..๏ กาพย์ยานี ๑๑ ..๏ กฎเกณฑ์ใช่เช่นกรง..........ที่ประสงค์จะกักกุม ข่มเหงและครอบคลุม............ขังดวงจิตให้ติดตรวน วางแบบเป็นขอบเขื่อน..........ข่มจิตเหมือนให้เรรวน ครั้นขลาดจะกำสรวล..............แสนสลดปรากฏมี ฯ ..๏ สรรพสิ่งที่สิงสู่.....................ดวงจิตรู้แล้วหลีกหนี อาจซ้ำและย่ำยี........................ให้พ่ายแพ้นิรันดร์กาล รวนเรร่วมตอกย้ำ....................ดุจตามย่ำประจัญบาน ขลาดเขลาราวรุกราน...............ดังลวงหลอกให้ลุ่มหลง ฯ ..๏ จองหองคะนองศักดิ์............ทรลักษณ์ทรนง สิงสู่ดูมั่นคง............................หลอนจิตหลงไม่ตรงจริง ควรมีเสรีภาพ.........................ให้ซึบซาบปลาบปลื้มอิง น้อมรับสรรพสิ่ง......................อันปลดเปลื้องเครื่องโซ่ตรวน ฯ ..๏ จินตนาการแสนบรรเจิด.....จักบังเกิดผลตามควร พินิจคิดใคร่ควร.....................การทั้งมวลล้วนเลิศแท้ ยืนหยัดองอาจเทอญ...............จักจำเริญยิ่งนักแล โซ่ตรวนล้วนเป็นแค่................สิ่งบังคับกำกับใจ ๚ะ๛ ..๏ อินทรวิเชียรฉันท์ ..๏ กฎเกณฑ์ ฤ เช่นกรง...........และประสงค์จะย่ำยี รุกรานหทัยที่............................ผิว์ขยาดและขลาดเขลา คุกคามมิหวั่นเกรง....................ดุจเพ่งบ่ทำเนา ข่มเหงและยั่วเย้า......................สติเร่าก็ลนลาน ..๏ หากดวงหทัยรน.................ดนุพลวิกลนาน ดั่งคล้ายพระเพลิงผลาญ..........ธุระการสิบรรลัย ควรคิดพินิจทัศน์......................นยะอัธยาศัย อันต้องจริตใด..........................สละไร้อุปาทาน ฯ ..๏ กอปรกิจประสิทธิ์ผล..........อนุพนธ์พิเคราะห์การ จักสุขเกษมศานต์....................ปณิธานสิสมปอง กฎเกณฑ์มิเช่นกรง.................สุริคงจะไตร่ตรอง ถ้วนสรรพสิ่งผอง....................นิติต้องประจักษ์จริง ..๏ เห็นชัดนิทัศน์แท้..............วิเคราะห์แลตระหนักอิง- อ้างแบบบุราณสิ่ง-...................สรพันมินิ่งเฉย หมั่นเร่งและพากเพียร............สิริเกียรติ์สิงอกเงย ปรากฏละบือเผย.....................สิเจริญสถาพร ๚ะ๛ ...ผู้เขียนตั้งใจเขียนถึงเรื่องความหวาดกลัวต่อกฏเกณฑ์ทั้งมวล... ...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนัก(อยาก)เขียนที่หวาดกลัวต่อกฏฉันทลักษณ์... ...รวมไปถึงกรอบกั้นขวางจินตนาการของตน... ...ทั้งนี้ ก็เพื่อสะกิดใจตัวเอง..เท่านั้น..มิบังอาจจาบจ้วงมโนผู้ใด...
28 กรกฎาคม 2547 09:10 น. - comment id 302541
ท่าทางดุ นะ ถือดาบฟ้าฟื้นด้วย น่ากลัวจัง รูปน่ะ อิอิ กฏเกณฑ์ไม่กลัวเพราะถึงอย่างไรก็เขียนไม่ได้ดีกว่าที่เขียนอยู่แล้ว
28 กรกฎาคม 2547 11:39 น. - comment id 302547
ไม่กลัวกฎเกณฑ์ รักกฎเกณฑ์ที่รู้ยืดหยุ่นละมุนหอมงามใจ รักงามกติกา และชื่นชมศรัทธางานงามของทุกกวี ที่พยายามเพียรสร้างสรรด้วยชีวี เพียงคนเรารักต่างกันฝันต่างใจ และใครถนัดทางไหนก็เคารพความรักของผู้อื่น ต่างให้เกียรติให้หำลังใจกันและกัน นี่คือโลกฝัน ที่เราควรรักกันฉันท์น้องพี่ค่ะ และมีน้ำใจไมตรีต่อกัน รักภาพข้างบนล้นใจ แต่น่ากลัวจังค่ะ ทำไมต้องใฃ้ดาบฟาดฟัน น่าจะพรายดวงดอกไม้หอมๆหวานๆ มาหลอมละลายใจนะคนดี.. ด้วยรักค่ะ พี่พุดค่ะ
28 กรกฎาคม 2547 17:49 น. - comment id 302562
แต่งเก่งจังคะ....ขอชื่นชม. ++ แวะมาทักทายนะ ++
28 กรกฎาคม 2547 21:51 น. - comment id 302565
กฏเกณฑ์มิกริ่งเกรง จะตะเบ็งละเลงฉัน ทางใครก็ทางมัน ริประพันธ์นิพนธ์ไป ใครใคร่ลิขิตกานท์ สิประจานผจญไย แข่งตนตระกลไกร ชนะใจคณาชน
28 กรกฎาคม 2547 22:10 น. - comment id 302566
กฏเกณฑ์มิกริ่งเกรง จะตะเบ็งละเลงฉัน ทางใครก็ทางมัน ริประพันธ์นิพนธ์ไป ใครใคร่ลิขิตกานท์ สิประจานผจญไย แข่งตนตระกลไกร ชนะใจคณาชน
29 กรกฎาคม 2547 02:19 น. - comment id 302569
ชื่นชมว่างดงามมาก กาพย์ยานี ๑๑ กฏ ฤา กดหดหู่ มิอาจกู่จากดวงใจ มีกรอบดูงามไข บางคราไซร้ใจกรอบกรำ อินทรวิเชียรฉันท์ เพลิงผลาญลุลายหาย วรสายนำรินพรม เกี่ยวเกินกดมาลย์จม มนตรมฤทัยตาย
30 กรกฎาคม 2547 08:23 น. - comment id 302670
@ ในกรอบกำหนดกั้น คนก็ดั้นจะผ่านกรอบ เมื่อใจไร้คำตอบ ในกฏเกณฑ์เป็นฉันใด แม้คนที่เกิดมา อินทรีย์กล้าโตสมวัย กายเมือนแต่ต่างใจ วิถีทิศก็ผิดกัน @กายที่มิปล่อยอิ- -สระจิตจะคิดผัน กฏเกณฑ์กระชับกั้น ก็มิก้าวเจริญกาล กรอบกฏก็คือกฏ มิละลดกระหายหาญ ใจฟุ้งจรุงจาร นฤมิตประดิษฐ์ปรุง ...
30 กรกฎาคม 2547 14:42 น. - comment id 302917
คุณฤกษ์ .. สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันหลายวันเลยส่งรูปมาให้ดูเพื่อจะได้ระลึกไว้ค่ะ คุณพุดพัดชา .. กรอบมีไว้เพื่อรู้ มีไว้เพื่อกระทำ แต่มิได้หมายความว่า นอกกรอบจะผิด ค่ะ สื่อที่เขียนไว้ตั้งใจอธิบายเช่นนี้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่มาเยือน หลายวันมานี้พยายามเข้ามาแก้ไข แต่ก็ติดขัดทางเทคเนค วันนี้เพิ่งมีโอกาสค่ะ คุณวุ้นเส้นต้มยำ .. ขอบคุณมากค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณชัยชนะ .. :) เพื่อนกันแต่อยู่แสนไกล ตอนนี้งานประกวดเทียนพรรษา คงเอิกเกริกนะคะ อัลมิตราเคยไปกับคุณพ่อ มีรูปถ่ายด้วยนะ เป็นอะไรที่วิเศษสุดเลยค่ะ กับสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นเทพ หรือ สัตว์ในป่าหิมพานต์ กระทั่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า คุณเก็บความมาเล่าบ้างสิคะ คุณอาภาภัส .. ขอบคุณมากค่ะ กาพย์และฉันท์ของคุณงดงามเช่นกันค่ะ คุณส่องหล้า .. ในยามที่บรรยากาศขมุกขมัว หรือกระทั่งช่วงเวลาที่เวปมีการปรับปรุง ความเหนื่อยล้าใจใดๆ ก็หายสิ้น เมื่อเจอบทร้อยกรองของคุณ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ :)
31 กรกฎาคม 2547 17:00 น. - comment id 303424
คำแกร่ง ใจแกร่ง ครับคุณอัลมิตรา
1 สิงหาคม 2547 11:20 น. - comment id 303864
ขอบคุณค่ะ คุณคนผ่านมา .. เขียนเพื่อที่ให้ใจตัวเองกล้า ขบถ ค่ะ
11 สิงหาคม 2547 15:00 น. - comment id 310281
ชอบจังค่ะ ชอบความเป็นอิสระ โดยเฉพาะ ความเป็นอิสระในการเขียนร้อยกรอง ชอบลานกลอนที่เงียบๆ คนน้อย ๆ หรือ มีเพียง คนสองคน เขียนกลอนตอบโต้กัน เมื่อถึงเวลา ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ตามภาระหน้าที่ เพียงเหลือรอยรำลึก ถึง เหล่ากวีปริศนา ที่ไม่รู้จัก นอกจาก รับรสความงามจากบทกลอนและมิตรภาพ มันเป็นความทรงจำที่งดงาม ยิ่งกว่าสิ่งใด ไม่มีคำว่า รับหรือให้ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น นอกจาก ความรู้สึกที่เป็นสุข ยามที่ได้กรีดกรายตัวอักษร
12 สิงหาคม 2547 06:16 น. - comment id 310683
๐กรงกั้นนั้นมิกั้นกีด กลับขีดขวางทางผิดพลาด ป้องกันอันตรายไม่ประมาท เช่นกำแพงปราสาทอริราชไกล ๐จินตนาการต้องการเข็มทิศ โซ่ตรวนยึดติดด้วยสัจจะ คือจินตนาการกวีพันธะ ใช่จะหลุดลอยพ้นเกินชนสามัญ ๐ไอน์สไตน์ให้ข้อคิด ใช่ใช้แต่จิตวิญญาณการเดียว ปัญญาเข้าผสานหนึ่งเดียว E =mc 2 ต้องสันติไม่ปรมาณู อายุ 7 ปีเอง ทำได้แบบนี้ เจ้าฟ้ากุ้งทรงเบาใจ ว่าวรรณคดีไทยยังมีเลือดเนื้อเชื้อไขเข้มข้น
26 สิงหาคม 2547 22:27 น. - comment id 317303
เป็นเช่นนั้น ค่ะ คุณขนมน้อย .. ไม่มีการแบ่งชั้นเกรด มีแต่การแลกเปลี่ยนอรรถรส .. การที่ได้เขียน เป็นการสื่อที่ออกมาจากอารมณ์ลึกภายใน ดังนั้นแล้ว สิทธิ์ส่วนตัวของใคร ก็ควรมีสิทธิเสรีภาพเต็มจิตวิญญาณ ค่ะ คุณpigstation .. :) เพิ่งย้อนกลับมาอ่านวันนี้ ขอบคุณมากนะคะ .อัลมิตรามีกำลังใจมากขึ้นอีกโขเชียวค่ะ ว่าแต่ว่า พิชคณิต อัลมิตราไม่ค่อยเก่งนะคะ :) เก่งแต่วิชาพละค่ะ ชอบที่สุด ..