ดุจห้วงห่วงหาอาวรณ์ หุบเหวเปลวร้อนจรถึง ไร้ซึ่งตรึงตราพาคนึง ลึกซึ้งพึงอันตรธานปลาย ห้วงเหวเปลวซึ้งถึงรัก จงตระหนักรักแท้แปรสลาย ไภรวภาวะจะกลาย ดำรงหมายปลายจุดสุดทาง ยามใดใจจมตรมรัก อุบัติหนักหักห้ามตามห่าง ตื่นตระหนกอกขมซมนาง ไร้ร้างต่างดำรงปลงรูปกาย แม้ร่างจางคลายมลายสูญ กอบกูลพูนผลยลหมาย รักแรกแทรกซึมซับพราย สูญสลายหมายปลาย...สัจจธรรม กายเธอนั้นมีเพียงฉันดำรงอยู่ เฉกเช่นรู้กายเธออยู่สถิตย์ล้ำ อมตะรักนิรันดร์หนาค่าครวญคำ ดำรงย้ำพร่ำรักแท้แน่นักเอย ...ไภรวสภาวะ คือ ภาวะแห่งความรักอันบริสุทธิ์ ที่ไม่มีการหวนกลับอีกต่อไป แต่จะดำรงอยู่ ณ จุดสุดยอดนั้นตลอดไป... ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรมทุกท่าน ขอธรรมะคุ้มครองสรรพสัตว์ทุกชีวิตในโลกมายามนุษย์นี้ด้วยเถิดหนา สวัสดี มหะศักติ กาลิ .......... บทกลอนไภรวภาวะบทนี้กล่าวถึง การปฏิบัติตันตระที่ลิขิตไว้ด้วยภาษารัก เพราะความรักเป็นอุบายขั้นแรกสุดสำหรับถ่ายทอดพุทธิปัญญาของตันตระ ไภรว คือศัพท์เฉพาะในทางตันตระสำหรับเรียกขานบุคคลที่สามารถก้าวล่วงแล้วจากทวิภาวะทั้งปวง ซึ่งเป็นการยากดังที่ท่านผู้เฒ่ากล่าว ด้วยเหตุเพราะว่า ต้องลงมือฝึกปฏิบัติและต้องละทิ้งกายเนื้อโดยสิ้นเชิงในขณะที่มีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นการปฏิบัติในขั้นอุกฤษ เหลือเพียงพลังทางจิตวิญญาณบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงจะเข้าใจในอุบายคำสอนที่ลึกซึ้งดังกล่าว ตันตระ ในศัพท์สันสกฤต หมายถึง หัวข้อ คำสอน หรือสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นเพียงอุบายวิธี (อุปายะ) หรือเทคนิคเท่านั้น ในทางมหายานหรือวัชรยานนั้น อุปายะ คือ หลักการที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งยวด กล่าวคืออาศัยอุบายวิธีเป็นพลังหนุนนำไปสู่มรรคผลที่พึงประสงค์ ซึ่งอุบายวิธีบางอย่างอาจดูแปลกประหลาดสำหรับชาวพุทธเถรวาทอย่างเรา บทกลอนข้างต้น กล่าวถึงสภาวะธรรมของบุคคลสองคน ที่ใช้ความรักเป็นอุบายในการก้าวล่วงจากทวิภาวะ ซึ่งบางท่านอาจไม่เคยพบหน้ากันเลย ร่างกายยังคงเป็นสอง หากแต่พลังทางจิตวิญญาณที่พ้นจากร่างกาย ได้หลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องของกามารมณ์แต่อย่างใด แต่ทว่า อันตรายอย่างยิ่งถ้ามัวไปติดตรึงอยู่กับมัน ต้องก้าวล่วงให้พ้น และแปรเป็นความรัก ความอบอุ่น ความเมตตา ให้ได้ในที่สุด ไร้ซึ่งสัมผัสทางกาย ไร้ซึ่งรูปหมายให้รู้ ไร้ซึ่งคำพรรณนาพรั่งพรู ไร้ซึ่งตัวตนกู ของกู เช่นกัน มณี ปัทมะ ตารา
30 สิงหาคม 2547 20:16 น. - comment id 319517
:)
30 สิงหาคม 2547 21:40 น. - comment id 319586
เขียนได้ดีครับ คุณมณี..ผมอ่านงานของคุณบ่อยๆ คิดว่าคุณเป็นบุคคลในแนวธรรม... ชื่นชมครับ..สิ่งที่ขาดในการนำเสนอและการวิสาสะของคุณ คือ..อุบาย..ลองตรองดูซักนิดครับ ยากนัก..สำหรับคนในยุคนี้ที่จะคิดลึกซึ้งกับคำสอนที่ลึกซึ้งเที่ยงตรง... สวัสดีครับ..ขอให้มีความสุข..
30 สิงหาคม 2547 21:51 น. - comment id 319603
แก้ม .. แวะมาทักทายพี่มณีฯ ค่ะ เหมือนเช่นเคย .. แก้มไม่ถนัดกลอนหรือบทกวีแนวนี้ ก็ได้แต่ชื่นชม .. และติดตามอ่าน .. ด้วยความรู้สึกดี ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ -`๏ิ__ิ`๏-
30 สิงหาคม 2547 23:48 น. - comment id 319706
แวะมาอ่านค่ะ ขอบคุณที่สร้างสรรแนวธรรมะให้เผยแผ่ ค่ะ
31 สิงหาคม 2547 00:02 น. - comment id 319720
ได้ทั้งสาระความรู้ และความงามของภาษาครับ
31 สิงหาคม 2547 02:23 น. - comment id 319782
เราเขียนงานแนวธรรมะพระพุทธศาสนาเหมือนกัน แต่แหมดูจากภาพแล้วนี่ เหมือนกับว่าเราอยู่กันคนละนิกายเลย ของคุณดูออกไปทางมหายาน ส่วนของผมเถรวาท ว่าเข้าไปนั่น ;)
31 สิงหาคม 2547 09:33 น. - comment id 319906
แวะมาอ่านมาเป็นกำลังใจ ไม่ใช่ใครคนกันเอง กลอนน่ารักดีนะครับ
31 สิงหาคม 2547 09:39 น. - comment id 319917
งามในอรรถภาษา..ที่ขานออกมาสั่งสอน เรื่องความรักและนิวรณ์มันเป็นเรื่องของ กิเลศ ผู้ใดได้เสพก็มักจะลุ่มหลงงมงาย ๚ะ๛ size>
31 สิงหาคม 2547 18:16 น. - comment id 320217
ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณทิกิ ขอบพระคุณในความเมตตาสำหรับกำลังใจที่มีให้ตลอดมาค่ะ
31 สิงหาคม 2547 18:44 น. - comment id 320248
บทกลอนไภรวภาวะบทนี้กล่าวถึง การปฏิบัติตันตระที่ลิขิตไว้ด้วยภาษารัก เพราะความรักเป็นอุบายขั้นแรกสุดสำหรับถ่ายทอดพุทธิปัญญาของตันตระ ไภรว คือศัพท์เฉพาะในทางตันตระสำหรับเรียกขานบุคคลที่สามารถก้าวล่วงแล้วจากทวิภาวะทั้งปวง ซึ่งเป็นการยากดังที่ท่านผู้เฒ่ากล่าว ด้วยเหตุเพราะว่า ต้องลงมือฝึกปฏิบัติและต้องละทิ้งกายเนื้อโดยสิ้นเชิงในขณะที่มีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นการปฏิบัติในขั้นอุกฤษ เหลือเพียงพลังทางจิตวิญญาณบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงจะเข้าใจในอุบายคำสอนที่ลึกซึ้งดังกล่าว ขอธรรมะคุ้มครองท่านผู้เฒ่าค่ะ ดีใจมากค่ะที่ท่านได้เมตตาแนะนำ และจะปรับปรุงแก้ไขต่อไปค่ะ
31 สิงหาคม 2547 18:47 น. - comment id 320254
ธรรมะสวัสดีค่ะ น้องแก้มป่อง ผู้มีอักษรสีสวย ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้พี่ตลอดมาค่ะ
31 สิงหาคม 2547 18:49 น. - comment id 320256
ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ตลอดมาค่ะ คุณอัลมิตรา ขอธรรมะคุ้มครองคุณค่ะ
31 สิงหาคม 2547 18:52 น. - comment id 320263
ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณม.ปณิธาน ขอบพระคุณในความเมตตาสำหรับกำลังใจที่มีให้ตลอดมาค่ะ ขอธรรมะคุ้มครองค่ะ
31 สิงหาคม 2547 19:32 น. - comment id 320284
ตันตระ ในศัพท์สันสกฤต หมายถึง หัวข้อ คำสอน หรือสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นเพียงอุบายวิธี (อุปายะ) หรือเทคนิคเท่านั้น ในทางมหายานหรือวัชรยานนั้น อุปายะ คือ หลักการที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งยวด กล่าวคืออาศัยอุบายวิธีเป็นพลังหนุนนำไปสู่มรรคผลที่พึงประสงค์ ซึ่งอุบายวิธีบางอย่างอาจดูแปลกประหลาดสำหรับชาวพุทธเถรวาทอย่างเรา บทกลอนข้างต้น กล่าวถึงสภาวะธรรมของบุคคลสองคน ที่ใช้ความรักเป็นอุบายในการก้าวล่วงจากทวิภาวะ ซึ่งบางท่านอาจไม่เคยพบหน้ากันเลย ร่างกายยังคงเป็นสอง หากแต่พลังทางจิตวิญญาณที่พ้นจากร่างกาย ได้หลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องของกามารมณ์แต่อย่างใด แต่ทว่า อันตรายอย่างยิ่งถ้ามัวไปติดตรึงอยู่กับมัน ต้องก้าวล่วงให้พ้น และแปรเป็นความรัก ความอบอุ่น ความเมตตา ให้ได้ในที่สุด ขอบพระคุณในความเมตตาของคุณOracleค่ะ ขอธรรมะคุ้มครองค่ะ
31 สิงหาคม 2547 19:37 น. - comment id 320286
ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณผลิใบสู่วัยกล้า ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ตลอดมาค่ะ
31 สิงหาคม 2547 19:39 น. - comment id 320291
เป็นความจริงดังที่คุณRobert กล่าวค่ะ ขอธรรมะคุ้มครองคุณค่ะ
31 สิงหาคม 2547 21:30 น. - comment id 320382
ไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ แวะมาชื่นชมผลงานนะค่ะ
31 สิงหาคม 2547 21:34 น. - comment id 320385
ไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ แวะมาชื่นชมผลงานนะค่ะ
31 สิงหาคม 2547 21:46 น. - comment id 320399
....พยายามจะเข้าใจนะ อืม ไปได้ถึงไหนก็ไม่รู้ซิขอรับ
31 สิงหาคม 2547 23:29 น. - comment id 320473
ก้าวล่วงไปถึงความคิดที่ว่าครอบครัวธรรมชาติหรือไร....ล่วงพ้นอัตตาหรืออย่างไร แนวคิดที่แสดงออกเช่นนี้งดงามในรูปการประพันธ์เชิงธรรมและเชิงปรัชญาซึ่งน่าเสวนามากนะครับ....
1 กันยายน 2547 19:28 น. - comment id 321271
ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณผู้หญิงไร้เงา ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ตลอดมาค่ะ ขอธรรมะคุ้มครองคุณค่ะ
1 กันยายน 2547 19:33 น. - comment id 321277
ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณรัถยา เป็นเพียงสภาวะธรรม ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อน แต่เมื่อถึงรอบของการปฏิบัติ เราก็จะเข้าใจในสภาวะธรรมนั้นๆเองค่ะ ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ค่ะ ขอธรรมะคุ้มครองคุณค่ะ
1 กันยายน 2547 19:49 น. - comment id 321287
ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณplaing_piu ไร้ซึ่งสัมผัสทางกาย ไร้ซึ่งรูปหมายให้รู้ ไร้ซึ่งคำพรรณนาพรั่งพรู ไร้ซึ่งตัวตนกู ของกู เช่นกัน ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ตลอดมาค่ะ ขอธรรมะคุ้มครองคุณค่ะ