ลำนำข้าวพราวไสวในห้วงมหรรณพ

พุด


url http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=25
**********
ปลีกวิเวก
ข้ามเรือลำน้อย
ค่อยค่อยพาลอยคว้างสู่ลำน้ำเจ้าพระยา
สู่ฝั่งฝัน นิรันดร์รัก*เกาะเกร็ดตระการ*


ใจดวงอิ่มงาม
ตื่นแต่อุษาสาง
แวะถวายภัตตาหารและใส่บาตร
นะลานหินโค้งลานโล่งว่างท่ามร่มธรรม..ธรรมชาติ
ให้วางทุกข์ทุกสรรพสิ่ง ทิ้งไว้ภายนอกใจ
ให้เสียงภายในกระซิบบอกสอนสั่งซ้ำๆย้ำใจตน
ฝึกให้ทาน ผ่านการเพาะบ่มโพธิจิต
ให้รู้จักชีวิต รู้เสียสละ ลดละและอย่าเลิกเพียร


เพื่อพาตนให้ข้ามพ้นสังสารวัฎฎ
แม้อาจจะต้องรอภาวนา
พาพบรหัสลับ
ที่จักไขบานประตูภายใน สู่อีกมิติหนึ่ง
ซึ่งมีเพียงตนเท่านั้นจะเพียรค้นพบ
ด้วยประสบการณ์จากตนเอง


หากมิท้อแท้แพ้พ่ายใจในคำใครคำคน
แม้นบางหนบางคราว
มากเรื่องราว
มากรายกล้ำทำร้าย
ทิ้งรอยแผลไว้ให้เจ็บปวดก็ตามที
จะสักกี่ทีกี่หน
กมลละไมก็มิยอมแพ้ใครแพ้ใจนาน
หากเซซังสิ้นหวังหวาน
ไม่ช้านานก็จะเพียรพยายามสร้างสติ


หยุดและทบทวนก้าวใหม่
ด้วยดวงใจอาจจะยังพอมีกุศลจิต
ให้พาคิดดีคิดได้
ไม่รานร้าวเศร้านาน
และดั่งบทกวีบทนี้
ที่ดั่งจะสะท้อนสะเทือนใจฝากประทับใจ
ตามติดเตือนใจสอนใจ
ให้ลุกขึ้นสู้กู้ความงามพร้อม
มิให้ดวงใจไหวครวญนาน


*อัตชีวประวัติห้าบท*ในเรื่องเหนือห้วงมหรรณพ*
1)ฉันเดินไปตามถนน
มีหลุมลึกอยู่ข้างๆ
ฉันตกลงไป
ฉันหลงทาง...ฉันสิ้นหวัง
นี่ไม่ใช่ความผิดของฉัน
แสวงหาชั่วนิจนิรันดร์เพื่อค้นหาทางออก
2
ฉันเดินบนถนนเส้นเดิม
มีหลุมลึกอยู่ข้างๆ
ฉันแสร้งมองไม่เห็น
แล้วก็ตกลงไปอีก
ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉันกลับมาสู่ที่เดิม
แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของฉัน
ต้องใช้เวลาช้านานเพื่อออกจากหลุม
3)ฉันเดินบนถนนเส้นเดิม
มีหลุมลึกอยู่ข้างทาง
ฉันตกลงไปอีก...เป็นนิสัยเสียแล้ว
ดวงตาของฉันเปิดกว้าง
ฉันรู้ฉันอยู่ที่ไหน
นี่เป็นความผิดของฉัน
ฉันออกจากหลุมโดยพลัน
 
 4)ฉันเดินบนถนนเส้นเดิม
มีหลุมลึกอยู่ข้างทาง
ฉันเดินอ้อม
5) ฉันเดินบนถนนสายใหม่
*******


และ
ดั่งคำพระพทธองค์ทรงตรัสไว้
ถึง*ความไม่เที่ยง*
รู้ว่าสรรพสิ่งเป็นดั่ง
มายา ปราสาทเมฆ
ความฝัน พยับแดด
ปราศจากตัวตน 
แต่มีคุณสมบัติที่สามารถแลเห็นได้
รู้สรรพสิ่งสิ่งเป็นดั่ง
ดวงจันทร์ในฟ้ากระจ่าง
ที่สะท้อนในทะเลสาบใส
ถึงแม้ว่าพระจันทร์ไม่เคยเคลื่อนมาสู่ทะเลสาบนั้น
รู้ว่าสรรพสิ่งเป็นดั่ง
เสียงสะท้อนที่ก้อง
จากดนตรี เสียง และการร่ำไห้
กระนั้นเสียงสะท้อนนั้นหามีทำนองไม่
รู้สรรพสิ่งเป็นดั่ง
ภาพลวงตาที่นักมายากลสร้างขึ้น
ไม่ว่าเป็นม้า วัว เกวียน และสิ่งอื่นๆ
แต่สิ่งนั้นหามีอยู่ไม่..
******


และตรงท่าเรือข้ามฟาก
ดวงเลือกอุดหนุนหมวก
ฝีมือ
คนไทยทำ 
ไทยใช้ ไทยเจริญ
ใบละ20บาท มาสองใบเป็นหมวกใบเล็กมีขอบ
ลายดวงดอกไม้สอดสร้อย
ร้อยพันพร่างเหลืองไสว


และ
อีกใบ
สีฟ้าสดสว่าง
ใส่ขับเสื้อสีชมพูในวันนี้
รับกับสร้อยหินสีจากธิเบตสีเทอร์ควอย์
ห้อยด้วยจี้เงิน
กำไลขวัญยังงามวะวาววับ
สะท้อนรับเรียวแดดอุ่นละมุนหวัง
เป็นดั่งพลังอันโอบเอื้ออ่อนโยน


กับวันนี้..
วันที่เมฆใสนวลสว่างกระจ่างไปทั่วทั้งผืนฟ้า
ยามฝนลาหลบเพียงวันแห่งวสันตฤดู


ดวงยืนทอดตาเหว่ว้า
ดู
ชีวาชีวิต..
วิถีแห่งสายน้ำนามเจ้าพระยา
มากเรือนไม้โย้เย้
มีศาลาทายทักริมฝั่งฝันปันเย็นฉ่ำระร่ำรินจากชายชล
ให้กมลขวัญ  ฝันปันปรุง


คิดถึง...
รุ่งอรุณยามเช้า
ยามฟ้าพราวพราย
ด้วยสายแสงแรกแห่งดวงตะวัน
ที่คงงามแฉกส่องกระจาย
ราวรัศมีรุ้งพุ่งผ่านม่านไหมหมอกเมฆ
เสกสายหวานหว่านนภา


มวลนกกาคงผกผินบินโฉบเหยื่อ
เหนือลำน้ำจากเหนือจรดใต้
ทั่วคุ้งโค้งโล่งแลละลิบทิวทิพย์รวงทอง
ปลุกฟื้นคืนชีวิตให้ผองชนคนบนริมฝั่งฝัน
พร้อมเผชิญวันอันหมุนวนหมุนเวียน


เจดีย์กลางน้ำยังเอนไหว
เหมือนสะท้อนใจสอนใจให้รู้ว่า 
ไม่มีอะไรในโลกนี้จะตั้งมั่นอยู่คงที่คงทน
มิลับลาเสื่อมสลาย ไม่ว่าจะวัตถุหรือผู้คน
ที่พากันมาวนว่ายว่องท่องสายน้ำเจ้าพระยา 
*ลำน้ำแห่งชีวาชีวิต*


ที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของชาวนาชาวไทย
ทั่วที่ราบให้มีน้ำหว่านกล้าหว่านหวังมานานปี
ผ่านท้องทุ่งนา ป่าเขา เงาละหาน
 ผ่านบ้านผ่านเมือง
สร้างเรืองรุ่งมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย


จากเหนือจรดใต้
เป็นสายใยอันแนบแน่นยาวยืน
บนผืนแผ่นดินทอง..นะที่แห่งนี้
มิหยุดไหลล่องหล่อเลี้ยงไทยทุ่ง มุ่งสู่ความเป็นจริง


จากที่สูง..ลงสู่ที่ต่ำ
ย้ำธรรมะ ธรรมชาติ
ไม่รู้สิ้น..
ว่าทุกสรรพสิ่ง
ย่อมคืนสู่ความเป็นธรรมดาชีวิต
ไม่มีอะไรสถิตสถาพร 
โดยไม่ยอมร่วงลับดับลง..คืนตรงสู่พื้นพสุธา
หากเราเพียรเพ่งพินิจ


ดวงอธิษฐานจิต
ในวันนี้หากดวงมีบุญหนุนนำ
ให้ใจดวงละมุนยิ่งงามสงบรำงับดับได้
ด้วยดอกความดีมีเพื่อนธรรมนำทาง
และ
ดวงตั้งใจพลีพร้อมน้อมจิตกราบกราน
พระประธานในโบสถ์คร่ำ
ขอคำอธิษฐานบนบานนั้นได้ผล


และ
เหนือสิ่งใด
ในวันนี้ที่แสนภูมิใจ
เมื่อดวง
ได้นำน้อมกมลละไม
อ่านบทกวีที่แสนงามออกอากาศ
วาดเวิ้งฝันอันละมุนละไม
ด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ


ที่
ทุกคนดีหลายดวงใจ..นิ่งฟังอย่างตั้งใจ
ถึงกับหยุดเดิน...
เสียงหวานเศร้า
มีพลังในบางครั้ง
แทรก..ทุกความรัก..ความหวัง
ความทรงจำ ความงาม ความดี
ความศรัทธาที่มีต่อผืนดิน
ดังร่ายมนตรา
ให้ก้อง..ทั่วท้องน้ำ
ลำน้ำเจ้าพระยา
ให้ฟ้าดินได้รับรู้
ถึงค่าคู่คำคนกวีเพื่อผืนพสุธา
ผู้รักรจนา
และ
มิหวังใด 
ด้วยเพียงใจรักร้อยสร้อยศักดิ์ศรี
สร้อยอักษราแห่งความดี
สร้อยชีวีชีวัน
อันเป็นพรสวรรค์พรแสวง
และ
อยากแต้มโลกนี้ด้วยดวงดอกไม้
และความงามความดี
ที่หวังจะมีชีวีทำสิ่งอันเป็นที่รัก
ฝากไว้ก่อนร่างไร้สิ้นลมหายใจ
ลาลับไปกับดวงตะวันมิช้านนาน
ขอเพียงฝากกานท์กลอน
อันหอมหวานละมุนกรุ่น
ด้วยความรักหนักแน่นภักดิ์พลี
ความมีน้ำใจเสียสละมากเมตตา
และ
การสอนให้รู้ค่ารักอันเหนือโลก
แม้นจะพบโศกสุด
ก็รู้หยุด รู้ให้ รู้อภัย
หวังเพียงใจดวงงาม
ได้สงบพบเงียบงาม
เพียงค่าแห่งความว่างในเบื้องปลาย
และฝากให้เป้นบทเรียนชีวา
ผู้ที่ยังว่ายวนในวงกรรม
ได้เรียนรู้รักอันเลอล้ำค่า
และฝากว่า
ให้เพียรหนีรักที่มักเป็นทุกข์วน
และ
ให้คนค้นคนผู้มากล้นค่า
ฝากงามแห่งธรรมชาติชีวิต
ด้วยถ้อยลิขิตรักรจนาอันน้อยนิดในธุลีไทย
ในผืนดินทองแห่งผองชน
ด้วยกมลอันอิ่มงาม
ตราบชั่วกาลนานนิรันดร์
เป็นขวัญพลีฝันดี
แด่ทุกดวงใจ


และ
น้ำตายิ่งเอ่อท้น
เมื่ออย่างน้อยก็ได้ทำกุศลจิต
ให้ทุกชีวิตได้ซึ้งซาบอิ่มเอิบอาบใจดวงเร่าร้อน
ให้หยุดผ่อนคลาย
ราวโลกคล้ายว่างลงชั่วสักขณะหนึ่ง


และ
น้ำตายิ่งล้นใจเมื่อไหววะแว่วหวาน
*บทเพลงบุพเพสันนิวาส*
ลอยแผ่วมาราวปลอบประโลม
หากวันนี้
คุณคนดีแวะผ่านมา
เห็นลีลาผู้หญิง..ผู้มาดมั่นใจ
ร่ายบทกวี..
ด้วยดวงใจ..ด้วยจิตวิญญาณ
คุณยังจะผ่านตาแบบไม่เหลียวมองได้ลงคอละหรือ!
นะคนดีที่รักเสียเป็นยิ่งนักแล้วค่ะ
*********


จบภาคแรก
และภาคต่อไป
พบกับ....คุณยายชราหมอดู
ที่ดวง..
ผ่านมาให้..ทายทัก
*ดวงชะตาของผู้เป็นที่รัก
ของใครบางคน
และ
น่าสนเท่ห์ใจที่มาในแนวเดียวกัน
ไร้คู่ไร้ขื่อ ไร้ใคร 
ถึงมีก็ไม่นานพานพลัดพรากจากลา
..........
และ
รอพบกับหนุ่มใหญ่
ที่ไม่น่าเชื่อเลย
ที่ชะตาฟ้าดินอินทร์พรหมส่งมา
พาให้พานพบ
จบลงด้วยคำว่ามหัศจรรย์ใจ
เขาคือใครใครคือเขา
หนุ่มใหญ่
บุตรชายพระฝรั่งที่เคยมาบวชกับ
พระพุทธโกษาจารย์ หลวงพ่อพุทธทาส
และ
มุ่งบำเพ็ญเพียรที่วัดเขาถ้ำวัด
สำนักวิปัสสนา
ที่ดวงได้อุทิศทาง..นำทุกดวงใจสู่ร่มธรรม
ให้เป็นดั่งฉัตรแก้วกางกั้น
คุ้มผองภัยแด่มวลมนุษยชาติ
ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยด้วยกัน


ชีวิต
วันนี้เหมือนฝัน
ส่ง..เขามา
ผู้บริหารโรงแรมระดับชาติที่ฮานอย
และที่เขมร
ที่มักต้องเดินทางทั่วโลก
เขารู้จักโลกย์เสียจนอิ่มเต็ม
และ
มีเสียงกระซิบให้เขานั้น
ทำหน้าที่สุดท้าย
คล้ายดั่งกัลยาณมิตรแด่เพื่อนมนุษย์
ด้วยบริสุทธิ์ใจบริสุทธิธรรมน้อมนำทาง
ดวง...
จะรจนา..ตามมาในไม่ช้าค่ะ
ได้โปรดรอติดตาม


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=25
ลุ่มเจ้าพระยา   
สุเทพ วงศ์กำแหง : : Key Am  
ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธารา ไหลล่อง
เพียง แต่มองหัวใจให้ป่วน
น้ำไหลไป มักไม่ ไหลทวน
ชีวิตเรา ไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน
เรา เกิดมา ผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิดมั่น
จง ผูกพันรักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่น นกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่กัน
เรา เกิดมาผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิด มั่น
จง ผูกพัน รักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่นนกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่ กัน...
 
  
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    29 สิงหาคม 2547 20:02 น. - comment id 318835

    
    จากบางบทตอน
    ในเหนือห้วงมหรรณพค่ะ
    ********
    หากคุณพบว่า
    สมาธิภาวนาไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ
    ในห้องของคุณในเมืองใหญ่
    ให้คิดค้นสร้างสรรค์วิธีการ
    และลองออกไปสู่ธรรมชาติ
    ธรรมชาติเป็น้ำพุแห่งแรงนันดาลใจ
    ที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง
    
    ทำจิตให้สงบ
    ด้วยการเดินเล่นตามสวนยามอรุณรุ่ง
    หรือดูน้ำค้างแต้มกุหลาบในสวน
    
    นอนบนพื้นดิน
    และ
    มองท้องฟ้า
    ปล่อยใจให้แผ่กว้างสู่เวิ้งฟ้า
    ให้ท้องฟ้าภายนอกปลุกท้องฟ้าภายในใจคุณ
    นั่งข้างลำธาร
    และ
    ผสานจิตให้กลมกลืนกับกระแสน้ำไหล
    เป็นหนึ่งเดียวกับเสียงที่ไร้จุดจบ
    นั่งริมน้ำตกและ
    ให้เสียงหัวเราะของน้ำตกนั้น
    เยียวยาชำระจิตของคุณ
    
    เดินบนชายหาด
    และ
    ให้ลมทะเลปะทะใบหน้าคุณอย่างหวานชื่น
    ชื่นชมเฉลิมฉลอง
    และ
    อาศัยความงามของแสงจันทร์กล่อมใจคุณ
    นั่งริมทะเลสาบ
    หรือในสวนดอกไม้
    แล้ว
    หายใจเงียบๆ
    ให้ใจคุณสงบงัน
    ขณะที่ดวงจันทร์ลอยขึ้นมาอย่างสง่างาม
    และช้าในคืนแรม
    
    
    
    ทุกสิ่งสามารถเอามาใช้
    เพื่อน้อมนำใจให้เกิดสมาธิ
    
    รอยยิ้ม ใบหน้าในรถใต้ดิน
    ภาพดอกไม้น้อยๆ ตามรอยแตกของทางเดิน
    ผ้าสีสวยที่หย่อนตัวลงมาตามหน้าต่างร้าน
    
    แสงอาทิตย์
    ที่ฉายกระทบกระถางดอกไม้บนหน้าต่าง
    
    ขอให้
    ตื่นตัวกับสัญญาณแห่งความงาม
    หรือ
    ความสง่าใดใดก็ได้
    ปลุกให้ใจเริงร่า ตื่นตัวในทุกขณะ
    ต่อ*ข่าวที่มักผุดมาจากความเงียบ*
    
    คุณจะค่อยๆกลายเป็นอาจารย์
    ผู้รังสรรค์ความสุขแห่งตน
    ผสมผสานปิติให้ตนเพียบพร้อม
    ด้วยสิ่งเยียวยาใกล้ตัวที่ช่วยชุบชูใจ
    
    ยังจิตให้สดชื่นแจ่มกระจ่าง
    และ
    หล่อเลี้ยงทุกลมหายใจและทุกความเคลื่อนไหว...
    
    
    
    
    
    
    
    
    
  • ฟองอากาศ

    29 สิงหาคม 2547 21:55 น. - comment id 318918

    มาเยี่ยมเยียน and ทักทายค่ะ
    
    คิดถึงจัง..
    
    .................................................. :)
  • พุด

    29 สิงหาคม 2547 22:26 น. - comment id 318952

    พุดรอดูพิปิดโอลิมปิคค่ะ
    และ
    กับเย็นที่ผ่านมาน้ำตาหยาด
    ด้วยปลื้มใจภูมิใจสะเทือนใจ
    ในน้ำใจลูกผู้ชายชาตินักกีฬา
    วรพจน์เพชรขุ้ม คนดีศรีสุราษฎร์
    เมืองคนดี
    ร้อยเกาะ เงาะอร่อย 
    หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมมะ
    ของพุด..
    พุดขอแสดงความยินดี
    และชื่นชมศรัทธา
    นะบัดนี้เขาคือฮีโร่ในดวงใจพุดพัดชาค่ะ
    ทุกลีลาการตอบถ้อย
    ทุกหมัดที่ต่อยออกไป
    ทุกหัวใจเกินร้อย
    ทุกเททุ่มใจฝึกซ้อมมาอย่างแสนเหนื่อยหนัก
    ทุกความรักและความภาคภูมิใจในบ้านเกิด
    พุด..ยกหัวใจและศรัทธารักให้แล้วค่ะ
    
  • ll๛…เมกกะ๛ll

    29 สิงหาคม 2547 22:49 น. - comment id 318967

    อาจหนึ่งในไอหมอกระคายผิว 
    ฤๅอาจเพียงรอยริ้วจากลมผ่าน 
    ฝากฝันซึมซาบร่ายตำนาน 
    เวลากาลหมุนเวียนจึงหวนคืน 
    
    ดอกไม้งามช้ำในไอหมอกหนาว 
    รวดร้าวบาดแผลสุดขมขืน 
    ไร้ซึ่งเรียวแรงจะหยัดยืน 
    จึงพึ่งพื้นผืนดินกลบร่างตน 
    
    ในดวงใจเจ้าเคยมั่นศรัทธามั่น 
    เพื่อปูทางสร้างฝันมาเสพสม 
    แต่ยิ่งรอกลับยิ่งคว้างคว้าเพียงลม 
    สิ่งที่ชมคงเหลือหยาดน้ำตาลา ฯ
    
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+ ผู้ชายอารมณ์ดี +-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
    
  • พันดาว

    29 สิงหาคม 2547 23:09 น. - comment id 318974

    บทกลอนงดงาม
    น่าติดตามเสมอ
    ...
    พันดาวได้อะไรมากมายจากบทกลอนของพุดเสมอเลย :-)
  • พุด

    29 สิงหาคม 2547 23:28 น. - comment id 318981

    ร้อยพันดาวพราวพรายแสงแรงร้อยรัก
    เฝ้าทอถักทอทอดออดอ้อนขวัญ
    หวังคนดีมีความสุขทุกคืนวัน
    สำหรับขวัญคิดทุกครายามมองฟ้าประดับดาว
    ประดับใจ
    
    ด้วยซึ้งใจ
  • พุด..

    29 สิงหาคม 2547 23:51 น. - comment id 318987

    ราตรีสวัสดิ์สำหรับคนไร้คู่
    ราตรีสวาทสำหรับคนมีคู่
    เคียงเขนยเฝ้าเชยชิดอภิรมย์อภิรักษ์
    
    ขอลาทุกที่รัก
    นักกลอนนอนดึกราวตัวแรคคูน
    ทุกคืนฝันวันหวานค่ะ
    ฝากดวงดอกไม้ไทย
    วางริมหมอนนอน
    เคลียแก้มแต้มฝัน
    ให้ฝันฝันฝันหวานหวานหวานดีดีดี
    พุด
    ขอไปเปิดโคมไฟอบอุ่นพร่างอ่าน
    หนังสือ*เหนือห้วงมหรรณพ*
    ให้ครบสามจบเลยแล้วค่ะ
    และจนกว่าซาบซึ้ง
    ถึงความว่างจากทุกสรรพสิ่ง
    กระซิมริมหูไรผม
    ฝากให้ฟังบทเพลงลุ่มเจ้าพระยา
    คลิ๊กurlฟังนะคะ
    พุดชอบเนื้อหาที่เตือนใจมากค่ะ
    และกับตรงนี้คำสุดท้ายท้ายสุดค่ะ
    *******
    ขอจงเป็น เหมือนเช่นนกไพร
    ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่ กัน...
    
    รักล้นใจ
    พบกันในวันพรุ่ง
    หากยังมีลมหายใจแห่งรักรจนาค่ะ
    ทุกดวงใจ
    
    
    
    
  • รัถยา

    30 สิงหาคม 2547 03:01 น. - comment id 319015

    ....มาเยี่ยมนะ อักษรยังพรั่งพรูอยู่เหมือนเดิม
  • Robert TingNongNoi

    30 สิงหาคม 2547 10:09 น. - comment id 319108

     
    งดงามกินใจเช่นเคยครับ
    สำหรับผลงานชิ้นนี้๚ะ๛
    
    size> 
    
  • แว่นดอย

    30 สิงหาคม 2547 11:30 น. - comment id 319149

    ข้าพเจ้ามาทักทายพี่พุดค่ะ
    งดงามเสมอเลยค่ะ
    ....คิดถึงนะคะ
  • กอกก

    30 สิงหาคม 2547 17:14 น. - comment id 319394

    ชีวิตคนเรา..บางครั้งเหมือนสงบและนิ่งเฉยแต่ก็ยังเหมือนมีอะไรอยู่ภายใน และอิ่มเอมกับสิ่งนั้นแม้น..มันจะทำให้เราเจ็บปวด
    คล้ายๆ ว่ามีอะไรอยู่ภายใน...
    อ่านเรื่องของคุณพุด บางจัวหวะคล้ายๆ เราอยู่ไม่น้อย จึงอ่านงานเหล่านั้นด้วยความรู้สึกไม่ธรรมดาเลย...
    งานของคุณพุด เขียนได้ดีมากๆ ค่ะ
    สวัสดีค่ะ..
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน