กรรม ฝนโปรยปราย..หลายฤดู..อยู่ไม่เปลี่ยน ยังวนเวียน..ว่ายวน..ทนชดใช้ ไหลไปบน..ธารกรรม..ที่ทำไป ยังคงว่าย..เวียนวน..ไม่พ้นกรรม เปรียบชีวิต..ของคน..วนเวียนว่าย มีเกิดแก่..เจ็บตาย..มิใช่ขำ ว่ายวนเวียน..เปลี่ยนไป..เพื่อใช้กรรม สิ่งที่ทำ..ดีเลวล้วน..ควรตรึกตรอง ทางสร้างกรรม..ทำมา..แต่คราไหน ทางที่ไป..จึงเมิน..คนเดินหนี ฝ่าลมฝน..ทนมา..ตั้งหลายปี กรรมที่มี..ไม่เคยจาง..เบาบางลง คงต้องวน..เวียนว่าย..ในกรรมต่อ และไม่ขอ..สิ้นหวัง..ตั้งประสงค์ เวียนวนว่าย..จนตาย..ใช้กรรมกง เพื่อจบลง..ชดใช้หนี้..นี้ชาติเดียว พอฝนโรย..ร้างลา..ฟ้าคงแจ้ง เมื่อมีแสง..แห่งธรรม..นำวิถี ให้สุดปลาย..ทางสุดท้าย..ของชีวี หมดหน้าที่..ของกรรม..ที่นำทาง .......................................................... ฤดูที่หมุนเปลี่ยนวนเวียนไม่มีที่สิ้นสุด แต่ชีวิตที่เวียนว่ายต้องมีที่สิ้นสุด........ แล้วทางที่สิ้นสุดคือทางใด...........???? ..........................................................
13 มิถุนายน 2547 20:39 น. - comment id 284859
เป็นบทกวี ..สื่อความหมาย.. ได้ลึกซึ้งมากเลยคะ... ..ทางที่สิ้นสุด ..คือทางใด.. ความตาย ..หรือ..การย่อยสลาย.. .. เรน..ชอบที่พี่เมฯเขียน..นะคะ.. มีแง่คิด ..เชิงปรัชญา..ด้วยดิคะ..
13 มิถุนายน 2547 20:49 น. - comment id 284866
อ่านจบแล้ว .. ก็ได้ย้อนกลับมาคิดถามตัวเรา นั่นสินะคะ .. ทางที่สิ้นสุด .. คือทางใด
13 มิถุนายน 2547 21:13 น. - comment id 284873
อืม...น่าคิดนะ... แต่งได้เพราะมากครับ.. แวะมาทักครับ
13 มิถุนายน 2547 21:16 น. - comment id 284876
;) งามมากค่ะ ทั้งสองท่าน
13 มิถุนายน 2547 21:24 น. - comment id 284878
ทางธรรมนำตนพ้นบ่วงทุกข์ หลงสนุกร่ำไรในกระแส กระแสกรรมนำตรงดังลงแพ พัดพาแลตามผลที่ตนทำ.. ... แวะมาชื่นชมสองแรงแข็งขัน.. ...
13 มิถุนายน 2547 23:35 น. - comment id 284935
กออำกำก่อร่างสร้างสุขทุกข์ จะมิคลุกให้แคล้วทำไฉน ไม่ต้องกำจำปล่อยลอยออกไป ชีวิตใครต่างวนหากพ้นกรรม
13 มิถุนายน 2547 23:38 น. - comment id 284937
...คนเราคงเกิดมาเพื่อใช้กรรม.เหมือนเหมือนกัน.......แต่จะสิ้นสุดเมื่อใด...คงสุดแต่ใจของคนเราค่ะ...... งดงามมากค่ะ......ข้าพเจ้ามาทักทายคุณ..magic
14 มิถุนายน 2547 01:23 น. - comment id 284965
เชิงตะกอน..คือที่สิ้นสุด.. ขยันเขียนกันมากๆนะ..สวัสดีท่านทั้งสอง..
14 มิถุนายน 2547 04:29 น. - comment id 284989
กมฺมุนา วตฺตตี โลโก ยํ กม์มํ กริสฺสามิ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา ตสฺส ทายาโท ภวิสฺสามิ สาธุ เขียนได้ดีเจง ๆ เป็นธรรมะชั้นเลิศ อ่านแล้วรู้สึกได้ เช้าใจง่าย เพราะพริ้ง
14 มิถุนายน 2547 13:55 น. - comment id 285076
ประทับใจค่ะ ....................
14 มิถุนายน 2547 17:25 น. - comment id 285108
ขอบคุณทุกคนค่ะ .......................................
14 มิถุนายน 2547 17:55 น. - comment id 285130
เมื่อไรจะมีกลอนของ จั๊กจั่น&เรไร บ้างหนอ เฝ้าแต่รอแล้วก็หาย....................ใจสิ้นหวัง
15 มิถุนายน 2547 09:05 น. - comment id 285265
ขอบคุณครับ ...ทุกท่าน คุณจั๊กจั่น เมื่อไหร่ก็พร้อมครับ อย่าลืมชวน giwiมาด้วยล่ะ 5555 @@@@@@@@@@@ ทางสุดท้าย ทางไหน ใคร ใครก็รู้อยู่ในใจ @@@@@@@@@@@
17 มิถุนายน 2547 17:31 น. - comment id 286273
มีเกิดแก่เจ็บตายไม่หน่ายหนี ทั้งน้องพี่ทุกท่านนั้นแน่หนา แต่สิ่งหนึ่งที่คงอยู่คู่เวลา คือคุณค่าแห่งความดีที่กระทำ *-*กลอนแต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ คิดถึงทั้งคู่เลยนะค่ะ*-*