๏ คือหนังสือในมือเธอ๚ะ๛ ๏ แต่ละหน้าผ่านไปให้รับทราบ จะปลื้มปลาบหรือจาบจ้วงไม่ห่วงหา ถือเป็นงานกรานกลอนก่อนนิทรา ถือเสียว่าคืออักขราจากดวงใจ ๚ .... ๏ ทุกสิ่งนั้น..ความฝัน...และความจริง คือทุกสิ่ง....หัทยา...มารินใส่ ด้วยนิ้วสิบเพียรพรม..ระดมไป บนแป้นสารอักษรไหล...ใจและ..มือ ๚ .... ๏ เพียงพลัง...ผลักดัน...อันมีค่า แนบงดงามความค่าน่าจับถือ เพียงฝากถ้อยร้อยอักษรกลอนร่ำลือ ให้ได้ชื่อ..เขียนกลอน...เป็น...เช่น..คล้ายกวี๚ะ๛ ๏ คือหนังสือในมือเธอ๚ะ๛ เคาะแป้นพิมพ์ .. จารจดลงเวลา.ณ. หน้าเครื่อง กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร...ประเทศไทย จารหน้าจอ เมื่อ ๑๗:๔๐นาฬิกา เพลาเย็นสนธยา พระเสาร์.ที่ยี่สิบสี่...๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘/๘ สยาม..กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร....ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ Copyright ..All rights reserved ทิกิ_tiki
24 กรกฎาคม 2547 18:14 น. - comment id 302006
:ซึ่ง เขียน อ่าน ..จาร..จดจำ...รำลึกวันแดดจ้า ฟ้างามเหนือเมืองกรุง
24 กรกฎาคม 2547 19:58 น. - comment id 302045
งดงามเช่นเคย ปลาวาฬมาทักทายค่ะ
24 กรกฎาคม 2547 20:53 น. - comment id 302059
ความมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมคิดเห็นเช่นคุณปลาวาฬสีน้ำเงินค่ะ สวัสดี่ค่ะคุณทิกิ
24 กรกฎาคม 2547 21:27 น. - comment id 302077
งดงามเช่นเคย ปลาวาฬมาทักทายค่ะ จาก : รหัสสมาชิก : 6541 - ปลาวาฬสีน้ำเงิน รหัส - วัน เวลา : 307315 - 24 ก.ค. 47 - 19:58 ขอบคุณค่ะ กำลังใจใหญ่โต
24 กรกฎาคม 2547 21:30 น. - comment id 302078
ความมมมมคิดเห็นเช่นคุณปลาวาฬสีน้ำเงินค่ะ สวัสดี่ค่ะคุณทิกิ จาก : รหัสสมาชิก : 8413 - กอกก รหัส - วัน เวลา : 307329 - 24 ก.ค. 47 - 20:53 ขอบคุณค่ะมายาวเลยวันน้
24 กรกฎาคม 2547 21:34 น. - comment id 302080
เพียงร้อยถักอักษรเพื่อย้อนศิลป์ ให้คล้ายหลักศิลปินถิ่นอาศัย แล้วก็ป้อนอักษรซึ้งตรึงหทัย เพื่อร่วมใจเป็นหนึ่งซึ้งในกลอน *-*กลอนแต่งได้ดีค่ะ*-*
24 กรกฎาคม 2547 21:37 น. - comment id 302081
เก่งมากเลยค่ะคุณ ตุน เข้ามาได้เก่งมาก และตอบกลอนได้เก่งเร็วมาก นับถือค่ะ
24 กรกฎาคม 2547 21:57 น. - comment id 302092
มาให้กำลังใจจ๊ะ กลัวเวบหายอีก
24 กรกฎาคม 2547 22:12 น. - comment id 302099
มาให้กำลังใจจ๊ะ กลัวเวบหายอีก จาก : รหัสสมาชิก : 4525 - พุด รหัส - วัน เวลา : 307364 - 24 ก.ค. 47 - 21:57 น่ะคะพุด เมื่อกี้ เลข 0 หน้าหลัง 0 กลอนชาวบ้านก็โผล่มาอีก โผล่มาอย่าเพิ่งลงกลอนใหม่นะคะ จะหายไปเลยตามกลับมาไม่ได้ค่ะ
24 กรกฎาคม 2547 23:28 น. - comment id 302112
อ๊ะ .. แพงมั๊ยคะ .. อยากจะได้มาครอบครองไว้สักเล่มอ่ะค่ะ ..อิอิ แวะมาทักทายพี่ทิกิค่ะ .. และเป็นกำลังใจให้ในการทำต้นฉบับนะคะ .. ^_____^ ยิ้มกว้าง ๆ ให้ค่ะ .. .....................
24 กรกฎาคม 2547 23:40 น. - comment id 302114
.....( ^_^ ).............เข้ามาเยี่ยมชมครับ
25 กรกฎาคม 2547 00:12 น. - comment id 302124
.....( ^_^ ).............เข้ามาเยี่ยมชมครับ จาก : เอกมาศ ครับ ไม่ได้ล็อกอิน รหัส - วัน เวลา : 307386 - 24 ก.ค. 47 - 23:40 ขอบคุณคุณเอกมาศมากค่ะ
25 กรกฎาคม 2547 08:12 น. - comment id 302163
ตามแห่มาจ้า
25 กรกฎาคม 2547 16:44 น. - comment id 302215
เพิ่งเข้าได้มาขอบคุณซะทีค่ะ
25 กรกฎาคม 2547 21:22 น. - comment id 302260
เป็นหนังสือ มือเปิดอ่าน มีหลายบท มีหลายรส วางไม่ลง ปลงไม่ได้ แต่หน้าว่าง ยังมี อยู่มากมาย ค่อยอ่านไป วันละหน้า เวลามี ไปดูรูปมาแล้ว (บางที) อาจะเอารูปสมัยหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวมาลงก็เป็นได้
26 กรกฎาคม 2547 08:50 น. - comment id 302324
เป็นหนังสือ มือเปิดอ่าน มีหลายบท มีหลายรส วางไม่ลง ปลงไม่ได้ แต่หน้าว่าง ยังมี อยู่มากมาย ค่อยอ่านไป วันละหน้า เวลามี ไปดูรูปมาแล้ว (บางที) อาจะเอารูปสมัยหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวมาลงก็เป็นได้ จาก : ชัยชนะ รหัส - วัน เวลา : 307550 - 25 ก.ค. 47 - 21:22 ขอขอบคุณคุณชัยชนะมากค่ะ พักนี้หายไป .... มาเขียนกันเรื่อยๆนะคะ อย่าห่างหายนะคะ ทิกิ
26 กรกฎาคม 2547 09:25 น. - comment id 302338
เชิญทุกท่านชมรูปเพื่อน ใหม่ล่าสุด ได้ที่ http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2885 ขอบคุณ นะคะ
30 กรกฎาคม 2547 00:57 น. - comment id 302626
๏ มาทดสอบถ้อยความตามใจฉัน วางองุ่นพวงนั้นให้ฝันหา จะว่าเปรี้ยวฤๅหวาน..ละลานตา ทดสอบว่า...หน้านี้...ดีหรือ...ตรม ๚ ๏ มาฝากความยามประสานงานผองเพื่อน ๚ ใจมิเลือนระลึกอยู่..รู้สาสม.. แต่ใจนี้หรือยุ่งเหยิงเริงระทม ก็จ่อมจมงานตนวนทั้งวัน ๚ ๏ จึงฝากคำอีกสี่บาทคาดเพื่อนอ่าน คงสำราญเศร้าไหมจ๊ะปะรูปฉัน ขอเพื่อนพ้องผองสำราญชื่นบานครัน ระลึกวันเราอ่านถ้อย...อย่าน้อยใจ ๚ะ๛- ``*:-.ฤา,_,.-:*``ฝันนั้น*:-.,_,.-:*``มิใช่สิทธิ์ *:-.,_,.-:*``*:-ของฉัน ? ,.-: *``*:-.,_,.-::-.,_,.-:*``*:- เคาะแป้นพิมพ์ .. จารจดลงเวลา.ณ. หน้าเครื่อง กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร...ประเทศไทย จารหน้าจอ เมื่อ ๑๗.๒๐นาฬิกา เพลาเย็นฝนตก วันครู พระพฤหัสบดี ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ ๏ ๏ ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่สั่งหนังสือคุณทิกิมานะคะ ๚ ๏ เพียงแต่มีเพื่อนๆในไทยโพเอ็มและ ที่บางกอกซิตี้ ทะยอยสั่งกันมาเรื่อยๆค่ะ เมื่อเสร็จจะส่งทางไปรษณีย์ไปให้ทุกท่านค่ะ ๚ ๏รวม กลอน โคลง บทเขียนเกี่ยวกับแม่ และ ปรัชญาชีวิต นิดหนึ่ง 40 กระทู้ใน ไทยโพเอ็มค่ะ ขนาด เอสี่100 หน้า พิมพ์ 1000 ฉบับ ISBN หอสมุดแห่งชาติจะเก็บไป 10 เล่ม ชีวิต สอนชีวิต เล่มหนึ่ง ( พระคุณแม่) ๚ ๏หนังสือจะเสร็จช่วง8-12 เร่งมากหน่อย ว่าจะจัดเลี้ยงเปิดตัวแบบ เงียบๆ กันเอง ที่ถนนสายไหม ร้านอาหารพี่ชาย ๚ ๏ราคา ปกติเล่มละ 150 บอกบัญชีโอนเงินให้ด้วยค่ะ จ่ายก่อนค่ะ หจก ณิคมัณฑนากร ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน)ฯ สาขา ซอยอารี (พหลโยธิน) บัญชี กระแสรายวัน 127-31-2428-7 ๚ ๏โทรศัพท์ 022794069 016580426..093185063(สองเบอร์หลังนี้ เบอร์ด่วนแต่อาจไม่ค่อยติดนะคะ ขอบคุณทุกท่านค่ะ ๚ ขอบคุณที่สั่งจองหนังสือมากันมากมายค่ะ ทิกิ_tiki
30 กรกฎาคม 2547 02:49 น. - comment id 302633
๏ สลด ใจกวี ๚ ๏ สลด ใจกวี ๚ น่าเสียดาย หญิงชายยุคปัจจุบัน สร้างสรรค์เพียงถ้อยคำอันบาดหู น่าเสียดายยุคพ่อขุนพ่อบุญชู เสียดายอยู่ขึ้น กระทู้กันอึงอล เสียดายค่าวรรณกรรมกระหน่ำนั้น วิถีทางอันรังสรรค์ก็ล่องหน มีหลายหน้าท่าทางอย่างยินยล เลศผู้คน..ไร้จริงใจ...ไร้เมตตา น่าเสียดายวรรณกรรม คำของชาติ ตกอนาถ ต้องอุบาทว์ ในภาษา เสียดายคำหวานล้ำแห่งครูบา อยู่ในมือโจรา ระอาไทย หนึ่งนี้วี่แววอภิชาติ บุตรอำมาตย์คาดพระยาน้ำตาไหล. กระแสธรรมต่ำสิ้น...ทุกถิ่นไพร เสียดายใจ...เคยเอ็นดู.. กลางหมู่คน ล้วนแล้วซ่อนฝีปากถากรอยเชือด คือแห้งเหือดเลือดกรังพลั้งหมองหม่น ล้วนปากกาทิ่มแทงแสลงตน เด็กวานซืนเจ้าหน้ามน...ช่างไร้ราคา แสนเสียดายวรรณกานท์พานอักษร ตกกลิ้งค่าวานรกร่อนปากกล้า มาลัยกานท์ผสานสลดพจนา ด้วยเสื่อมโทรมชโลมค่าตลาดกลอน... ทิกิ_tiki เคาะแป้นพิมพ์ .. จารจดลงเวลา.ณ หน้าเครื่อง ขึ้นพระอังคาร.ที่ยี่สิบเจ็ด..๒๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๘/๘ สยาม..เมืองฟ้างาม..กรุงเทพฯ .ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ์..ตามพระราชบัญญัติ Copyright ..All rights reserved ๏ ๏ สลด ใจกวี ๚ ๏ทิกิ_tiki ๚ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 47 21:14:51 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 27 ก.ค. 47 05:35:13 ] http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2932341/W2932341.html
30 กรกฎาคม 2547 02:50 น. - comment id 302634
ความคิดเห็นที่ 13 ตอบ ความคิดเห็นที่ 11 ความเห็นแบบ..... การมีกฎหมายลิขสิทธิ์นี้ดีอยู่อย่างค่ะ...ช่วยพัฒนาผู้คน ผู้ชอบลอกเลียนตัดทอนดัดแปลง ให้ระลึกนึกว่าอะไรเป็น อะไร ถึงแม้ว่ากฎหมายลิขสิทธิ์จะอยู่ในไทย หลายสิบปีแล้ว ก็ยังเสมือน เสือกระดาษมาตลอด บัดนี้ เรามี องค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ นี้ก็ดีค่ะ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา พวกเราก็ประเภทเฮฮาเสียเคยตัว อีกฝ่ายก็ซุ่ม อยู่ในมุมมืด เธอลงเมื่อไหร่ก็แว้บ.. กวาดเม้าส์ ลาก แคร้ก... copy เร็วทันใจดีจริงๆ เคย จะสอนเพื่อนในเน็ตคนหนึ่งให้เขียนกลอน ค้อปี้เขามาเปลี่ยนคำให้นิดๆหน่อย ก็เจ๋งแล้ว น่ะ มันง่าย..สุดแสนละค่ะ...ง่ายกว่าอะไรทั้งนั้น หมูสมันมาให้ เฉือนอะไรปานฉะนี้ คือพวกข้าพเจ้าผู้ประดุจ นกแก้ว นกขุนทอง ร้องแจ้วๆนี้แหละ น้อง คนไต่ดาว อาทิตย์ก่อนโวยมา พี่ขา คนเขาเอา กลอนใครต่อใครไปลงในหนังสือปกสีฟ้าขายเล่มละ ร้อยกว่าบาทเลยนะคะ แล้วเขา บอกว่า ** ขอขอบคุณ นักเขียนนิรนามใน**ไทยโพเอ็ม** อ้าว สนุกกันใหญ่ละ ใครคือ นักเขียนนิรนามเล่า แล้วอยากรู้ต้องไปจ่ายค่าหนังสือให้เขาด้วยหรือ สนุกกันจังเลยนะคะ งานนี้ ขอบคุณอีกรอบค่ะ คุณเล็กคะ จากคุณ : ทิกิ - [ 28 ก.ค. 47 12:27:58 A:221.128.108.138 X: ]
30 กรกฎาคม 2547 02:54 น. - comment id 302635
ความคิดเห็นที่ 15 กลับจากธุระมาดูกระทู้อีกครั้งตอนดึกนะคะ บทนี้ ก็ตรงกับใจค่ะ ว่าสลดใจ ในวรรณกวีสัมพันธ์ เราติดนิสัยการ * ดังทางด่า * กันไปหมดทั้งบ้านทั้งเมือง ...เราจึงเหมือนจะเขียนอะไรก็ได้ให้พาดพิงไปถึง ใครต่อใครเพื่อความสะใจกันเท่านั้น บทกลอน หรือ โคลงนั้นนั้น ให้อะไร ได้มากกว่างาน ที่ตีฝีปาก ลับฝีปาก เพื่อความสะใจเท่านั้นได้หรือไม่ ? เปรียบประดุจ การฟังรายการละครวิทยุ ตะโกนกันข้ามไปมา ขึ้นเสียงด่าทอล่อพ่อแม่กันหน้าเครื่อง ที่เรียกกันสะใจ Soap Opera รายการเหล่านั้น ก็พัฒนามาอยู่ในรายการ โทรทัศน์และซึมซ่านเข้าสู่ใจเยาวชนไทยของเรา.. หน้าแรกหนังสือพิมพ์ก็ประโคมแต่การ ด่าทอทะเลาะวิวาท พาลตี ฆ่าฟัน..ไล่ลามมาพร้อมกับ รายการเกมส์ออนไลน์จากต่างประเทศขวัญใจแก๊งไล่ฆ่ากลางถนน สังคมให้อะไรแก่ใคร ใครให้อะไรแก่สังคม ตราบใดที่เรายังไม่คิดที่จะหยุดความรุนแรง เถื่อน..อย่างที่เราเป็นกันอยู่...วรรณกรรมของเราที่แอบแฝงความรุนแรงสะใจนั้นก็ยังคงแฝงเร้นอยู่ทุกสมัย คำว่าเสียดาย ที่พร่ำหา วาทย์วาทะ อันอ่อนโยน ละมุนละไมนั้น เป็นคำที่ผ่านไปด้วยความจริงใจอย่างเหลือล้น คำว่า เสียดาย ความเอ็นดู ต่อยุวชน เยาวชน ก็เป็น ถ้อยท้นล้นไปจากดวงใจจริงๆ เสียดายที่เคยเอ็นดูต่อ ยุวชนคนเมื่อวานซืนซึ่งถูกพิษสังคมกลืนไปเสียแล้ว ยังรำพันฝันหา บทกลอนบริสุทธิ์ ละมุนละไม..แววใสในดวงตา...สุนทรียรสล้ำค่า..อันห่างไกลจาก เนื้อหนังมังสา..ในประกายตา...และโชนใจ ยังคิดหวนถึงแววตาที่สามารถแยกโทนสีและเส้นสายอันอ่อนโยนอ่อนหวาน... อันไม่เกี่ยวด้วยเนื้อหนังมังสา แต่อย่างใด.. ยังเสียดาย บทประพันธ์ ข้ามมิติ ข้ามฟ้า ข้ามวิญญาณ งานประพันธ์ อันบริสุทธิ์...สะท้านไกล ไร้เพศ พรรณ วรรณะ ไร้สีสัน ไร้มายา ไร้จริต...ไร้...ไร้...และไร้.. บางที เราอาจจะยังได้พบบทประพันธ์นั้นๆ... จากหัวใจใครบางคน..อันถ่ายทอดใจบริสุทธิ์ จากวิญญาณ บริสุทธิ์ นั้นได้อีก หวัง และ หวัง..ว่าจะยังได้เห็น... ไม่แปลกใจว่าทำไม เด็กๆ รอบกาย จึงบอกว่า ขออ่านการ์ตูน และ ขอดูการ์ตูนในทีวี และ ขอดู discovery และ ขอดู animal planet...และขอดู concert ใส่หน้ากากผี slip knot อย่างไม่ต้องรู้สึก รู้สากับความรู้สึกอันเต็มไปหมดในสังคม..ที่เด็กยุคใหม่บอกว่า ... อยากมุดดินหนีสังคมเนื้อหนังมังสา อันน่าเบื่อหน่ายนี้เหลือแสน เป็นพฤติกรรมมวลชนที่น่าพินิจพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง..ต่อทิศทางวรรณกรรมไทย..ต่อไป ในอนาคตข้างหน้า จากคุณ : ทิกิ_tiki (tiki_ทิกิ) - [ 30 ก.ค. 47 02:20:40 ] http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2932341/W2932341.html
30 กรกฎาคม 2547 02:58 น. - comment id 302637
ปราถนาเห็นชนยุคใหม่...ในวรรณกรรม..อันไร้พิษสังคม