..๏ ยามเยือนเรือนไม้เชิงเขา.......เมื่อครั้งยังเยาว์ ยังเฝ้าตรึงจิตอดีตกาล มากมวลแมกไม้สายธาร...............บัวตองตระการ เหลืองล้ำสะคราญชวนมอง ผลิแย้มยามยลจนปอง................. หมายใจใคร่จอง บุปผางามผ่องพิไล เอื้อมเด็ดดอกชมสมใจ..................หวาดหวั่นทันใด เกรงให้ช้ำชอกดอกงาม ฯ ..๏ ลมแผ่วพัดสู่ลู่ตาม....................ต้องดอกเหลืองอร่าม ช่างล้ำพิลาสอัศจรรย์ ต้นใบโยกย้ายโดยพลัน.................เหลื่อมล้ำเรียงกัน เพียงนั้นงามซึ้งตรึงตรา มวลภู่หมู่ผึ้งนานา..........................มุ่งมาดปรารถนา บินมาชมชื่นรื่นรมย์ แตะนิดต้องน้อยพลอยสม-.............ใจเพลินเหินลม แยกย้ายหมายชมเรื่อยไป ฯ ..๏ บัวตองไป่ช้ำเพียงใด.................ยังล้ำวิไล งามงดสดใสโสภี คงชูเชิดช่อมากมี..............................ผ่องพรรณศันสนีย์ เปรมปรีดิ์ที่ได้ทัศนา แม้นจรจากไกลลับตา...................... บ่สิ้นถวิลหา จักมาเยี่ยมเยือนเหมือนเคย ชาวใต้หมายใจใคร่เฉลย...................หวังเทียบเปรียบเปรย ชิดเชยชื่นชมความงาม ฯ ..๏ ฝนลมพัดหวนลวนลาม................อย่าร้างโรยตาม เมื่อยามวันเปลี่ยนเวียนไป ฤดูกาลผ่านพ้นเพียงใด......................อยู่รอดปลอดภัย แม้นใครหมายปองต้องตา จงสงวนท่าทีกิริยา.............................ยังเปี่ยมปรารถนา ด้วยซึ้งตรึงตาบัวตอง หวังชื่นชมชอบครอบครอง................หลงใหลใฝ่ปอง มวลดอกบัวตองผ่องพรรณ ๚ะ๛
22 สิงหาคม 2547 22:59 น. - comment id 314956
ทุ่งบัวตองบานแต้มเต็มดอย ผู้คนคอยมุ่งไปชมเป็นแสน ดอกเป็นหมื่น คนเนืองแน่น ไปแห่แหนขบวนดอกไม้ด้วยน้ำมัน ทุ่งบัวตองทิ้งร่างลงทับถม บ้างเป็นตมเป็นปุ๋ยจนถึงฟอสซิล คนเราอับเฉาเหลือถวิล กินเที่ยวดื่มกินทิ้งขว้างเป็นอย่างขยะ กว่าแรมปีถึงมีดอกแต้ม กว่าจะแจ่มแฉล้มสวยประดับดอย ขอความงามนี้จงไม่คล้อย บางมนุษย์ตัวน้อยรักษาและดูแลให้ยั่งยืน เบื่อเหลือแสนการแห่แหนตามกระแส จนไม่รู้คุณค่าแท้ของบัวตอง จากดอกไม้ถิ่นไกลถึงอินโด เดินทางมาพันกิโลจากชาวดัทช์ จะมาสูญมาสิ้นที่ดินไทย มีแต่แย่งกันไม่ปันแบ่ง จะดอกไม้ดอกไหนก็ไม่แกร่ง หากใจอนุรักษ์ไม่ตระหนักถึง เที่ยวได้ไปด้วยเข้าใจถิ่น เที่ยวถึงดื่มกินด้วยน้ำใจ เจ้าบ้านแขกเยือนย้ำเตือนใจ สิ่งแวดล้อมไซร้ ต้องเป็นไปมากกว่าเงิน สมัยนี้อะไรก็สะดวกขึ้น การเข้าถึงธรรมชาติเพื่อชาร์จพลังงานใจกับการเป็นการจราจล การจัดการยังไม่เข้มข้น ความงามแท้ๆตามสถานที่ท่องเที่ยวถูกดัดแปลงเพื่อผลกำไรทางการค้าเกินควร สมัยก่อนยังมองไม่ออกคึกคะนองไปตามประสา มาวันนี้ไปหนสองในแต่สถานที่แล้วสงสาร เห็นใจ ใครๆก็มีสิทธิท่องเที่ยว แต่ทำไมไม่เคารพรักษาทรัพยากรกันเลย ดอกบัวตองเคยแต้มน้ำค้าง กลับมาร้างมาแต้มน้ำตาตัว สีเหลืองสว่างก็หม่นมัว ความสลัวคลี่คลุมรุมโทรมธรรมชาติไทย
23 สิงหาคม 2547 01:02 น. - comment id 315016
... ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปเลย เเห็นแต่รูปกับคนอื่นเล่าให้ฟัง
23 สิงหาคม 2547 09:25 น. - comment id 315065
ไกลมากเลยอ่ะ กุ้งฯ ชมทุ่งทานตะวันเมืองลพบุรีไปพลางๆ ก่อนน่ะ..อิอิ..... .. สีทองเหมือนกันเลย..ดอกโตงามตา..เดี๋ยวเขียนมั่งน่ะ...555.. .. ป.ล.คิดถึงมากๆ ค่ะ.. ..
23 สิงหาคม 2547 10:27 น. - comment id 315094
สรรสื่ออย่างจริงใจ จึงเห็นได้อย่างงามตา ๚ะ๛ size>
23 สิงหาคม 2547 12:21 น. - comment id 315175
เป็นบัวไม่เหมือนบัว แต่งามทั่วในทิศา เหลืองอร่ามดูงามตา ในหุบผาใต้ฟ้าคราม ยามเยือนขยับยล ขยายค้นพยายาม หมื่นภูทะลุข้าม เขยือนเขาเข้ามาชม มาเยือนครับ
23 สิงหาคม 2547 12:31 น. - comment id 315185
งามดีค่ะ
23 สิงหาคม 2547 12:48 น. - comment id 315196
ช่างยากเสียแล้วเอ๋ยอกเราถิ่นเหนืออันวิไลกระจายด้วยมวลไม้นานาพันธุ์ ทุ่งบัวตองเอ๋ยทุ่งบัวตองอร่ามน้องงามงอนหรือไฉน พี่ใคร่ยลด้วยหัวใจแต่มันไกลเสียท้อในวิญญา เขาพลันสร้างภาพพจน์จรดยิ่ง เหมือนทุกสิ่งเป็นเงาช่างร้างห่างไกลเสียเหลือเกิน โธ่อนิจจาอกเราจะเหมือนเขาเป็นลิงที่วิ่งหากระจายไปทั่วพาราได้ฤาไฉน......... แก้วประเสริฐ.
23 สิงหาคม 2547 13:05 น. - comment id 315214
เคยไปแม่ฮ่องสอน แต่ไม่ได้เฉียดไปดูเลยค่ะ กลัวฝูงชน เลยหนีไปล่องสาละวิน กางเต๊นท์นอนริมฝั่งใกล้ๆ หมู่บ้านกะเหรี่ยง เงียบสงบ...บรรยากาศดีมาก ตอนเช้าจะมีหมอกจางๆ ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือผิวน้ำ แต่ถ้าไปตอนที่กำลังเหงาๆ สงสัยจะอาการหนักกว่าเดิมค่ะ อิอิ เดี๋ยวนี้ปลอดภัยแล้วค่ะ ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็จะมีระเบิดข้ามไปข้ามมา (พ่อหลวงหัวหน้าหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงเล่าให้ฟังค่ะ) แต่พอได้อ่านโคลงคุณอัลมิตรา ก็เริ่มรู้สึกอยากจะไปขึ้นมาแล้วล่ะสิคะ อิอิ.. ..........................................................................................................
23 สิงหาคม 2547 13:29 น. - comment id 315225
สวยงามทั้งกลอนและของจริงค่ะไปมาแล้วววว แต่ถ้าใครไปไม่ไหวแวะมาดูมาชมที่เมืองลิงก่อนอิ อิ ดอกทานตะวันไง มีเขื่อนป่าสักสวยๆด้วยนะจะบอกให้
23 สิงหาคม 2547 15:31 น. - comment id 315297
คุณpigstation .. การท่องเที่ยวทางธรรมชาตินั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสงวนให้คงค่าแห่ธรรมชาตินั้น หลายครั้งที่อัลมิตราบุกเข้าป่า ยอมเหนื่อยกายและทุลักทุเลหน่อยในการเดินทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันคุ้มค่าจนหาที่เปรียบมิได้ และเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะมีโอกาสนอนเต้นท์ ถึงแม้ว่าหลายๆอย่างจะไม่สะดวกสบาย ไม่เหมือนพักที่รีสอร์ทหรือโรงแรม แต่ก็สุขใจเหลือเกิน เสียงจิ๊บๆของนก เสียงไก่ป่าขัน หรีดหริ่งเรไร เสียงกบเขียดระงมร้อง .. สิ่งเหล่านี้ อัลมิตราซึ่งเป็นคนเมืองกรุง ไม่ค่อยมีโอกาสได้สัมผัสมากนัก .. ดังนั้น.. ทางเลือกของการพักผ่อนของหลายๆคนอาจจะแตกต่างกัน ตามความต้องการของแต่ละคน หากแต่สิ่งทีเหมือนกันก็คือ ความสุขที่ได้เสพย์จนเต็มอิ่ม เพื่อที่จะได้กลับมาต่อสู้กับหน้าที่การงานอีกครั้ง ให้รางวัลกับตนเอง ด้วยการแสวงหาในสิ่งที่ตนเองอยากจะเติมเต็มให้กับชีวิต .. คุณรัถยา .. อัลมิตราจะสารภาพว่า ที่เขียนไป คือภาพในความทรงจำเมื่อครั้งเยาว์วัย เพราะว่าที่พักร้อนไปเยือนเมืองเหนือครั้งนี้ ดอกบัวตองยังไม่บานสะพรั่งเลยค่ะ คุณกุ้ง .. คิดถึงเช่นกันนะคะ คุณโรเบิร์ต .. รับฝากข้อความหรือเปล่า คะ :) แม้นหลับตาคราใดปล่อยใจพริ้ว ให้ลอยลิ่วผ่านฟ้าเวหาเหิน กางปีกรักร่อนคว้างอย่างเพลิดเพลิน ชมโนนเนินป่าเขาลำเนาไพร สูดไออุ่นกรุ่นกลิ่นดินชุ่มชื้น แสนสดชื่นเริงรมย์ชมฟ้าใส แม้นเมฆาหลากลักษณ์มากเพียงใด จักบินใกล้โฉบเฉี่ยวเหลียวแลมอง ภูผาเด่นตระหง่านล้ำงามสง่า มวลพฤกษายวนใจใคร่สนอง สีเหลืองพราวหอมจรุงทุ่งบัวตอง ยามแดดส่องสะท้อนประกายคล้ายทองทา บินลัดฟ้าเยือนเหนือเมื่อพักร้อน แล้วออดอ้อนหว่านคำดุจพร่ำหา เก็บบัวตองเต็มหอบมอบเพื่อนยา เผื่อคนไกลรู้ว่า..ยังคะนึง คุณส่องหล้า .. ดีใจจังค่ะ ที่คุณมาเยือน สัปดาห์ที่แล้วลาพักร้อนไปแอ่วเมืองเหนือ บรรยากาศสดชื่นมากเลยค่ะ .. ที่อยากจะเล่า มีแยะเชียวค่ะ คุณทิกิ .. ขอบคุณมากค่ะ คุณแก้วประเสริฐ .. สงสัยอกหักเพราะรักสาวเหนือ แน่ๆเลย กิ้วๆๆ คุณลี่ .. ค่ะ แม่ฮ่องสอน เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจนะคะ ต้องหาทริปยาวๆ ความจริงอัลมิตราชอบที่จะอยู่นานๆในสถานที่ๆพอใจ ประเภทที่วิ่งรอกแป๊บๆ แล้วต้องเดินทาง ย้ายไปเที่ยวที่ใหม่ ดูเหนื่อยจัง และทำให้ยังไม่อิ่มเอมใจเท่าที่ควร ทริปที่ไปเที่ยวล่าสุดมานี่ ตอนแรกว่าจะไปที่หมู่บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร (เชียงราย) แต่ด้วยความที่จัดสรรเวลาไม่ดีพอ จึงต้องจำใจตัดโปรแกรมออกไปบ้าง เสียดายจังค่ะ เฮ้อ !! ..อยากอยู่หลายๆวันเสียด้วยซ้ำไป พักแบบโฮมสเตย์ ดูวิถีชีวิตของชาวบ้าน น่าจะเป็นดีนะคะ แค่คิดก็สุขแล้วค่ะ คนเมืองลิง .. เคยไปทุ่งทานตะวันนะคะ สวยเหมือนกัน มองแล้วเหลืองพราวสุดสายตา ตอนนั้นที่ไป น่าจะเป็นต้นเดือนธันวาคม ๒๕๔๔ .. ทางผ่านไปโรงเรียนลำสนธิ ชัยบาดาล เอาของไปบริจาคกันค่ะ ตอนนั้น จำได้ค่ะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
23 สิงหาคม 2547 19:12 น. - comment id 315378
เรียนคุณอัลมิตรา มีอะไรไม่รู้มาที่ความเห็นของpigstation ใช้การแอบอ้างว่า ควาย ที่ตั๋วรถไฟไร้สถานี ที่อัลมิตราให้ความเห็นว่า มิตรภาพอบเซาน่า กับ มิตรภาพอาบสปา แล้วมีคำตอบมาสองคำตอบ คำแรกว่า ๕๕๕ เปลือย เราเชื่อว่าเป็นการโต้ตอบ แต่ คำตอบต่อมา ควาย คำเดียวเลย อย่ามาให้เกิดการยุแหย่เลย เรามีภูมิต้านทานพอกับเรื่องไม่ซึ่งหน้าอยู่แล้วเนอะ บ้านเลขที่ มือถือ โทรมาเลยถ้าไม่พอใจอะไร เฮ้อ...ความจริง...เราก็ควายแหละควายที่กำลังตั้งคำถามว่าควายไทยกับโปเกมอน คุณจะเลี้ยงใคร
23 สิงหาคม 2547 21:41 น. - comment id 315490
คุณpigstation .. ยิ้มหน่อย นะ นะ .. อัลมิตราเขียนอธิบายไปแล้วค่ะ ในกระทู้ของคุณ ยกตัวอย่าง เขียนสรุปจนกระจ่างไปแล้ว ค่ะ ในโลกของเน็ต ก็เหมือนสังคมทั่วๆไป ที่คละเคล้าผู้คนหลายหลาก การที่ใครสักคนเจตนาดีกับเรา หวังดีกับเรา ก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่หากมีบางคนที่มุ่งร้ายต่อเรา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ อัลมิตราคิดว่า มันขึ้นอยู่กับจิตใจของเรามากกว่า ที่จะเลือกหยิบสิ่งที่ดีมาจรรโลงใจให้เบิกบาน หรือเลือกหยิบคำสกปรกเหล่านั้นมาทำร้ายใจตัวเอง .. ดังนั้น หากมีคนยื่นไฟมาให้ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้อง ทุรนทุราย เต้นตามความร้อนระอุ ที่เขาโหมมา .. ข้อสำคัญก็คือ รักษาภูมิต้านทานของเราไว้ให้ดีนะคะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า อัลมิตราไม่ได้ใช้คำนี้เพื่อเป็นสโลแกนเท่ห์ๆ หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว อัลมิตราใช้ความหมายของคำนี้ เป็นตัวกำกับความเป็นเพื่อนของเรา ค่ะ เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่มั๊ย ..? ยิ้มหน่อยน่า นะ นะ .. :) มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
23 สิงหาคม 2547 23:17 น. - comment id 315566
ไม่เคยได้เห็นซักที คงจะจินตนาการแต่งเป็นบทกวีแบบมั่ว บัวต้องต้องมือหมายดม มองดูน่าชม แนบชิดชวนเชยซึ้งทรวง มีชายหมายปองครองดวง คนดาษดื่นปวง เด็ดไปหลายหลากมากมี
23 สิงหาคม 2547 23:24 น. - comment id 315585
คุณชัยชนะ .. จุ๊ๆๆ นั่นคือความทรงจำเมื่อตอนอัลมิตรายังเด็กนักค่ะ วิ่งเล่นแบบไม่รู้จักเหนื่อยเลย หลายปีที่ผ่านมานี้ ยังไม่มีโอกาสไปเยือนตอนดอกบัวตองบานเลยค่ะ .. อย่าเอ็ดไปน๊า ..
23 สิงหาคม 2547 23:52 น. - comment id 315616
มาบอกคำลาว่ารู้อยู่กลายๆแต่เราอารมณ์ร้อน ไม่ได้นับหนึ่งถึงสองเลย ขอลาแล้วนะ หากจะติดต่อมาก็ KITTYCOOLL@HOTMAIL.COM หรือ กิตติคุณ ธรรมศิริ ร้านปั๊มหนังสือ 285/3 ม.1 อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี 61140 โทร 09-9570857 ยินดีครับ ขอโทษที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนตามการปั่นกระทู้ ยังยิ้มอยู่
24 สิงหาคม 2547 09:30 น. - comment id 315833
ร้านปั๊มหนังสือ .. ชื่อร้านน่ารักจังค่ะ เคยอ่านบทความของคุณ มีชื่อร้านปั๊มหนังสือด้วย จำได้นะ .. ไม่รู้ว่าคุณจะเข้ามาอ่านกระทู้นี้อยู่อีกหรือเปล่า แต่อัลมิตราจะเล่าให้ฟังนะคะ .. วันที่ 21. กำหนดการเดินทางกลับจากเชียงราย กลับสู่กรุงเทพ .. แวะจอดหน้าวัด (จำชื่อไม่ได้ค่ะ) ตรงข้ามวัดเป็นร้านหนังสือเก่า หลังจากที่อัลมิตราเดินออกมาจากวัดแล้ว ก็ข้ามฝั่งไปยังร้านหนังสือเก่าค่ะ เลือกหนังสืออยู่นานพอสมควร ได้มาสองเล่ม คือ ยิวและอาหรับ อีกเล่ม เป็นหนังสือปรัชญา .. เจ้าของร้านเป็นผู้หญิง อัชฌาสัยดีมากค่ะ แนะนำหนังสือหลายเล่มให้อัลมิตราอ่าน ลูกชายตัวน้อยของเจ้าของร้าน ก็ช่วยรื้อหา ดูแล้วเขามีความสุขกับงานที่เขาชอบ .. อัลมิตราก็รู้สึกยินดีไปด้วย ตอนนี้หนังสือสองเล่มนั้นยังอยู่ในถุง ว่าจะหาเวลาว่างเปิดอ่านสักหน่อย มาไกลเชียวนะสองเล่มนี้ .. ยิ้มไว้นะคะ โลกนี้จะสดใสยิ่งนัก.. มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
24 สิงหาคม 2547 17:36 น. - comment id 316052
ใกล้หน้าหนาวแล้ว ดอกบัวตองกำลังจะออกมาสำแดงเดช จดจ่อรออยู่ครับ
24 สิงหาคม 2547 22:01 น. - comment id 316203
ขอบคุณมากค่ะ คุณรักษ์ .. ดอกบัวตองงามมากๆค่ะ อยากจะหอบทั้งหมดมาฝากเพื่อนๆคนละดอกสองดอก ..ค่ะ
19 มกราคม 2548 00:19 น. - comment id 408910
เพราะมากค่ะ