..แด่ชลธารสานวิศิษฐ์จิตหนึ่งสาย....เคยกระจ่างพร่างพรายท่ามหทัย บัดนี้คงต้องลาเจ้าไปไกล....................มิอาจอยู่ชิดใกล้..ตราบนิจนิรันดร ............................................... สายลมรินราวพัดพาเพลาผิน มิถวิลปล่อยวางว่างความหลัง ความรันทดสลดโศกไม่ประดัง รักหรือชังพังสลายวายมิคืน สุข สงบ สยบอยู่คู่สยม สายบรมพุท-โธทั้งหลับตื่น เคียงลมปราณผสานใจให้ยั่งยืน ละคายคืนกามวจรมิย้อนเดิน ฉันไม่เหมาะเป็นคู่ใจให้ความรัก เพียงรู้จักชลธาร ผ่านผิวเผิน บางกรณีไม่เคียร์เหมือนหมางเมิน ห่างไกลเกินจะใกล้ชิดสนิทใจ บางเวลาสนิทสนมดูกลมเกลียว ความแลเหลียวคล้ายดั่งว่าจะชิดใกล้ แต่มิเทียบพุทธธรรมประจำใจ ยกยอดไปไม่ควรคู่เท่าดูธรรม ฉันไม่เหมาะเป็นเพื่อนใจให้องค์เชษฐ์ จำกรอบเขตออกจากสายข่ายชอกช้ำ จึงต้องตัดเส้นทางขวางจองจำ หยุดบุพกรรมกับเจ้าเท่านี้เอย ................................................... ..เห็นไหม ตะวันเลือนเหมือนพรากไปจากโลก ความวิโยคเยือกเย็นในดงเถื่อน มองปลายฟ้าว่าเหงา..ไร้คนเยือน ใจไม่เชือนชุ่มเย็นเพราะเห็นธรรม ....ชลธารจ๊ะ...วันจันทร์เมื่อเธอได้รับข้อความที่ฉันเขียนส่งไปให้ เธอจะเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง ขอโทษที่อาจทำให้เสียน้ำใจอีกครั้งนะจ๊ะ ....ส่วนหนึ่งฉันดีใจที่เมื่อวานได้เข้ามาอ่านงานงามของเธอ เมื่อใจเธอได้สัมผัสถึงความปล่อยวาง นั่นย่อมหมายถึง แต่นี้ไประหว่างเราคือ อิสระ ไร้ซึ่งเยื่อใย อาลัยอาวรณ์ ในทุกๆสถานะภาพ และทุกๆอัตภาพบนโลกใบนี้...ฉันเลือกที่เดินไปตามเส้นทางของฉันก่อนที่จะได้รู้จักเธอ และอย่างที่บอกกับเธอว่า ฉันได้เคียร์ทุกอย่างในใจหมดแล้ว บุพกรรมระหว่างเราได้สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้นะจ๊ะ แต่ทว่าไม่เคยลืมคุณ แห่งเธอที่ได้ปลุกให้ช่วงชีวิตหนึ่งของฉันสามารถขีดเขียนบทกวีทั้งหมดขึ้นมาได้ ....แน่นอนว่าบทกวีร้อยกว่าเรื่องตลอดระยะเวลาหนึ่งปีกับอีกหกเดือนที่ได้รู้จักเธอ ฉันเขียนและอุทิศให้น้ำใจของเธอที่มีต่อฉัน แม้นว่ามันจะเป็นเพียง พันธกาล อย่างที่เธอบอกมาก็ตาม ทว่าเวลานี้พันธกาลได้สิ้นสุดลงแล้ว นับแต่นี้ไปจะไม่ปรากฎชื่อของฉัน..เงาของฉัน..บทกวีของฉันอีก ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะสถานะภาพที่เปลี่ยนไปของเธอ...เธอคนเดิมได้ตายจากฉันไปแล้วนี่จ๊ะ ซึ่งหลังจากวันนั้นฉันย่อมไม่สามารถจะเขียนบทกวีที่สื่อ นัยยะ เหล่านั้นได้อีก และอีกเหตุผลหนึ่ง คือ ฉันไม่เหมาะที่จะเดินอยู่บนเส้นทางเหล่านี้ตั้งแต่แรกแล้วมิใช่หรือ..ด้วยมิสามารถจะอยู่เป็นคู่สองครองกมล..บนธารธรรมได้..ด้วยเหตุผลที่เธอกับฉันเข้าใจดี ...อดีตผ่านไปแล้ว ย่อมไม่สามารถจะไปแก้ไขได้ เธอต้องยอมรับนะจ๊ะ..ถึงจะทราบว่าเธอไม่ปรารถนาที่จะให้มิตรภาพสิ้นสุดลงเท่านี้ แต่คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะยื้อเวลาไว้ ในเมื่อครั้งหนึ่งเธอเป็นคนบอกฉันเองว่า สักวันฉันจะต้องเป็นฝ่ายไปจากเธออยู่ดี...แม้ว่าเวลานั้นฉันจะรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของเธอก็ตาม...หวังว่าเธอจะเข้าใจและให้อภัยกับการตัดสินใจของฉันครั้งนี้ ...ฉันขอให้เธอมีความสุขตลอดไปนะจ๊ะ สุดท้ายนี้คงยืนยันคำเดิม กับที่ผ่านมาไม่เคยเกลียดเธอเลย..อภัยให้เธอเสมอ...ลาก่อนนะจ๊ะชลธาร....! ........๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๗.....กฤติยา...ณ...รัก คนที่อยู่ไกลแสนไกล...
21 พฤษภาคม 2547 08:52 น. - comment id 271708
อ้าว มาอ่านด้วยความงุนงง คุณ ณ .รัก ขามีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่า คุณชลธารเธอก็เป็นคนดีน่าคบหาสมาคมเหมือนนักกลอนทั่วไปนะคะ ที่ทราบมาว่าเธอยุ่งจะเดินทางไปประชุมที่จีนเรื่องงานเธอนะคะ คุณ ณ รักคะ ใจเย็นๆก่อนนะ อย่าหาว่าพี่ทิกิยุ่งนะคะ อิอิ ใจเย็น ใจเย็นนะ คนดี
21 พฤษภาคม 2547 10:49 น. - comment id 271752
อ่านงานได้แต่ขบคิด ครุ่นคริน แต่มิวายอ่านซ้ำไปมา... มาช่วงบางตอนสื่อความรู้สึกได้กระทบใจยิ่ง.... ปรารถดีให้ทุกความเป็นไปของคุณเลือกทางที่สุข... ชื่นชมงานงามครับ...
21 พฤษภาคม 2547 13:31 น. - comment id 271865
คิดถึง..เมื่อไม่เห็นหน้า ห่วงหา..เวลาไม่ได้สบตาแล้วเก็บไปฝัน เหงานะ..เวลาไม่ได้เจอเธอทุกวัน สรรหาเหตุผลนับร้อยพัน เพื่อหวังจะได้ใกล้ในวันเจอ จะเพียงพอมั้ยนะ..กับแค่สาระ ที่จะรักเธอเสมอ ไม่ขอมากมาย แค่ได้คิดถึงเธอ เท่านี้ก็สุขใจ เมื่อเจอเธอ..มากมาย เมกก็คิดถึงคนไกลเช่นกันครับ แวะมาหั้ยกำลังใจครับ
22 พฤษภาคม 2547 16:02 น. - comment id 272470
แต่งได้ไพเราะมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกค่ะ