้ากาจกล้า...............กว่าพัน ก้าวเก็บรอยร้าววัน.................หนึ่งไว้ พึงหวนคิดย้อนหัน..................กลับนึก ตรึกแล ทวนเรื่องราวล้วนให้................ชัดได้บัดดล วีรชนพลีชีพไว้.......................ให้ชม ภาพศพเลือดอาบจม.................ร่างสิ้น หว่างหนหว่างใจตรม.................ตรอมพรั่น นั้นแล ตนอยู่เพื่อทนดิ้น.....................ต่อสู้รอใคร อุดมการณ์ซ่อนไว้...................ในไพร พฤกษ์โอบล้อมตรึกใน..............สติตั้ง ตริไฉนโลกแห่งใจ...................แห้งเหือด เดือดฤๅ ใดก่อเวรกรรมครั้ง...................ใหญ่ให้ร้อนดิน อำนาจมืดล้อมร่าง....................ดังฝัน ร้ายแล หลากร่างกอดกายกัน................ก่ายดิ้น ทิ้งกองเลือดฆ่าฟัน...................วันเก่า รินรดท่วมสิ้นลิ้น.......................ปากร้องทักความ สู่ยุคเงียบไร้สรรพ.....................ขับเสียง สร้างเปลือกซ่อนพรางเพียง.........ครอบไว้ รอบหนามแตกเถาเรียง..............รุกยอด ทอดแล ตามผูกโซ่ล่ามไร้......................ค่าไร้ปรานี วิญญาณนักต่อสู้.......................อยู่ไหน เล่าดุจเรื่องเก่าใน......................อดีตนั้น ผิดที่วิรชนใด............................สร้างเรื่อง เคืองฤๅ ดีแค่ฝากผีรั้น............................ยั่วแม้ตัวตาย จากรอยเท้ากาจกล้ากว่าพันก้าว เก็บรอยร้าววันหนึ่งไว้พึงหวน คิดย้อนหันกลับนึกตรึกแลทวน เรื่องราวล้วนให้ชัดได้บัดดล วีรชนพลีชีพไว้ให้ชมภาพ ศพเลือดอาบจมร่างสิ้นหว่างหน หว่างใจตรมตรอมพรั่นนั้นแลตน อยู่เพื่อทนดิ้นต่อสู้รอใคร อุดมการณ์ซ่อนไว้ในไพรพฤกษ์ โอบล้อมตรึกในสติตั้งตริไฉน โลกแห่งใจแห้งเหือดเดือดฤๅใด ก่อเวรกรรมครั้งใหญ่ให้ร้อนดิน อำนาจมืดล้อมร่างดังฝันร้าย แลหลากร่างกอดกายกันก่ายดิ้น ทิ้งกองเลือดฆ่าฟันวันเก่าริน รดท่วมสิ้นลิ้นปากร้องทักความ สู่ยุคเงียบไร้สรรพขับเสียงสร้าง เปลือกซ่อนพรางเพียงครอบไว้รอบหนาม แตกเถาเรียงรุกยอดทอดแลตาม ผูกโซ่ล่ามไร้ค่าไร้ปรานี วิญญาณนักต่อสู้อยู่ไหนเล่า ดุจเรื่องเก่าในอดีตนั้นผิดที่ วิรชนใดสร้างเรื่องเคืองฤๅดี แค่ฝากผีรั้นยั่วแม้ตัวตาย
6 ตุลาคม 2547 09:55 น. - comment id 344845
สุดยอดงานงามค่ะ พุดอ่านไปน้ำตาเอ่อไปค่ะ ยังจำจด ภาพวีรชนที่สละหยาดเลือดละหลั่งริน เพื่อขับไล่ทรราชย์ นอนทับถมแดดิ้นมากมายหลายร้อยชีวิต หวังให้ชาติมีประชาธิปไตย นี่คือวิญญาณไท..แท้ คนดี..ม้าลาย อย่าหายไปนานสิคะ น่าจะมารจนาประจำที่นี่นะคะ พุด.. ขอคารวะ ทั้งวีรชนและผู้ถ่ายทอดความ ประทับใจนี้ ด้วยหยาดน้ำตาค่ะ..
6 ตุลาคม 2547 12:46 น. - comment id 344936
พิราบเอ๋ย..ทุกหยดที่หยาดไหล รดลงใส่ผืนดินมิสิ้นฝัน เลือด-น้ำตาหนหลังเคยหลั่งกัน อย่าสูญพลันเสียเปล่าเงาวันวาน :)
6 ตุลาคม 2547 13:00 น. - comment id 344942
แม้นจะไม่ทันในเหตุการณ์... ทุกครั้งที่รับทราบเกี่ยวกับเดือน ตุลาฯ ก็รู้สึกซาบซึ้งถึงบุคคลผู้เสียสละอยู่ไม่เคยจางเลยค่ะ ................................................................................ ลี่...ผู้มาเยือน .
6 ตุลาคม 2547 14:08 น. - comment id 344986
สยองไม่หาย ไม่อยากเห็นกำแพงธรรมศาสตร์ ไปกว่าสองปี ไม่ยอมผ่านไปด้านนั้น...เพื่อนทั้งนั้น
6 ตุลาคม 2547 14:36 น. - comment id 345008
เรื่องนี้เกิดตอนเราเป็นเด็กเลยไม่ทราบความเท่าไร แต่ได้เห็นภาพทีไรก็สะท้อนใจเมื่อนั้น.. ทุกครั้งที่ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เราก็มองพาน...คิดไป... ...
6 ตุลาคม 2547 21:36 น. - comment id 345198
หลั่งเลือดชะโลมหล้าพสุธาที่ข้ารัก ฝากประจักษ์จิตไทใครอย่าหมิ่น แม้นวายวอดดับดิ้นสิ้นชีวิน ข้ายอมสิ้นแลกประชาธิปไตยในวันนี้ รักแผ่นดินยิ่งใหญ่ใจหาญกล้า เทิดศรัทธาชาติศาสน์กษัตริย์ยิ่งชีพนี้ รักสิ่งใดไหนเล่าเท่าปฐพี วีรกรรมนี้ฝากไว้ให้ลือนาม เจ้ายอดรักอย่าร้องให้ตายหนหนึ่ง หากฝากซึ้งภาคภูมิใจไร้ใครหยาม เลือดของข้าฝากภูมิใจในทุกยาม เจ้าอย่าห้ามนะคนดีพร้อมพลีใจ.. คือเกียรติศักดิ์รักของข้ามอบผืนดิน ถึงชีพสิ้นเจ็บปวดสักปานไหน ข้าจะไม่ครวญคร่ำร่ำไห้ด้วยเสียใจ หากมีธงไทยคลุมร่างข้าคารวะ
6 ตุลาคม 2547 22:42 น. - comment id 345277
เป็นความเศร้า และสะเทือนใจมากสำหรับเรื่องนี้ค่ะ ไพเราะมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ แต่งเก่งจัง หลายแบบเลย ชื่นชมในผลงานนะค่ะ
7 ตุลาคม 2547 21:55 น. - comment id 346123
เกิดไม่ทันครับ แต่กลอนเพราะพริ้งดีครับ
8 ตุลาคม 2547 19:59 น. - comment id 346742
ลมหนาวเดือนตุลาฯ พัดมาเยือนคราได้ หัวใจผองเพื่อนนิสิต และญาติมิตรผู้สูญเสีย มักจะสะท้านกายสะเทือนใจกันทั้งนั้น เพราะลมหนาวที่มาเตือนมิใช่เพียงเพื่อบอกว่า.. นี่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วเท่านั้น แต่มันกลับมาย้ำเตือนรอยแผลลึกที่ยังฝังอยู่... ในใจ ยากที่จะลบเลือนไปตราบสิ้นลม แวะมาอ่านงานดีดีเพื่อร่วมรำลึก T___T
8 ตุลาคม 2547 20:50 น. - comment id 346791
ชอบกลอนตอนต้นๆน่ะครับ นำคำ มาเรียงร้อยกันได้ความหมายที่ลึกซึ้งมากๆคับ
1 ธันวาคม 2547 23:09 น. - comment id 382098
ขอบคุณทุกท่านครับ คุณต่อง(ต้อง)/คุณฟา/คุณเพลงกลางป่า/คุณผู้หญิงไร้เงา/คุณพุดพัดชา/คุณกุ้งหนามแดง/คุณทิกิ/คุณลี่...ชวนมาเยือน/คุณอัลมิตรา/คุณพุด.. จำได้แต่คุณน้าคนหนึ่งของม้าลายไปร่วมเดินขบวนกับเขาในเหตุการณ์วันที่ 6 ตค. 19 แล้วกลับมาทะเลาะกับคุณยาย ตอนนั้นคุณยายเสียใจมาก จนถึงวันนี้ก็ยังจำเหตุการณ์ที่บ้านได้ดีกว่าภาพเหตุการณ์วิปโยคอย่างอื่น