ดาราขวัญ!

พุด


URLhttp://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=14
********
เธอ..คือตะวันซ่อนอ่อนอุ่นในเรียวเมฆ
เธอ..คือวิเวกแห่งบทกวีที่แสนหวาน
เธอ..คือตะวันนำทางใจมาแสนนาน
เธอ..คือหวานคือหวังคือพลังใจ
เธอ..คือฟ้าสีทองงามผ่องผุด
เธอ..คือความพิสุทธิ์มวลดอกไม้กรายกิ่งไหว
เธอ..คืองามหวานหอมห่มห้องใจ
เธอ..คือไพรคือพฤกษ์ลึกล้ำรัก
เธอ..คือสายธารหวานระรินดับร้อนหล้า
เธอ..คือฟ้าคือฝันอันงามนัก
เธอ..คือน้ำผึ้งตรึงใจให้เพ้อภักดิ์
เธอ..คือรักคือเศร้าให้เข้าใจ
เธอ..คือดาวพราวฟ้าเวลาเหงา
เธอ..คือเงางามเงียบเกินเทียบไหน
เธอ..คือทะเลเหว่ว้าเวิ้งว้างไกล
เธอ..คือนกไพรในไพรกว้างช่างงามนัก
เธอ..คือจันทร์เพ็ญเด่นดวงบนราวฟ้า
เธอ..คือพสุธาทองปองใจรัก
เธอ..คืองามปานเรียวรุ้งถักทอภักดิ์
เธอ..คือรักคือเทียนทองส่องกลางใจ
เธอ..คือสายลมพรมแผ่วพลิ้ว
เธอ..คือริ้วรวงเรียวระบัดไหว
เธอ..คือธรรมธรรมชาติพิลาสพิไล
เธอ..ครองใจเธอครองจิตนิจนิรันดร์!
**************


สีสันแห่งรัก...
เธอ....เป็นสีสันแห่งรัก...
ที่ฟ้าเบื้องบนประทานมาให้..มาประดับหล้า มาเคียงใจ
มาพร่างพรมให้โลกสดใสงามงด หมดจด..
เป็นความว่าง ความงาม ความเป็นกลาง
ที่มีทั้งหวานทั้งสุขโศกให้โลกนี้มีความพอดิบพอดี
มิใช่..สีสันจัดจ้า เร่าร้อนรุนแรง
หากแฝงไว้ด้วยความละเมียดละไม 

และหากเป็นสีแล้วไซร้..
เธอ..เป็นดั่งสีเขียวของเรียวใบไม้ 
สีธรรมชาติ สีเอิร์ทโทนประมาณนั้น ประมาณนี้
ประมาณที่..บางทีบางครั้งก็ยังเป็นดั่งแสงงามแห่งเรียวรุ้ง
โอบท้องนาป่าเขาเงาละหานได้
เธอ..ทำให้ทุกดวงใจอบอุ่นเป็นสุข หากอยู่ใกล้
 เธอ..ให้ความรู้สึกดี..ความเอื้ออาทร 
ความอ่อนหวาน ความห่วงใย และเหนือสิ่งอื่นใด
การให้นั้น..ให้อย่างมีสติ ให้โดยไม่มีเงื่อนไข 
ไม่หวังผลตอบแทน..
เฉกเดียวกับธรรมชาติ..ผสมผสานรักกับผู้คนบนหล้าโลก..
มิรู้สิ้นรู้โศกรู้เพียงถวิลหวานถวิลหวัง..

เธอ.......เป็นสีสันแห่งรัก....
ก้าวมาทายทักให้ยิ่งหลงรักวสันต์ลีลา 
วันไหนฝนพร่างคืนไหนฝนพรำ  ฟ้าร่ำโศก โลกอ้างว้าง..
หรือยามเดินดายเดียวในป่าปูนลำพัง..
เธอ..คนดีจะติดปีกฝันมาซุกซบให้เอนอิงพิงไหล่  
ในอ้อมอกในอ้อมใจ
ให้ไออุ่นกันและกัน..
ให้พลังฝัน..พลังใจ ไม่มีช่องว่างใดใด..ไม่มีคำว่ากาลเวลา..
เธอ..เป็นสีสันแห่งรัก..
ให้พักใจในยามดายเดียว 
เหลียวไปไม่พบเจอใครเสมอเหมือนเทียมเท่าจิตวิญญาณ
ที่แปลกแยกแผกคิดแผกใจ
เธอ..พร้อมพลี เคลีอคลอเคียงข้างลบอ้างว้าง
ลืมช่องว่างใจ ให้แนบชิดสนิทใน ดั่งหลอมละลายใจและร่าง
ให้มลายกลายเป็นเรา และเรา...

ในโลกอันเร่าร้อนรุนแรงแล้งน้ำใจ
ในความวุ่นวายสับสนขันแข่งแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
ในการค้นหาทางใจของคนมายมายไม่พบเจอ 
ในห้วงหาวห้วงเหวแห่งความไม่มีใคร..
ที่มนุษย์ส่วนใหญ่ยังตะเกียกตะกายดิ้นรนไขว่คว้า
อยากแค่มีใครสักคนมาคลายเหงา..ไม่สิ้นร้างไร้รักอีกต่อไป..

เธอ..เป็นดั่งสีสันแห่งภูเขา เงาไม้
 สายธาร หวานหยาดจากพรายพระจันทร์
ดั่งดวงดอกไม้... ดั่งดงดอกหญ้า..ดั่งท้องทุ่งนา ..
ดั่งราตรีที่งามด้วยแสงดาวระยิบระยับ...
ดั่งเรียวรุ้งจับท้องฟ้างามยามหลังฝน..
ดั่งสายฝนพรมพรำชื่นฉ่ำใจ 
ดังท้องฟ้าใสกระจ่างเมฆงามลอยเลื่อน..
ดั่งดวงเดือนประดับฟ้า
และดั่งมนตราประดับหล้าโลกประดับใจ..ไปชั่วกาล..

เธอ..เป็นสีสัน
ให้ชีวีมีดวงตาที่สาม มองเห็นหนทางลบหมองหม่นใจ
ในบทเรียนโลกโศกสุขที่รุกราน 
รุกเร้าดวงจิต ตามติดมาแต่ปางก่อน
ที่มาลวงหลอนหลอกใจ..ในบางคราให้ทุกข์คลาย 
ให้โลกไหวหวั่นพลันลับลา
ให้รู้เหลียวกลับมามองความงามภายใน 
ให้ดวงใจสอดประสาน
เป็นดั่งเสมือนหนึ่งมิตรชิดใกล้กับธรรมชาติ 
ให้รู้การปล่อยวาง
ให้ใจเป็นกลางๆให้รู้จักความว่าง ความพอดีๆ 
อย่างผู้มีธรรมชาติเป็นครู..
ให้รู้เตือนรู้ตนไม่หลงทางยึดติดอีกต่อไป..

เธอ..เป็นสีสันแห่งดวงใจ 
ให้เพียรเพาะบ่มห่มรัก ห่มเนื้อใจด้วยร่มธรรม
เป็นดั่งร่มกั้นฉากป้องคุ้มผองภัย
ให้ดวงใจใสกระจ่างราวหยาดน้ำฝน น้ำค้างกลางห้วงหาว
ดั่งดวงดาวพริบพราวสุกสกาวประดับฟ้าประดับใจส่องนำทาง
ให้เลิกไหวครวญ ให้เลิกหมองหม่น..
เธอ..เป็นสีสันแห่งดวงใจ
ให้ใคร่ครวญคิด...ให้น้ำใจแบ่งปัน
ในทุกวันเวลากับผู้ที่ยากกว่าผู้ที่ด้อยกว่า
 เพื่อฝึกการสละออก
ปลดแอกของความยึดมั่นถือมั่น มากมาย
หัดให้มองผู้ยากไร้ดั่งมิตรควรอุปภัมภ์..

เธอ..ดั่งสะพานดาว 
ทอดยาวให้ทุกย่างก้าวของผู้คนมากทนทุกข์ยาก ในโลกนี้
ได้มีโอกาสเดินไปคว้าไขว่เก็บดาวมาประดับใจประดับภาคภูมิ..
เธอ..เป็นสีสันแห่งรัก
ที่สอนให้รู้ค่าของการพลัดพรากจากลา 
สอนให้ยอมรับสัจจะแห่งชีวิตนี้ที่อย่าประมาท
ที่มิอาจหมายมาดให้ยาวยืนได้ดั่งใจ..และ
ฉลาดในการวาดหวังรัก วาดหวังใจ สร้างไฟฝัน
ให้ไสวสว่างนำสู่เส้นทางใจ เส้นทางสายฝัน เส้นทางสายงาม
อย่างผู้เข้าใจโลก..อยู่เหนือโลกเหนือโศกสุขอย่างเงียบงาม..

เธอ..เป็นสีสันแห่งรัก 
มาจากดินดี..ดินเดียวกัน..
มาหว่านเพาะดวงดอกฝันดวงดอกรัก
ด้วยเนื้อใจใสพร่างพิเศษพิสุทธิ์งาม
เพียรสร้างโลกภายใน ให้ทุกยามมีแต่ความเงียบง่าย
ให้ใช้ดวงตาที่สามที่ฟ้าเบื้องบนประทานให้ 
เฝ้าเตือนตน ค้นหางามแห่งความว่างความพอดี 
มีชีวิตอย่างสมถะ หากทว่าอิ่มใจ อิ่มสุข
มิหวังตามหลงตามใครๆ
หลงไปในโลกวัตถุมากมี มากมาย
ที่ดูคล้ายจะนำมาซึ่งความเหน็ดเหนื่อยเป็นยิ่งนัก..
ให้รู้จัก..หยุดอยาก......และพอ..

เธอ..เป็นสีสันแห่งรัก
ให้...โลกแล้งราโรย..โหยหาจิตวิญญาณไพร ได้เติมเต็ม
ให้อ่อนไหวอ่อนหวานให้เงียบงาม 
ให้สงบสุข ให้ทุกผู้ได้พบเรียนรู้ค่ารัก
ให้โลกจักหมุนไปอย่างไม่รู้จบรู้สิ้นด้วยพลังแห่งใจแห่งรักนี้ 
ที่เกิดมาเพียรสร้างสรรมิใช่การทำลายล้างประหัตประหารกัน..

เธอ..เป็นสีสันแห่งรัก
ที่ไม่ยอมแพ้พ่าย มาดหมายจะเสียสละชีพน้อยนี้
ให้มากมีค่า จนกว่าจะถึงวันตะวันลามาเยือนดวงชีวิต 
ให้ใบไม้ปลิดปลิวโปรยพรให้นอนนิทราฝันดี 
ยามร่างนี้ได้ผ่อนพักละวาง..
กลับคืนร่างสู่พื้นพสุธา..เป็นนิรันดร์รัก เป็นหนึ่งเดียว..
เธอ...จะยังคงเป็นสีสัน 
ให้โลกฝันไกล ไม่ว่าเธอจะเหยียบย่างไป  ณ.ที่ใด
เธอก็คงไปส่องสว่างกระจ่างใจในทุกผู้คน
ด้วยใจดวงเดิมดวงดีดวงงามดวงนี้
ที่ไม่สิ้นไร้รัก ตราบที่โลกยังหมุนไปและหมุนไป
มีตะวันกระจ่างใสในยามกลางวัน
มีราตรีฝันให้จันทร์งามกระจ่างดวง
เธอ...จะยังเป็นสีสัน..
อยู่ในฝันในใจในเรือนไทยริมบึงบัวพร่าง
ในพื้นพสุธานี้..ที่งามเป็นยิ่งนัก..

เพื่อจะใช้ดวงใจน้ำจิตน้ำใจรักที่สวรรค์ประทานมา..
มอบรัก  มอบหวาน มอบงาม  มอบพลังใจ
ให้หวามไหว ให้เลิกหม่นหมองครองใจ ไปชั่วกาล
หากหัวใจและร่างยังไม่สิ้นศรัทธารักนั้นจักยังคงดำรงอยู่..
และ...

เธอคือสีสันสีสันและสีสัน
สุดแต่ใจใครจะเลือกใครมาเป็นสีสันใดแห่งชีวิตนะที่แห่งนี้..
มาเคียงขวัญเคียงร่างประดับโลกไร้ร้าง ประดับโลกฝันหรือโลกจริง
ให้พิสุทธิ์สวยใส กระจ่างใจนำทางใจไปชั่วนิจนิรันดร์...นะคนดีนะดวงใจ 
.....................

ฉัน..คงมิใช่สีสันแห่งสายลมที่พรายพรมพัดพร่างเพียงชั่วครู่ชั่วครา..
ฉัน..มิใช่สีสันและนางใจนางไพรที่จะทำให้เธอถูกใจ สมบูรณ์แบบไปเสียทุกสิ่ง..
ฉัน..คงมิใช่ถวิลหวังให้ใครฝากฝังใจ หากแม้นหัวใจนั้นยังมีสีสัน
พร่างพรายสดใสสดสวยมากมายรอท่าให้ค้นหามาประดับใจประดับร่าง
ให้พรายพร่างชื่นฉ่ำใจมีชีวิตชีวาเสียยิ่งกว่า....

สำหรับฉัน..
เป็นได้แค่เพียงสีสันเดียว....
เขียวไพลเขียวพร่างกลางใจ  ในโลกฝัน 
ให้ค้นพบสงบงามแห่งโลกภายใน ในทุกยามที่สิ้นไร้ใครสิ้นไร้รัก
ตามฉันมาสิทุกดวงใจ..มาเคียงไพรเคียงใจไปกับฉันสู่ฝันนิรันดร..


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=65
ความรักไม่รู้จบ   
จิตราวดี จิตตเกษม : : Key Ab  
ถึงจะอยู่สุดหล้าฟ้าดิน
แม้จะสิ้นสิทธิ์และเสรี
แต่วันนั้น ใจฉันยังคงที่
ความรัก ความภักดี ไม่มีสิ้นสลาย
ถึงโลกแตกแหลกเป็นผงคลี
รักเต็มปรี่ ไม่มีรู้คลาย
ชีพถูกฝัง ความรักยังเวียนว่าย
เคียงคู่เธอมิคลาย
ฝากวิญญาณ ไว้เตือน
ด้วย ความรักไม่รู้จบ
แม้ผืนดินกลบ ยากเพราะความรักเลือน
จะเนิ่นนาน กี่วันกี่ปี กี่เดือน
ดินฟ้าจะคล้อยเคลื่อน ใจมิเลือน รักเธอ
ทุกทุกอย่างบนทางรักจริง
ทุกทุกสิ่งบนทางรักเธอ
จะสมหวัง หรือพบความเพ้อเจ้อ
เป็นที่ใจของเธอ จะจริงจังฉันใด
ทุกทุกอย่างบนทางรักจริง
ทุกทุกสิ่งบนทางรักเธอ
จะสมหวัง หรือพบความเพ้อเจ้อ
เป็นที่ใจของเธอ จะจริงจังฉันใด...
 
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    11 กันยายน 2547 14:20 น. - comment id 329064

    
    url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=138
    ที่รัก   
    แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ : : Key Dm  
    นานแล้วพี่หลงพะวงมิหน่าย
    นานแล้วที่หมาย จะได้ภิรมย์
    นานแล้วพี่รักคอยจักชื่นชม
    นาน แล้ว รักเพียงลมลม ตรมเช้า ค่ำ
    ที่รักนะรักเพราะใจมิกล้า
    ที่ช้านะช้า มิกล้าเผยคำ
    ที่คิดนะคิด กลัวอกจะช้ำ
    เอ่ย คำแล้วเจ้าจะทำให้ช้ำใจ
    อย่าเหมือนน้ำค้างพราวพร่างใบพฤกษ์
    พอยามดึกเหมือนดังจะดื่ม กิน ได้
    พอ รุ่งสางก็จางหายไป  
    รู้แน่แก่ใจ ได้แต่ ระทมชีวี
    ที่รักนะรักเพราะเทพเสริมส่ง
    ที่หลงนะหลง เพราะเจ้า แสนดี
    ที่หวงนะหวง เพราะสวยอย่างนี้
    กลัว ใครเขามาแย่งพี่ ไป เอย
    
    อย่าเหมือนน้ำค้าง พราวพร่าง ใบพฤกษ์
    พอยามดึกเหมือนดังจะดื่ม กิน ได้
    พอ รุ่งสางก็จางหายไป  
    รู้แน่แก่ใจ ได้แต่ ระทมชีวี
    ที่รักนะรักเพราะเทพ เสริมส่ง
    ที่หลงนะหลง เพราะเจ้าแสนดี
    ที่หวงนะหวง เพราะสวย อย่างนี้
    กลัว ใครเขามาแย่งพี่ ไป เอย...
    
     
    
    
  • Robert TingNongNoi

    11 กันยายน 2547 15:21 น. - comment id 329119

     
    สีสันแห่งรัก วาดออกมาำด้อย่างเหมาะสม
    ตรงเวลาเลยครับ     งดงามมากในลีลาที่
    แสดงออก    ยอดเยี่ยมทางอารมณ์มากๆ ๚ะ๛
    
    size> 
  • อัลมิตรา

    11 กันยายน 2547 16:06 น. - comment id 329164

    เธอต้องเป็นนางฟ้าของซินเดอเรร่า แน่เลยค่ะ เธอเสกฟักทองให้เป็นราชรถก็ได้ ..
    
    
  • เมกกะ

    11 กันยายน 2547 21:27 น. - comment id 329294

    ผู้ใดเข้าไปสู่บริษัทที่พูดคำหยาบคาย ก็ไม่สะทกสะท้าน ไม่ยังคำพูดให้เสีย ไม่ปกปิดข่าวสาร 
    พูดจนหมดความสงสัย และเมื่อถูกถามก็ไม่โกรธ ผู้นั้นย่อมควรทำหน้าที่ทูต 
    วิ. จุลฺล. ๗/๔๐๐/๒๐๑
    
    
    วาจาสุภาษิต ไม่ว่าจะพูดด้วยสำเนียงภาษาอย่างไรก็ตาม วาจานั้นย่อมเป็นวาจาชั้นสูง 
    ควรแก่การสรรเสริญของบัณฑิต ตรงกันข้าม วาจาทุพภาษิต 
    แม้จะพูดด้วยภาษาใดสำเนียงดีแค่ไหน บัณฑิตก็ไม่สรรเสริญ
    
    
    ปลามีชีวิตยืนยาวอยู่ได้ก็เพราะอาศัยปากเป็นสิ่งสำคัญ
    แต่ก็เพราะปากนั่นเอง ปลาจึงต้องติดเบ็ดเสียชีวิตโดยง่าย
    เช่นกัน วาจาสุภาษิตจากปาก
    จะทำให้คนเราประสบความสำเร็จ
    ได้รับความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
    แต่ก็เพราะวาจาทุพภาษิตจากปากเพียงคำเดียว
    บางครั้งแม้แต่ชีวิตก็ยากจะรักษาไว้ได้
    
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+เพื่อคุณพ่อผู้ล่วงลับ+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
  • ชัยชนะ

    12 กันยายน 2547 21:24 น. - comment id 329896

    เธอคือ ความงาม ธรรมชาติ
    เธอคือ นางนพมาศ เมืองสวรรค์
    เธอคือ บุปผชาติ อัศจรรย์
    เธอคือ ผู้สร่างสรรค์ สิ่งสวยงาม
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน