หวาดหวั่น...หวั่นไหว...ใจไหวหวั่น ฤดีสั่นอกตระหนักทุกข์โถมใส่ นภากว้างเมฆหมอกลอยผ่านไป ป่าพฤกษไพรโอนอ่อนยามต้องลม ภูผาสูงสายน้ำไหลเชี่ยวกราก มองข้ามฝากฝั่งฟ้าทุกข์สะสม ใจล่องลอยหายลับกับสายลม ทุกข์ผสมปนเศร้าเจ้าจากจร วิหคน้อยบินผ่านไปไกลลับ ท้องฟ้ากลับดำมืดช่างสับสน จันทราเด่นเงาสะท้อนกลางสายชล น้ำค้างหล่นรับเสียงเจ้าเรไร จั๊กจั่นหวีดก้องร้องต้อนรับ จิ้งหรีดหลับกลับตื่นส่งเสียงใส แสงหิ่งห้อยลอยเด่นกลางพงไพร รักษาใจที่เจ็บปวดให้ผ่อนคลาย
3 กันยายน 2547 12:50 น. - comment id 322907
ใช้ภาษาได้งามมากครับ ๚ะ๛ size>
3 กันยายน 2547 12:56 น. - comment id 322912
^__^ ชอบค่ะ
3 กันยายน 2547 13:03 น. - comment id 322918
ว๊าววววววๆๆๆ เศร้างเจงๆเลยเพื่อน O>O รักษาใจต้องใช้เส้นด้ายรัก มาปะปักเย็บลงก็คงหาย ซ่อมเวลามาเกลี่ยอย่าเสียดาย ใจและกายสัมพันธ์สักวัน......ดี O>O
3 กันยายน 2547 13:25 น. - comment id 322948
หวาดหวั่นหวิวไหวใจสั่น ยิ่งมองเห็นกันฝันผวา มีเงาตะคุมเดินดุมมา ทำให้เราผวาน่ากลัวจัง *-*กลอนแต่งได้ดีค่ะ งานนี้ผู้หญิงไร้เงาขออนุญาตมั่ว ๆ หน่อยแล้วกันค่ะ อิอิ*-*
3 กันยายน 2547 18:44 น. - comment id 323200
ชอบจัง.. เพราะดี ................................................... :)