ใจสั่น เพราะลมหนาว หรือเปล่านี่ หรือเพราะที่ เธอเอ่ยลา ก่อนหน้านั้น วันที่ฝน สาดทรามความสัมพันธ์ รักสะบั้นลงไป เมื่อปลายฝน ก็ตอนนี้ ตัดใจ ไปแล้วนะ ทำไมล่ะ ยังผวา น่าฉงน เมื่อยามเงียบ เหงาใจ ไร้ผู้คน อดีตดล ใจจำ ย้ำเรื่องราว จะถามว่า น้ำตา มีค่าไหม รินออกมา ทำไม ใยเจ็บร้าว คงเพราะผงเข้าตา จึงพร่าพราว แค่รักเก่า ร้างไป ใยต้องตรม ข้าวแกง เจ้าประจำ คงทำแย่ มีแต่ รสปร่า ประดาขม น้ำก็แปร่ง แกงก็เฝื่อน เลือนระทม หรือว่าตรม ใจตรอม ผ่ายผอมลง ดาวเปล่งแสง แรงสวย บนราวฟ้า ดารา ก็หม่นไป คล้ายฝุ่นผง จันทร์ก็ซีด อาทิตย์ ก็หมองลง คลื่นก็คง แกล้งทราย ไร้พรายฟอง แล้วผู้คนรอบกาย คล้ายคล้ายเศร้า หรือเขารู้ เรื่องราว ว่าเราหมอง นาฬิกา ยังเดินช้า ไม่น่ามอง แค่คนปอง พลาดไป ไม่สำคัญ ใช่สิ ไม่มากนัก ซักเท่าไร แล้วทำไม ต้องหม่น จนใจสั่น แค่เวลา หวานชื่นของคืนวัน กลับกลายผันเป็นวันเศร้า ไม่เข้าใจ คงเพราะฉัน มั่นคง คงเพราะเรา หวังความรัก แผ่วผ่าว เอาใจใส่ ตั้งความหวัง กับรัก มากเกินไป แล้วเป็นไง พอมาช้ำ มาทำซึม สมน้ำหน้า ช้ำตรม สมน้ำหน้า เคยเริงร่า กลับช้ำ ต้องทำขรึม ทำเป็นเก่ง แกล้งว่า ทำท่าลืม แล้วมาซึม โถนักเลง เก่งไม่จริง -ม้าก้านกล้วย-
14 พฤศจิกายน 2544 06:06 น. - comment id 19322
เพราะดีค่ะ.....เอาใจช่วยนะคะ
7 มีนาคม 2545 02:47 น. - comment id 39073
ม่าอ่านแย้วจ้า
7 มีนาคม 2545 12:26 น. - comment id 39116
เพราะมากค่ะ..ใช้คำง่าย..เห็นภาพ..มีความหมาย..(ที่จริงติดตามงานของคุณบ่อยๆ..แต่ไม่ได้ติชมเลย..เพราะทราบว่าคุณเขียนกลอนแบบมืออาชีพคล้ายคุณวฤก..ตะวัน.. ไม้เก็ด..และใครอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยนามฯ..).. ^_^..
7 มีนาคม 2545 23:32 น. - comment id 39199
ตามมาอ่านด้วยอีกคน ค่ะ