๏ ทานความสุขจากการให้ ๚ . ๏ จาก ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ โปรดเรื่องสอง คือมุมมองพระพุทธองค์ส่งภพหน้า คือประโยชน์นามธรรมล้ำเกินตา สัมผัสค่านามธรรมเย็นย้ำใจ ๚ .... ๏ สัมปรายิกัตถประโยชน์ . . คือการโลดล้ำค่า...ธาราใส คือการมีชีวิตฤทธิ์ฤทัย คือน้ำใจใสเย็นเห็นดั่งธาร ๚ . ๏ มุ่งคุณค่าคุณธรรมค้ำธรรมะ เป็นจาคะ สละเห็น เป็นแก่นสาร คอยช่วยเหลือเกื้อสังคมบ่มจดจาร คือความสุขจากทานการแบ่งปัน ๚ . ๏ เห็นชีวิตสิทธิ์ผู้อื่นดาษดื่นโลก ให้ดับโศก ดับร้อน ผ่อนเย็นมั่น สุขจากการเอื้อน้ำใจให้แก่กัน สุขแห่งการสร้างสรรค์เพื่อศรัทธา ๚ .. ๏ ดำรงค่าความงามความร่มเย็น สู่ประโยชน์เลือกเฟ้นพระศาสนา เอื้อมวลชนด้วยผลแห่งปัญญา สืบศรัทธาปสาทะชนะตน ๚ . ๏ โอบเอื้อเกื้อหนุนบุญชูเชิด สร้างวิถีประเสริฐอยู่ทุกหน อิงอาศัยคุณธรรมดีค้ำคน สุขแห่งการสละล้นบนทางดี ๚ะ๛- การได้ทำอะไรให้ผู้อื่นบ่อยๆ จะทำให้เรามีความสุข เป้าหมายของมนุษย์ ไม่ใช่เพียงเงินตราอย่างเดียว แต่คือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ทิกิ_tiki *** ๒ สัมปรายิกัตถประโยชน์ ประโยชน์สุขภายหน้า ที่เป็นด้านนามธรรม ที่ลึกล้ำ เลยจากการมองเห็นด้วยตา การมีชีวิต ที่มีน้ำใจ มีคุณค่าคุณธรรม มีจาคะ ความเสียสละ ความช่วยเหลือเกื้อกูลสังคม ผู้อื่น และเพื่อนมนุษย์ มีความสุขจากการให้ ทำให้เกิดศรัทธาในพระศาสนาในการดำเนินชีวิตตามวิถึที่ดีงาม มีความมั่นใจในคุณค่าแห่งชีวิต เป็ฯความสุขที่อิงอาศัย คุณธรรมความดีงามของตัวเราเอง ๚ ..** ... ๏บทความ จากธรรมะ ท่านอาจารย์ พร รัตนสุวรรณ ต่อจากข้อ ๑ ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ๚ *** ๒ สัมปรายิกัตถประโยชน์ หนังสือ วิญญาณ ชุดที่ ๓๖ ฉบับที่ ๑-๓ มกราคม-มีนาคม ๒๕๔๓ โรงพิมพ์วิญญาณหน้า ๑๐๘ ความต่อจาก บทประพันธ์ ชุดที่ ๑ ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ (หัวใจเศรษฐี) ๚ http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_56304.php จารหน้าจอ เมื่อ ๒๓.๓๐นาฬิกา เพลาใกล้เที่ยงคืน พระศุกร์ที่สอง...๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ สยาม..เมืองฟ้าเดือนกระจ่าง..กรุงเทพฯ .ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ Copyright ..All rights reserved ทิกิ_tiki ๏ ทาน ความสุขจากการให้ ๚ . ภาพน้ำตกเลตองคุ จากคุณ Geo26@Bangkokcity.com
3 กรกฎาคม 2547 00:15 น. - comment id 292409
ข้อแก้นิดนะครับพี่ ต้องเป็น...น้ำตกเลตองคุครับ
3 กรกฎาคม 2547 00:37 น. - comment id 292411
อ้อค่ะ ขอบคุณมากค่ะ คุณ จีโอ คะ
3 กรกฎาคม 2547 01:44 น. - comment id 292422
โอ .. เจ๊เล่นแต่งกลอนออกมาแนวธรรมะ ผมอ่านแล้วง่วงนอนเลยขอรับ อิอิ
3 กรกฎาคม 2547 02:04 น. - comment id 292428
ใช่เลย เมื่อกี้ก็อีกคน เข้าไปอ่านแล้วบอกง่วงไปนอนเลย
3 กรกฎาคม 2547 03:29 น. - comment id 292450
สาธุ................................ ได้ทั้งสาระและความบันเทิงอีกแล้วนะครับ เป็นลักษณะเฉพาะเลยนะครับ ผมละยอมรับเลย
3 กรกฎาคม 2547 03:51 น. - comment id 292452
สาธุ................................ ได้ทั้งสาระและความบันเทิงอีกแล้วนะครับ เป็นลักษณะเฉพาะเลยนะครับ ผมละยอมรับเลย จาก : รหัสสมาชิก : 8530 - ม.ปณิธาน รหัส - วัน เวลา : 297095 - 03 ก.ค. 47 - 03:29 -ชอบคุณที่ไปเยือน... ใจเสมือนมุ่งเขียนเพียรกล่าวถ้อย หวังผู้อ่านสงบศานติ์กานท์ฝากรอย ให้ใช้สอยเย็นคำชื่นฉ่ำวรรณ ขอบคุณในคำชื่นชมค่ะ ทิกิ_tiki
3 กรกฎาคม 2547 04:10 น. - comment id 292455
ขอบตุณที่เข้าไปอ่านของผมนะครับ อย่างน้อยก็มีพี่ที่อ่าน ไม่เหมือนของพี่ได้รับ ความนิยมมากคนเข้ากันเพียบ แต่มันก็คุณภาพ จริงๆผมยอมรับ
3 กรกฎาคม 2547 04:51 น. - comment id 292463
เอ่อ ใหม่ก็ คนสองคนอย่างนั้นแหละค่ะที่มาอ่าน แต่นานนานไป คนรู้จักก็ทักกันทุกวัน เป็นปกติค่ะ ยอมรับว่า ตัวเอง ยังทักทุกท่านไม่หมดเลย
3 กรกฎาคม 2547 05:28 น. - comment id 292472
ช่วงนี้นำแต่เรื่องดี มีประโยชน์มาเล่าให้ฟังนะครับ
3 กรกฎาคม 2547 11:04 น. - comment id 292498
รู้จักพอก่อใจในสันโดษ เห็นในโทษการหวงปวงความแหน คลายจากความยึดติดที่แน่นแฟ้น เห็นผู้อื่นคือแดนเนื้อนาบุญ ร่วมแจมด้วยค่ะคุณ tiki
3 กรกฎาคม 2547 11:44 น. - comment id 292511
เพราะค่ะ.. ชอบให้พี่แต่งแนวนี้แหละ พี่แต่งเพราะดี.. ชอบหลายคำ ของแอ๊คนำไปใช้บ้างนะคะ..
3 กรกฎาคม 2547 12:08 น. - comment id 292522
ช่วงนี้นำแต่เรื่องดี มีประโยชน์มาเล่าให้ฟังนะครับ จาก : รหัสสมาชิก : 5053 - ชัยชนะ รหัส - วัน เวลา : 297117 - 03 ก.ค. 47 - 05:28 ที่ผ่านมาก็เข้มประโยชน์มามาก แต่ส่วนใหญ่เป็นประโยชน์ทางโลกนะคะ ไม่ค่อยแตะประโยชน์ทางธรรม ด้วยว่ามีท่านผู้รู้มากหลาย ณ . ที่นี้อยู่แล้ว ... แต่ช่วงนี้ ต้องเปิดดูตัวอย่างการพิมพ์งานเยอะหน่อย ก็ เลยได้รื้อฟื้นข้อธรรม จากท่านครูผู้เป็นกัลยาณมิตร ท่านนี้ และ ท่านอื่นมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ สิ่งใดอันเป็นประโยชน์ต่อชนใด นับวิสัยเป็นคุณบุญประหนึ่ง ได้ฝากค่าความคำ กรรม ลึกซึ้ง อันจะพึงฝากโลกาคราจากจร ขอบคุณคุณชัยชนะมาเยี่ยมเยืยนเสมอนะคะ ทิกิ_tiki
3 กรกฎาคม 2547 12:19 น. - comment id 292527
รู้จักพอก่อใจในสันโดษ เห็นในโทษการหวงปวงความแหน คลายจากความยึดติดที่แน่นแฟ้น เห็นผู้อื่นคือแดนเนื้อนาบุญ ร่วมแจมด้วยค่ะคุณ tiki : 8514 - ริ้วฟ้า 297150 - 03 ก.ค. 47 - 11:04 ๏ จวบวันหนึ่งพึงเดินเหินทางไหน มิใกล้ไกลล้วนมากทรัพย์นับมิถ้วน ก็เลือกสรรค์สิ่งดีที่บังควร ประโยชน์ล้วนเผื่อผู้อื่นจะชื่นบุญ ๚ ขอขอบคุณ คุณ ริ้วฟ้ามากนะคะ ทิกิ_tiki
3 กรกฎาคม 2547 12:21 น. - comment id 292528
๏ จวบวันหนึ่งพึงเหิรเดินทางไหน มิใกล้ไกลล้วนมากทรัพย์นับมิถ้วน ก็เลือกสรรค์สิ่งดีที่บังควร ประโยชน์ล้วนเผื่อผู้อื่นจะชื่นบุญ ๚ ขอขอบคุณ คุณ ริ้วฟ้ามากนะคะ ทิกิ_tiki
3 กรกฎาคม 2547 12:25 น. - comment id 292531
เพราะค่ะ.. ชอบให้พี่แต่งแนวนี้แหละ พี่แต่งเพราะดี.. ชอบหลายคำ ของแอ๊คนำไปใช้บ้างนะคะ.. จาก : รหัสสมาชิก : 7052 - namsai รหัส - วัน เวลา : 297164 - 03 ก.ค. 47 - 11:44 มิว่ากันค่ะ เชิญนำไปให้หากเป็นประโยชน์ต่อชีวิต ดังเจตนารมย์ ท่านอาจารย์ พร รัตนสุวรรณ ท่านฝากงานอันประณีตไว้ในโลก ขอบคุณค่ะคุณแอ๊ค น้ำใส คะ ทิกิ_tiki
3 กรกฎาคม 2547 12:33 น. - comment id 292532
บัวแล้งน้ำ ต้อม เรนโบว์ : : Key Bb คนเราต้องมี หัวใจ ต้องมี เลือดเนื้อ ข้างใน ต้องมี ความดี คู่กาย ต้องมี ความหมาย ในตัวเอง อดีต ที่เคย ผ่านมา เราคง ต้องผ่าน พ้นไป จะดี หรือเลว อย่างไร ขึ้นอยู่ กับใจ เราเอง กระเสือก กระสน ดิ้นรน กันไป ก่อนเคย เลว ร้าย ก็ลืม ให้ลง มีเพียง พรุ่งนี้ เรื่องเก่าเก่า ก็ปลง ด้วยใจ ซื่อตรง เราคง ได้ดี ถ้าบัวไม่มี รากใบ คงมองไม่สวย เท่าไหร่ ถ้าบัวแล้งน้ำ แห้งตาย ไม่เหลือความหมาย ให้ชวนมอง คนเราก็คง เหมือนกัน นึกฝันแต่ความ ยิ่งใหญ่ หลงลืมว่าเคย เป็นใคร สุดท้ายก็บัว แล้ง น้ำ กระเสือก กระสน ดิ้นรน กันไป ก่อนเคย เลว ร้าย ก็ลืม ให้ลง มีเพียง พรุ่งนี้ เรื่องเก่าเก่า ก็ปลง ด้วยใจ ซื่อตรง เราคง ได้ดี ถ้าบัวไม่มี รากใบ คงมอง ไม่สวย เท่าไหร่ ถ้าบัวแล้งน้ำ แห้งตาย ไม่เหลือความหมาย ให้ชวนมอง คนเรา ก็คง เหมือนกัน นึกฝัน แต่ความ ยิ่งใหญ่ หลงลืม ว่าเคย เป็นใคร สุดท้าย ก็บัว แล้ง น้ำ... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4414
3 กรกฎาคม 2547 13:49 น. - comment id 292552
งดงาม จังค่ะ ปลาวาฬอ่านแล้วรู้สึกดี ปลาวาฬมาชื่นชมผลงานนะคะ
3 กรกฎาคม 2547 14:48 น. - comment id 292578
งดงาม จังค่ะ ปลาวาฬอ่านแล้วรู้สึกดี ปลาวาฬมาชื่นชมผลงานนะคะ จาก : รหัสสมาชิก : 6541 - ปลาวาฬสีน้ำเงิน รหัส - วัน เวลา : 297209 - 03 ก.ค. 47 - 13:49 ขอขอบคุณในน้ำใจ คุณ 6541 - ปลาวาฬสีน้ำเงิน มากค่ะ ทิกิ_tiki
3 กรกฎาคม 2547 15:22 น. - comment id 292593
คุณค่าของธรรมมะ .... ที่นำมาร้อยเรียง เพระมากเลยค่ะ แวะมาทักทายพี่ทิกิ .....
3 กรกฎาคม 2547 15:36 น. - comment id 292607
พี่ทิกิเขียนกลอนได้เยี่ยมมาก ๆ เลย ชื่นชมมากมายค่ะ อยากเก่งแบบนี้บ้างจังแฮะ
3 กรกฎาคม 2547 16:22 น. - comment id 292635
คุณค่าของธรรมมะ .... ที่นำมาร้อยเรียง เพระมากเลยค่ะ แวะมาทักทายพี่ทิกิ ..... จาก : กระดาษกาว รหัส - วัน เวลา : 297258 - 03 ก.ค. 47 - 15:22 ต้องขอบพระคุณบารมีเมตตาจากท่านอาจารย์พรที่ส่งกระแสใจมาให้ได้รับทราบ ...ซึ่งทำให้สามารถ จารงานที่ดูยากเย็นนี้ ให้ ง่ายดายขึ้น อย่างน่าอัศจรรย์ ชื่นใจในกระแสเย็นแห่งท่านอาจารย์เหลือเกินค่ะ จึงสามารถเขียนได้ลื่นไหล ไม่ติด ขัดเลยค่ะ ทิกิ_tiki
3 กรกฎาคม 2547 16:28 น. - comment id 292638
พี่ทิกิเขียนกลอนได้เยี่ยมมาก ๆ เลย ชื่นชมมากมายค่ะ อยากเก่งแบบนี้บ้างจังแฮะ จาก : รหัสสมาชิก : 8376 - Future_Perfect`` รหัส - วัน เวลา : 297273 - 03 ก.ค. 47 - 15:36 ดูเหมือนพี่จะเขียนไว้ในบทนี้ค่ะ วิธีการทำงานของพี่ ลองอ่านดูอีกทีนะคะ..สิ่งเดียวในชีวิต จิตของข้าฯ ค่ะ http://www.thaipoem.com/web/poemdata.php?id=56192 ขอบคุณ คุณ 8376 - Future_Perfect`` นะคะ เอาใจช่วยให้คุณ ประสบความสำเร็จค่ะ งานนี้ งานเย็น คนทำก็ต้องใจเย็น มีสมาธิจิตอันแน่วแน่ และ ต้องเป็นสมาธิฐานแห่งความสุขในกระแสเย็นนี้ด้วยเช่นกันค่ะ ทิกิ_tiki
3 กรกฎาคม 2547 16:40 น. - comment id 292645
มีความสุขสดชื่นจากการรับ ถ้าได้นับแบ๊งค์พันยิ่งฝันหวาน ตั้งชุมชนรวมหมู่บ้านขอทาน ภิกขาจารเป็นขบวนล้วนร่ำรวย มีเงินซื้อที่นาปลูกเรือนฝากระดาน มีรถหกล้อบรรทุกสมาชิกไปลงที่ต่างๆ ได้เวลาไปรับกลับ มีสภาพหลายรูปแบบเด็ก คนแก่ทำน่าสงสาร ผุ้หญิงสาวหน่อยจูงลูกแต่งสกปรกบ้างโกนหัวห่มขาวเป็นชี ผู้ชายแก่ทำง่อยเปลี้ยหนุ่มแข็งแรงก็โกนหัวห่มเหลือง พวกเขารู้จุดอ่อนพวกที่มีความสุขจากการให้ แต่หลัง ๆ มานี่บางคนรู้แกว ไปให้กับพระตามวัดแทน ก็เลือกวัดที่พระงาม ๆหล่อมีความรู้พูดเก่ง ๆอย่างที่ดัง ๆ เชื่อตามวิเทโสบายว่าทำบุญโยมเอาไว้กินชาติหน้า อิอิ แต่ขออาตมารวยชาตินี้ก่อน ก็รวยเป็นหลายล้านร้อยล้าน อิอิ
3 กรกฎาคม 2547 17:29 น. - comment id 292657
คุณ ฤกษ์ คะ การที่เราบริจาค ทาน อันเป็นวัตถุที่เราอาจใช้ แต่มีหลายชิ้น หลายอย่าง หรือ วัตถุที่เราไม่ใช้แล้วให้คนอื่น ก็ หัดเสียเมือมีชีวิตอยู่ เพราะเมื่อเราดับชีพลง สมบัติเหล่านี้ คนอยุ่เบื้องหลัง เขาก็รื้อค้นมาทิ้ง ขยะไปเสียเท่านั้น ขอบคุณในถ้อยคำ สนุกสาระค่ะ ทิกิ_tiki
4 กรกฎาคม 2547 07:13 น. - comment id 292862
ทานมัย บางอย่างไม่สามารถรับได้จากวัตถุ สิ่งที่ได้รับบางชนิดอาจต้องกความรู้สึกพิเศษ การบริจาคทานคืออะไร? - การให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยไม่ต้อง การสิ่งตอบแทนจากสิ่งใด แม้ว่าบาง ครั้งสิ่งที่ได้รับตอบแทนมา ผู้ให้ได้รับ สิ่งที่ปวดร้าวสูงสุด เพราะฉะนั้นการให้ทานด้วยความ บริสุทธิ์ใจจึงมีบุญสูงสุด ไม่จำเป็นต้อง เป็นวัตถุหรือสิ่งของที่มีราคาแพง สิ่ง ของบางชิ้นอาจมีไม่ค่าสำหรับคนร่ำรวย แต่กลับมีค่าสำหรับคนยากจน ...และตรงกันข้ามสิ่งของที่มีราคา แพงของคนรวยไม่มีค่าเท่ากับสิ่ง ของที่ไม่มีค่าของคนจน - ทานที่ได้รับจากการให้ที่ไม่บริสทุธิ์ ใจ จึงไม่ต้องแปลกใจกับอานิสงส์ ที่ได้รับแม้ว่าจะป็นวัตถุที่มีราคา แพงแค่ไหนก็ตามจะได้รับผลบุญ น้อย การบริจาคทานจึงควรทำด้วย ความบริสุทธิ์ใจผลที่จะมีประโยชน์ ทั้งผู้ให้และ ผู้รับ
4 กรกฎาคม 2547 09:47 น. - comment id 292914
-ขอบคุณคุณใบไม้มากค่ะ อันที่จริงเขียนยาวมากจะตอบคุณ ฤกษ์ เลยเปลี่ยนใจเก็บไว้ในโน้ดแพ็ด จะโค้ดมาให้อ่านอาจไม่สมบูรณ์นัก แต่วันวาน หากลงไปทั้งหมด อาจกระทบใจคุณ ฤกษ์ ซึ่งชอบเย้าแหย่มากเสมอ ก็ยกมาให้ดูทั้งหมด ตามใจตัวเองแล้วกันนะคะ ในตอนนี้
4 กรกฎาคม 2547 09:48 น. - comment id 292917
บุญกิริยาวัตถุสิบนั้น มีข้อ **ทาน**เพียงข้อเดียวซึ่งให้ด้วยวัตถุ อีก ๙ ข้อนั้นเป็นการให้ ด้วย กาย และ ใจ ลองดูนะคะ กาย 1 ให้ชีวิตแก่ผู้อื่น ไม่ฆ่ากัน ไม่เบียดเบียนซึ่งอวัยวะร่างกายของผู้อื่น คือการให้ 2.ให้บุคคลอื่นชื่นชมสิ่งอันตัวรัก คือไม่ขโมย 3..อยู่กับข้อสองน่ะคะ ไม่แย่งชิงของรักของผู้อื่น ไม่ใช่ของเราก็ปล่อยเขาไปเหอะนะคะนั่นอย่างละ วาจาก็ ให้วาจา ซื่อตรงต่อกัน ไม่โกหกพกลม หากแม้นพูดไปโกหกก็หยุดเสียไม่พูดดีกว่า ให้วาจา สมานมิตรไมตรีต่อกัน ก็ไม่ส่อเสียดกัน ให้ระคายหูกัน ให้วาจาหวานไพเราะเพราะหูกัน ถ้อยเสนาะไม่หยาบคาย ไม่ด่าคำ พูดคำ ต่อกัน.. ให้วาจา เป็นสุภาษิต ก็พูดธรรมอันเป็นประโยชน์ ไม่พูด เหลวไหล ไร้สาระ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ทางใจ ให้ใจอันเมตตาต่อผุ้อื่น ให้ใจรักใคร่ต่อผู้อื่น ให้ใจ อันเป็นความเห็นชอบ...คือเห็นว่า พ่อแม่มี ...บุญคุณพ่อแม่มี คือเห็นว่า เทวดามี..บุญคุณเทวดามี คือเห็นว่า ชาตินี้มี คือเห็นว่า ชาติหน้ามี คือเห็นว่า การพ้นชาติ ชรา มรณะ มี คือทางนิพพานมี คุณ ฤกษ์ คะ เราคงเลือกหาทำทาน แก่พระอรหันต์ไม่ได้ดอกค่ะ บุญเฉพาะหน้าเรา ด้วยกาย วาจาใจ นั้นทำเมื่อไหร่ก็ได้บุญ คือการยกใจขึ้น จากความทุกข์ จาก ความขึ้งเคียด บาปทั้งหลาย ทุกข์ทั้งหลาย ที่เราประสบอยู่ การที่เราบริจาค ทาน อันเป็นวัตถุที่เราอาจใช้ แต่มีหลายชิ้น หลายอย่าง หรือ วัตถุที่เราไม่ใช้แล้วให้คนอื่น ก็ หัดเสียเมือมีชีวิตอยู่ เพราะเมื่อเราดับชีพลง สมบัติเหล่านี้ คนอยุ่เบื้องหลัง เขาก็รื้อค้นมาทิ้ง ขยะไปเสียเท่านั้น ก็ขออธิษฐานให้ทุกคนได้ให้ สิ่งที่ควรให้ ให้แก่คนที่ควรได้รับ ให้แก่คนที่ขาด แคลน ที่ ต้องการ ได้ทุกอย่างดังใจ ขอบคุณในถ้อยคำอันสนุกสนานนั้นค่ะ ทิกิเขียนกลอนตามคำสอนท่านอาจารย์พรค่ะ ซึ่งท่านก็ยกมาจาก พระบาลีวัจนะ แห่งพระพุทธเจ้าอีกทีหนึ่งน่ะค่ะ การเป็นขอทานนั้น ไม่น่ายกย่องเลยค่ะ แต่ในคนที่เขาขาดแคลน ผู้มีมาก ย่อมควรสละให้ผู้มีน้อยกว่า เป็นกุศลใจค่ะ อย่าพูดเรื่องนี้เล ทิกิ_tiki
4 กรกฎาคม 2547 09:54 น. - comment id 292922
ทาน นี้จัดเป็นบารมี ข้อหนึ่งใน บารมีสิบทัศ คงต้องยกมาคุยทีหลัง แต่ที่จดจำรำลึกเสมอ คือ ทำบุญ ด้วยใจ แม้หนึ่งสลึงในกระเป๋าที่มีอยู่เท่านั้น ยังได้บุญ อักโขยิ่งกว่าเงินล้านในกระเป๋าที่ให้ไปอย่างเสีย ไม่ได้ เราทำบุญด้วยใจ เราให้แก่ทุกคน ยิ่งคนที่ยากจน เรายิ่งหวังที่จะให้ อธิษฐานให้ใครที่ได้ ได้จดจำไว้ในใจ ว่าวันหนึ่งวันใด ตายไปก็แค่ดีชั่วตน ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ
4 กรกฎาคม 2547 10:00 น. - comment id 292932
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_55759.php ๏ด้วยนิรันดร์นั้นหรือ...คืออะไร ?.๏. ทิกิ_tiki เรื่องบริจาคะ นี้ เรื่องนั้น่าจะ สรุปได้ดีเด่นกว่าบทอื่นด้วยนะคะ
4 กรกฎาคม 2547 11:06 น. - comment id 292981
๏ บุญกิริยาวัตถุสิบนั้น มีข้อ **ทาน**เพียงข้อเดียวซึ่งให้ด้วยวัตถุ อีก ๙ ข้อนั้นเป็นการให้ ด้วย กาย และ ใจ ลองดูนะคะ กาย 1 ให้ชีวิตแก่ผู้อื่น ไม่ฆ่ากัน ไม่เบียดเบียนซึ่งอวัยวะร่างกายของผู้อื่น คือการให้ 2.ให้บุคคลอื่นชื่นชมสิ่งอันตัวรัก คือไม่ขโมย 3..อยู่กับข้อสองน่ะคะ ไม่แย่งชิงของรักของผู้อื่น (ไม่ใช่ของเราก็ปล่อยเขาไปเหอะนะคะ....อย่าไปคิดหวังสมบัติของชาวบ้านเลย เขาก็รักก็หวงกันทุกคนนั่นอย่างละ )...อันนี้ ต้องบอกตัวเองบ่อยๆ เวลาคิดปลื้มใครสักคนนะ 4. สมบัติมีแบ่งปันให้ผู้อื่น ข้อนี้ข้อเดียว อันเป็นการให้วัตถุทานแก่ผู้อื่น วาจาก็ ให้วาจา ซื่อตรงต่อกัน ไม่โกหกพกลม หากแม้นพูดไปโกหกก็หยุดเสียไม่พูดดีกว่า ให้วาจา สมานมิตรไมตรีต่อกัน ก็ไม่ส่อเสียดกัน ให้ระคายหูกัน ให้วาจาหวานไพเราะเพราะหูกัน ถ้อยเสนาะไม่หยาบคาย ไม่ด่าคำ พูดคำ ต่อกัน.. ให้วาจา เป็นสุภาษิต ก็พูดธรรมอันเป็นประโยชน์ ไม่พูด เหลวไหล ไร้สาระ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ทางใจ ให้ใจอันเมตตาต่อผู้อื่น ให้ใจรักใคร่ต่อผู้อื่น ให้ใจ อันเป็นความเห็นชอบ...คือเห็นว่า พ่อแม่มี ...บุญคุณพ่อแม่มี คือเห็นว่า เทวดามี..บุญคุณเทวดามี คือเห็นว่าชาติก่อนมี กรรมที่ทำไว้เป็นเหตุ คือเห็นว่า ชาตินี้มี ..รับผลกรรม คือ วิบาก แห่งกรรมไว้แต่ชาติปางก่อนนับไม่ถ้วน คือเห็นว่า ชาติหน้ามี..ที่จะรับผลบุญ และ บาป แห่งชาติปัจจุบัน คือเห็นว่า การพ้นชาติ ชรา มรณะ มี คือทางนิพพานมี ด้วย มรรค ๘ หนทางพ้นทุกข์ เราคงเลือกหาทำทาน แก่พระอรหันต์ไม่ได้ดอกค่ะ บุญเฉพาะหน้าเรา ด้วยกาย วาจาใจ นั้นทำเมื่อไหร่ก็ได้บุญ คือการยกใจขึ้น จากความทุกข์ จาก ความขึ้งเคียด บาปทั้งหลาย ทุกข์ทั้งหลาย ที่เราประสบอยู่ การที่เราบริจาค ทาน อันเป็นวัตถุที่เราอาจใช้ แต่มีหลายชิ้น หลายอย่าง หรือ วัตถุที่เราไม่ใช้แล้วให้คนอื่น ก็ หัดเสียเมือมีชีวิตอยู่ เพราะเมื่อเราดับชีพลง สมบัติเหล่านี้ คนอยู่เบื้องหลัง เขาก็รื้อค้นมาทิ้ง ขยะไปเสียเท่านั้น.. ก็ขออธิษฐานให้ทุกคนได้ให้ สิ่งที่ควรให้ ให้แก่คนที่ควรได้รับ ให้แก่คนที่ขาด แคลน ที่ ต้องการ ได้ทุกอย่างดังใจ และให้ ด้วยความตั้งใจ และ นอบน้อมในบุญกิริยา ของเรา ด้วยมีใจอันเห็นถูกเห็นควรในบุญกิริยาอันอ่อนน้อม การเป็นขอทานนั้น ไม่น่ายกย่องเลยค่ะ แต่ในคนที่เขาขาดแคลน ผู้มีมาก ย่อมควรสละให้ผู้มีน้อยกว่า เป็นกุศลใจค่ะ ๚ .. ทิกิ_tiki ยกมาจากเรื่อง ทาน ความสุขจากการให้ ๚ . ทิกิ_tiki ๏ ทานความสุขจากการให้ ๚ . http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_56360.php แก้ไขบางถ้อยคำให้สละสลวยเพิ่มขึ้นค่ะ เมื่อไปตอบไว้ที่ เรื่องสัน..๏ รากบัว ๏ ดรุณชนไทย ๚ http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2765
4 กรกฎาคม 2547 17:27 น. - comment id 293156
อิอิ จุดประเด็นร้อนเลยได้อ่านสิ่งดีๆเยอะ ไม่เห็นพูดถึงภิกษุดังบ้างเลย นี่ก็ว่าจะไปเยี่ยมสักองค์ข่าวว่าติดคุกอยู่นี่ อิอิ
4 กรกฎาคม 2547 19:14 น. - comment id 293200
มาจริงๆนะ คุณฤกษ์คะ ยินดีเสมอ ไม่ชอบพูดถึงพระสงฆ์ค่ะ คุณฤกษ์ขา