url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=45 (บุพเพสันนิวาส) พลีมอบแด่ทุกดวงใจทุกทุกข์รัก *********** ผม..ตื่นนอนมาตอนตีห้า เดือนยังลอยเด่นดวงระยับฟ้าทางทิศตะวันตก.. ดุเหว่า..นกไพรผกโผผินออกหากินบินคู่กันไป อรุณเบิกฟ้าเริ่มคลี่แสงหวานใสสีอำพัน.. ผมรู้สึกเงียบงัน กับฉากฝันงดงามตรงหน้ายามอุษาสาง หัวใจดวงเข้มแข็ง แฝงพลังความอ่อนโยนอบอุ่นละมุนละไม ราวกลีบดอกไม้ไพรค่อยค่อยคลี่กลีบเบ่งบาน รับหอมงามจากสายแสงแรกแห่งดวงตะวันอันอ่อนอุ่น ประตูบ้านภายในของชีวิตผมถูกเปิดออก ในความนิ่งงันนั้น.. ผม..พาตัวผมกลับเข้าไปสู่*แสงจรัสจ้า* *พลังวิเศษที่ลึกล้ำ* เกินกว่า สายตาภายนอกจะมองเห็นเช่นปกติธรรมดา.. ผม...กำลังใช้ความเงียบงาม แห่งธรรมชาติทั้งมวลอันยิ่งใหญ่นั้น *หยุดใจ หยุดความคิด..* ผันพา*ความรู้สึกตัวทั่วพร้อมทุกอณู*.. เข้าไป*สู่มิติแห่งความจริงแท้* ที่ผมเพียรใช้เวลานานหลายปีเพื่อค้นหา ด้วยการปฎิบัติจริง เพื่อพิสูจน์.. ความจริงยิ่งกว่าจริง.. ที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นดั่งแก่นแท้ในชีวิต กว่าการเล่าขานใดใดจากปากต่อปาก.. หากต้องใช้ความเพียรลงมือกระทำ..เอง คนดี..และ ไม่ว่าราตรีนี้ คุณจะนอนนิทราหลับฝันอยู่นะหนใดในหล้าโลก ผม..ผู้มีโชค..ได้เกิดมาพบและรักคุณ แบบเหนือโลกย์โศกสุขพ้นทุกข์รัก.. อยากเพียงกระซิบบอกความลับในใจนี้ ที่ผมค้นพบ*พลังจิตมหัศจรรย์* ให้คุณเพียงนั้นได้รับรู้ก่อนเป็นคนแรก เพราะ... ผม..มิอยากให้เราสองต้องแบก *โลกแห่งรักหนักราวศิลา* ที่แสนหนักนักหนาไว้บนแอกใจ ไปตราบชั่วกาลนานนิรันดร์ ผม..หวัง...จะเป็นดั่งดวงแก้ววิเศษ ส่องนำทางสายสว่าง ที่ผมเพียรพบนี้ ให้คุณได้ก้าวสู่บานประตูลับนี้ ที่เปรียบเสมือนดังสะพานผ่าน สู่*ห้วงแห่งมิติที่ไร้กาลเวลา มิติ..ที่เรียกว่า*แสงสว่างทางปัญญา* ที่ที่ซึ่งจะไม่มีคำว่าอดีตและอนาคต คนดี... แค่เราสองนี้เพียรกำหนดจิตพิสุทธิ์ใสผ่องแผ้ว ให้อยู่ใน..การกระทำปัจจุบัน.. จะพานพาเราสองนั้น.. พลันพบ*อาณาจักรแห่งความสงบล้ำลึก* อย่างนึกไม่ถึง พบ.. ความเกษมซึ้งซึ่งโปร่งแสง พบความแกร่งกล้า.. และ คนดี.. นั่นคือแก่นแท้ในตัวคุณ*ผู้มีเนื้อนาบุญ ที่กุศลส่งมาให้เราสองต้องพ้องพาน ได้มาพบกัน..รักกัน..ปรารถนาดีต่อกัน ผม.... จึงอยากแบ่งปันความงอกงามนี้ พลีแด่จิตวิญญาณคุณ เหนือ..มากกว่า*การให้..หรือได้รับ*สิ่งใด เพราะมันจะไม่มีวันแตกสลาย มันจะตามติดจิตวิญญาณคุณไป และ แม้ในนาทีสุดท้าย หากคุณพลาดพลั้งการ..รู้แจ้งมาตลอดชีวิต ขอเพียงคุณมีจิตสว่างว่างเพียรเพาะบ่มบุญ สร้างกุศลเสียสละมามากพอ ประตูบานสุดท้ายจะเปิดรอทันที เมื่อร่างกายคุณใกล้จะดับสูญ คุณจะมีความรู้สึก*สุขเกษมสงบนิ่ง*เหมือน ในหนังสือ*Tibetan Book of The Dead * อธิบายไว้ว่า...จะมี *รัศมีจรัสจ้าแห่งแสงที่ไร้สีของความว่างเปล่า* มานำทางเราไป และ มาตรแม้นเราไม่เพียร.. *ให้เข้าถึงอาณาจักรแห่งความสงบล้ำลึก* ซึ่งเป็นการฝึกการตายก่อนตายแล้วไซร้ เราทุกคนอาจจะพลาดได้เมื่อ บานประตูสุดท้ายนั้นเปิดออก ให้พบแสงสว่างจ้าพาไปพบ ที่สงบเย็นว่างไร้ร่าง มิต้องวนมาเกิดรับกรรมใหม่ ที่มนุษย์มักหันหนีไปโดยอัตโนมัติ ด้วยความไม่รู้ ด้วยสติยังมิถึงพร้อม ด้วยความกลัว ด้วยแรงต้าน ด้วยขาดสติ และ นั่นคือการต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก. หาก*จิตปัจจุบัน*ไม่ฝึกสร้างพลังให้แกร่งกล้า ฝึกความไม่มีวันตายของความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ให้เลิกยึดมั่นถือมั่นตัวตนจอมปลอม จนกระทั่งตระหนักได้ว่า*ความตายเป็นเพียงมายา* เหมือนภาพมายาอื่นๆนะคนดี.. และ ผม..จำได้..คุณเคยฝากทัศนะไว้..กับผม *รักก็แค่ละครชีวิต*เป็นวัฎฏจักรที่ไม่เที่ยงแท้.. ที่มนุษย์มักยอมพ่ายแพ้.. คิดว่าความรักความใคร่นั้น เป็นเสมือนการปลดปล่อย จากความกลัว ความเหงา เศร้าดายเดียวที่ฝังลึก เป็นความต้องการ เป็นความขาด..เป็นสัญชาติญาณ หวังวาดจะมีใครสักคนมาเติมเต็ม ผู้หญิงจึงต้องการผู้ชาย ผู้ชายจึงต้องการผู้หญิง และ เมื่อความรัก ความหฤหรรษ์ ราวน้ำผึ้งฝันสวรรค์หวานสวรรค์สรวง..พ้นผ่านไป.. ร่าง..จำต้องแยกห่างกัน.. มันก็ยังมิใช่สุขนิรันดร์ สุขเกษม หลุดพ้น เพราะ.. สิ่งที่จะตามมาคือความทุกข์จากบ่วง..จากหวง ห่วงใย..จากใจที่คิดเพิ่มเติมทุกข์ทบทวี จากขาดสติความรู้สึกตัว จนก่อเกิดเป็นความกลัว..การพลัดพราก หากอีกฝ่ายตีจาก..สิ้นรัก มักจะเกิดการเรียกร้อง คาดหวัง จากฝ่ายตรงกันข้าม จนเกิดการ..ขัดแย้ง..จนไร้อิสระทางจิต.. ด้วยมิอาจ*หยุดคิด หยุดทุกข์ได้* เพราะกลัวความเปลี่ยนแปลงมิคงที่คงทน มัวกังวลกับอนาคต เป็นราวเกมส์กมลหลงยึดมั่นถือมั่น วนเวียนเรียกร้องต้องการ...มิสิ้นสุด และ คนดี..ทุกดวงใจ.. *เพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น* หากคุณยังตัดรักไม่ได้ ตัดใจไม่ได้จำต้องชดใช้วิบากรรม ผม.. หวังเพียงให้คุณทุกคน รู้แจ้ง..ยอมจำนน จ่อมจมในตัวทุกข์เสียให้พอ และต่อมาก็เพียงแค่ลองหัดหยุดคิด จิตจับเฉพาะปัจจุบันขณะ จงค่อยๆปล่อยวางต่อ*ทุกทุกข์รัก* ต่อความเศร้า ความสิ้นหวัง ความกลัว และอะไรก็ตาม ที่จะตามมาจากผลแห่งรักนั้น หากหนีไม่พ้นเพรงกรรมที่ตามมาย้ำรอย ขอเพียงให้โอบกอดมันไว้แล้วรอคอยจังหวะ สงบนิ่ง เริ่มทีละน้อยๆให้จิตว่าง และนั่น ก็ราวกับจะมีปาฏิหารย์ผ่านพ้นพาสู่อาณาจักรสวรรค์... ได้เช่นกัน..หากจิตนั้นสงบงันนิ่งพอ.. และ คนดี.. จงใช้สายธารสติความรู้สึกตัว ที่เปรียบเสมือนสนามพลังงานอันยิ่งใหญ่ ดั่งสะพานเชื่อม..สู่..*ต้นกำเนิดภายใน* ที่หยั่งรากลึกแสนใสสงบนิ่ง.. ที่อยู่ลึกภายในกายเราใช่ไกล..เกิน และ บานประตูบานเดียวที่จะเกี่ยวร้อย ดั่งกุญแจให้ไขความลับ..ของทุกสรรพสิ่ง ให้ค้นพบความสงบงามอิสระแบบล้ำลึกนั้น จงเพียรฝึก.. มีความมุ่งมั่น เลิกกังวลอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เลยซึ้งเศร้าจำกับอดีตที่ทำร้ายคุณมานานเนาเสียที จงให้อภัยและใส่เพียงความเมตตาปรานีลงไปแทนที่ และอยู่กับสิ่งนี้ที่เรียกว่า การ*ทำจิตให้ผ่องใส กำหนดลมหายใจเข้าออก พาพลังลงสู่เซลส์ทุกอณูในร่างคุณ ด้วยความรู้สึก..มิใช่ความนึกคิดอีกต่อไป คนดี.. หากลวิธีเข้านะทุกวิธี ที่จะอยู่กับลมหายใจ เพียรเพ่งเฝ้ามอง... *มหัศจรรย์รัก*จากธรรมชาติทุกสรรพสิ่ง ที่วิ่งวนอยู่รายล้อม..ไม่มีความยึดมั่นถื่อมั่น ปล่อยให้... อนาคตและอดีตนั้น..สลายลาไปกับความเป็นปัจจุบัน.. อันคือสิ่งที่จริงแท้.. มองดูดวงดอกไม้ค่อยๆคลี่กลีบแย้มบาน ดูหวานพระจันทร์ ดูพรายตะวันแรกแห่งแสงอรุณ ดูละมุนความรักของสรรพสัตว์ที่..ไม่มีอัตตา หยุดคิด..แล้วดู..หยุดใจฟุ้งมุ่งแค่เพียงความสงบงาม กับสิ่งตรงหน้านาทีต่อนาที ไม่มีการปรุงต่อเติมเพิ่มแต่งไปตามความคิด.. และ มาตรแม้น ใครภายนอกจะทำร้ายคุณ ด้วยความไม่เข้าใจด้วยคำพิพากษา ด้วยอัตตายังหลงมั่นยึดมั่น ให้รานร้าวเศร้าหมองสักเพียงใด ก็... จะไม่มีอิทธิพลมาพัดพาสติแห่งงามนี้ ให้สั่นไหวสะเทือนใจเสียใจ ที่เรียกว่า*ความรู้สึกตัว* เพราะคุณจะรู้แจ้ง มี*สะพานสายธารพลัง แห่งความเป็นปัจจุบันความเงียบงามสงบสุข* ที่ที่สอนให้รู้หยุดคิด ให้นิ่งสนิทและวางทุกสิ่งไว้นะนี่นั่น*บ้านภายใน* รู้วิธีคิด..แล้ววาง..เมื่อร่างจำต้องดำรงร่างรับภาระหน้าที่ ถอดหัวโขนนี้ที่จักต้องธำรงเพื่อโลกโลกาภิวัฒน์ เมื่อสำเร็จงานงาม...อย่างไม่ยึดติด โลกภายใน..จะมิมีวันสั่นไหว เหมือนปลอดภัยจากทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่ารักชังเนื้อหนังมังสา อาหารโอชารส ลาภยศสรรเสริญ และบทละครโลกโศกสุข.. และ นี่คือ ความในใจผม... ที่ผมกระจ่างแจ้ง พบแสงงามแห่งปัญญาและ เพียรแสวงหาทางหลุดพ้นมาแสนนาน จากทุกข์รัก . ผม..พบแล้วจากจิตยอมจำนน ในทุกข์เบื้องต้น ตั้งอยู่ และรู้ดับไปในทุกเงียบงาม ปล่อยให้หัวใจราวว่างเปล่า แสนสุขล้ำ *ด้วยพลังแสงแห่งปัญญาจรัสจ้า* พร่างพรายทั่วกายอย่างไร้ขอบเขต ไร้ข้าศึกศัตรูจากโลกวัตถุโลกมายาจากใจจากใคร ที่จะเข้ามารานรุกบุกทำลายให้พลังจิตสั่นไหวได้ และ นี่คือสิ่งที่ผม...กำลังวนเวียนเพียรอธิบายซ้ำๆ ผม...พยายามเปิดบานประตูสายธารเกษม ให้เป็นดั่งสะพาน พาคุณและเพื่อนมนุษย์..พบฝั่งฝัน ที่มองไม่เห็น.... หากมีชื่อว่า *สิ่งจริงแท้อันเป็นนิรันดร์ * ที่เป็น*ดั่งขุมทรัพย์มหัศจรรย์* ซ่อนอยู่ในทุกร่างมนุษย์ ขอเพียงให้*หยุดคิด*เป็น และใช้ความรู้สึกล้ำลึกฝึกจิตจับจิตปัจจุบัน ก้าวเข้าไปค้นหาและเมื่อพบแล้ว ทุกสิ่งภายนอกนั้น จะมิมีวันมากรายกล้ำมาทำร้าย ให้เศร้าหมองครองจิตวิญญาณได้นานเนาอีกต่อไป ดั่งตามรอยเท้าก้าวไปในเส้นทาง ที่องค์พระบรมศาสดาของเรา *องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า* ที่ได้ทรงเพียรพบแล้วและ*ละ*วางไว้ ให้เราหาทางเพียรค้นหาด้วยตัวเอง หากเกรงการเวียนว่ายวงกรรม ย้ำการต้องเกิดมาชดใช้มิรู้สิ้นมิรู้จบ สำหรับผม..มิเคยท้อ ผมเพียร..ผมฝึก...และรอ..มาเกือบตลอดชั่วชีวิต เพื่อกระซิบบอกคุณและเพื่อนมนุษย์ ผม...ตั้งศรัทธา และเชื่อว่า ทุกคนมีสิทธิ์ค้นหา*บานประตูนั้น* แค่ใช้กุญแจธรรมกุญแจทอง ก็จะไขเข้า*บ้านภายใน* ที่แสนใสงามว่างเปล่าไร้เงาใจไร้เงาใคร.. เป็นแก่นแท้..ภายในชื่อว่าความจริงนิรันดร์.. อันเกินกว่าหาคำใดมาอธิบาย.. และ คนดี.. ผม..ขออภัย.. หากกรรมใดที่ผ่านมาที่ผมละล้าละลัง ลากคุณลงมาเติมพลังแห่งความกลัวทุกข์ เติมตัวทุกข์ไร้สุขของผม เพราะนะบัดนี้ ผม..ค้นพบสุขจากตัวตนผมเองแล้ว และ ผม..หวังเพียงจะบรรเลงบทเพลงโลกย์ ก็เพียงแค่สอนโศกตรมฝากไว้ให้เป็นเพียงบทเรียน ให้ทุกดวงใจ... รู้ทางหนีทีไล่เข้าใจเส้นทางกรรม อันเวียนว่ายเศร้าหมอง ครองดายเดียวเปลี่ยวเหงาวกวน อย่า... ได้ใช้ชีวิตอย่างเมามัวมืดมน หลงทางห่างฝั่งฝันฝั่งนิพพาน จง เพียรพยายามใช้เมตตาธรรมดำรงร่าง ให้อภัยตัวเองและเพื่อนมนุษย์ผู้ยังต้องดำผุดดำว่าย เที่ยวท่องลอยละล่องในโลกกิเลส ในสายธารกรรมย้ำรอยวน คล้ายดั่งกมล*หลงโลกเวลา*ปล่อยให้เวลามีค่า หายไปกับกาลอดีตและอนาคต.. ซึ่ง มิใช่เป็นกฏแห่งความจริงแท้ และ ทุกร่างนี้..เปรียบประดุจดั่งภาพมายา ก็จักเป็นดั่ง..*อนิจจังอนัตตาดั่งเถ้าธุลี* มิช้านานมิมีใครหนีกฎแห่งชรามรณะได้พ้น หาก จะเหลือเวลากับการใช้ลมหายใจแห่งปัจจุบัน จงเพียรใช้...*พลังสายธารธรรม* น้อมนำจิตแห่งความรู้สึกตัว ผลักบานประตูสู่ *ดินแดนอันเป็นงามเงียบว่างนิรันดร์* ที่ช่างแสนใกล้ ที่..ผม..แค่ขอก้าวเข้ามาแนะนำเคียงไหล่ ให้เราทั้งสองและผองชน ได้ดับทุกข์ลบลืมสิ้นความหม่นหมอง พบ*ความเป็นจริงแท้ในกายเราเอง* ให้สมค่าคำ ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้มีใจดวงพิสุทธิ์ใส ได้เกิดมาภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบทางงามเจิดจ้าแห่งดวงชีวา เกิดมาทันคำสอนของพระบรมศาสดาเอกของโลก พระผู้ผ่านปรินิพพานไปแล้วตั้ง2500ปี แต่ยังคงทิ้ง*แก่นความดี..ที่เป็นความจริงแท้* ที่แสนยิ่งใหญ่.. ให้มนุษย์เรานั้นได้สร้างกุศล.. เพียรรักษาศีล ฝึกสมาธิ มีปัญญา ให้พาหลุดพ้นผลพวงบ่วงกรรม..ดับทุกข์สิ้น ดั่งมีบุญญา คู่กันมาชั่วกัลป์กัปป์กาล ให้พ้นร้าวรานทุกภพทุกชาติไปนะคนดีนะดวงใจ
4 สิงหาคม 2547 14:16 น. - comment id 305709
บุพเพสันนิวาส สุนทราภรณ์ ประพันธ์ สุนทรจามร : : Key Bb เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด บุพเพ สันนิวาส ที่ประสาทความรักภิรมย์ คู่ ใคร คู่ เขา รักยังคอย เฝ้าชม คอยภิรมย์ เรื่อย มา ขอบน้ำขวางหน้า ขอบฟ้าขวางกั้น บุพเพยังสรรค์ประสบ ให้ได้สบ พบรักกันได้ ห่าง กัน แค่ ไหน เขาสูงบัง กั้นไว้ รักยังได้ บู ชา ความ รัก ศักดิ์ ศรี รักไม่มี พรหมแดน รักไม่มี ศาสนา แม้น ใคร บุญ ญา ได้ ครอง กันนา พรหม ลิขิต พาชื่นใจ รักเหมือนโคถึก ที่คึกพิโรธ ความรักเช่นนั้นให้โทษ จะไปโกรธ โทษรักไม่ได้ ไม่ ใช่ บุพ เพ สันนิวาส แน่ไซร้ รักจึงได้ แรม รา ความ รัก ศักดิ์ ศรี รักไม่มี พรหมแดน รักไม่มี ศาสนา แม้น ใคร บุญ ญา ได้ ครอง กัน มา พรหม ลิขิต พาชื่นใจ รักเหมือนโคถึก ที่คึกพิโรธ ความรักเช่นนั้นให้โทษ จะไปโกรธ โทษรักไม่ได้ ไม่ ใช่ บุพ เพ สันนิวาส แน่ไซร้ รักจึงได้ แรม รา...
4 สิงหาคม 2547 14:22 น. - comment id 305714
เฉียบขาดเลยครับ บทประพันธ์อันยอดเยี่ยม ใช้ถ้อยอักษรมาร้อยเรียงจินตนาการและความ รู้สึกออกมานำเสนอได้อย่างสมบูรณ์แบบและ งดงามยื่ง หวานซึ้งกินใจสุดพรรณาครับ ๚ะ๛ size>
4 สิงหาคม 2547 14:37 น. - comment id 305724
นึกถึงเพลงคู่แท้ของพี่เบิร์ดเลยครับ พี่พุดอย่าเพิ่งเบื่อรักเลยนะครับ
4 สิงหาคม 2547 15:02 น. - comment id 305750
อ่านแล้วครับ แต่ไม่รู้จะบอกว่าไงดี ;)
4 สิงหาคม 2547 15:13 น. - comment id 305758
คุณRobert คะ เกินกว่าคำซึ้งใจ ยิ่งใหญ่ในน้ำใจรักค่ะ พุดพลีคารวะจิตวิญญาณ เปรียบประมาณประดุจแก้ว พิสุทธิ์ใสนะกลางใจคุณนะคะคนดี ด้วยงานชิ้นนี้ ที่พุด..หวังให้ทุกทุกข์ดวงใจหยุดทุกข์ กลยุทธิ์ง่ายเกินกล่าวค่ะ *หยุดคิด* ใช้จิตจับปัจจุบันขณะให้มีสติมีสมาธิ และ จะมีความว่างนะกลางใจ *แก่นแท้ที่พบแล้วคุณจะรู้ว่าปิติเกษมอิสระ หลุดพ้นเป็นอย่างไร เซลส์ในร่างคุณทุกอณูนั้น จะพร่างไหวราวมิชีวิต และแม้กระทั่งน้ำลายยังหวานเลยละค่ะ และ*จะพบว่าโลกที่ว่าง พร่างด้วยแสงแห่งแก่นแท้.. จากปัญญานั้นจรัสจรุงเพียงใดค่ะ และทุกสรรพสิ่งที่มองเห็นนั้น จะพลันพาให้เราใช้เพียงความรู้สึกดูค่ะ รู้ตามทันดับทันไม่ยึดมั่นถือมั่น..นาน ลองเพียรดูนะคะคนดี แล้วทุกข์ที่มากรายกล้ำ จะราวดั่งกระแสน้ำผ่านไป..ผ่านไปค่ะ พุดรักน้ำใจคุณ.. ********** พี่พุด..คอมเพิ่งดีนะคะ ระรีบเมล์ส่งรูปไปให้นะคะคนดี จริงๆพี่พุดเบื่อความรักมานานแล้ว เพราะชีวิตพี่พุดพบทุกข์จากรักมากจังค่ะ และที่รจนารักนั้น มักแค่อยากฝากบทเรียนสอนใจ ให้ทุกดวงใจทราบความทุกข์จากรัก พึงดับพึงหลีกหนีค่ะ อย่าตามรอยกรรมมาค่ะ ค่ะ..ก็หากจะรจนา ก็จะพยายามแทรกวิธีรำงับไว้เสมอค่ะ ด้วยรักนะคะ
4 สิงหาคม 2547 17:28 น. - comment id 305866
มาดูประกายแก้วกลางใจ ที่ส่องไสวอยู่ตรงนี้ค่ะน้องพุด คิดถึงนะคะ
4 สิงหาคม 2547 19:13 น. - comment id 305991
สวัสดีครับพี่พุด *หยุดใจ หยุดความคิด..* ผันพา*ความรู้สึกตัวทั่วพร้อมทุกอณู*.. เข้าไป*สู่มิติแห่งความจริงแท้* อ่อนหวานจริง ๆ ครับพี่ คนดี..และ ไม่ว่าราตรีนี้ คุณจะนอนนิทราหลับฝันอยู่นะหนใดในหล้าโลก ผม...ผู้มีโชคได้เกิดมาพบและรักคุณ แบบเหนือโลกย์โศกสุขพ้นทุกข์รัก.. อยากเพียงกระซิบบอกความลับในใจนี้ ที่ผมค้นพบ*พลังจิตมหัศจรรย์* เพราะและงดงามมากครับ ยังเป็นกำลังใจให้พี่เสมอครับ ^____^ ll๛เมกกะ๛ll ~*~ ll๛ผู้ชายอารมณ์ดี๛ll
4 สิงหาคม 2547 21:25 น. - comment id 306110
อ่านตอนแรกก็นึกถึงเพื่อนที่คุณพี่พิมพ์ไว้ในคอมเม้นท์เลย เพลงนี้จะได้ฟังทุกครั้งที่เข้างานวิวาห์ด้วย แต่งได้ดีนะค่ะ อ่านแล้วซึ้งเลยค่ะ
4 สิงหาคม 2547 21:26 น. - comment id 306112
....สาธุ....
4 สิงหาคม 2547 22:28 น. - comment id 306182
เข้ามาอ่านตามคำแนะนำแล้วครับ ได้กำลังใจดีๆ มากมายเลย ขอบคุณมากครับพี่ ขอบคุณมาก
4 สิงหาคม 2547 23:19 น. - comment id 306233
กลอนสวยเสมอ ถ้อยคำความหมายเนื้อหาช่างงดงาม -- ชอบ ชื่อของเรื่องด้วยล่ะ รัศมีแก้ว อ่านแล้วได้ข้อคิดดีดีหลายเรื่องเลย ขอบคุณมากครับ พุด
5 สิงหาคม 2547 05:57 น. - comment id 306311
พุดพัดชาผู้พลีรัก งดงามนัก คำแนะนำ ย้ำบอกสอน เป็นหนทาง สู่ความฝัน นิรันดร ที่แน่นอน มั่นคง คุณค่าเอย งานของพุด เป็นงานที่นำแต่สิ่งที่ดี ๆ นำมาเขียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขหรือเศร้า อ่านแล้วสบายอารมณ์ครับ อีกทั้งตัวอักษรที่เรียงร้อยก็ลื่นไหลแกว่งไกวไปมาอย่างสวยงามครับ
5 สิงหาคม 2547 06:56 น. - comment id 306326
..เรน..มีความเห็นตรง กับพี่ชัยนะคะ.. อ่อนหวาน ..มากมายด้วยคุณค่า.. ให้ความรู้สึก ..ละมุนละไม ..ทุกครั้ง.. ที่ได้ ..เข้ามาบ้าน พี่พุดพัดชา .. นะคะ.. ..เรน..ขออนุญาต ..ก็อปอ่าน..อีกครั้งนะคะ.. ..ก็ แบบว่า ..เรนจะเอาไปอ่านต่อ.. นะคะ ..แต่ ที่เรน จะไป ..ไม่มีอินเตอร์เน็ต ..ด้วยดิคะ.. ..สารภาพระกาน .. นะคะ.. นู๋เรน ..อ่านยังไม่จบ .. ..แต่ ก็ อยากจะอ่านมากๆๆ..เล้ยคะ.. ...
5 สิงหาคม 2547 08:03 น. - comment id 306347
มาชื่นชมงานงามของพุดพัดชา แต่ ชอบจัง รูปน้ำใจหญิง ที่นำมาลง ชัดเจนง ดงามมาก
5 สิงหาคม 2547 12:42 น. - comment id 306514
เข้ามาติดตามงานดีๆ ของคุณพุดค่ะ ................................................... ลี่...ผู้มาเยือน .