ท่ามกลางฟ้า อ้างว้าง คว้างกลางหนาว แสนเจ็บปวด รวดร้าว กร้าวระทม ไร้เพิงพัก ข้างแคร่ แม้ผ้าห่ม ฝ่าคลื่นลม ตรอมตรม ข่มจิตใจ เร่เดินไป ใกล้ไกล ไม่ใคร่ถึง ร่อนคำนึง พึงฝัน วันคืนสูญ จ่ายชีวิต ไร้ทิศ ริดรอนคูน แลอาดูร เสริมศูนย์ ไป่พูนผล อยากได้ยล ชลพิตร ที่คิดถึง ติตราตรึง ใฝ่ซึ่ง สิเหน่หา หากพานพบ สบตา แก้วนัยนา อาจรักษา เยียวยา ศิวากาย เจ็บเจียนตาย หนาวนี้ แทบวางวาย ใจละลาย อายน้ำ ชะกร่อนแตก ขาดแก้วกาญจน์ ประสาน เสี้ยวรอยแยก น้ำตาแพรก แทรกดิน สิ้นอังคาร ชีพกอปรการ ปานทิพย์ ที่หยิบหวัง เจียนสิ้นสังค์ เปลี้ยพัง ดังเกรี้ยวกร่อน แก่นละเล็ก ละน้อย ร่อยค่อยผ่อน ดุจกรวดร่อน ค่อยจิต ที่ปิดลง โน้มเอียงปลง ล้มตัว กลั้วธรณี ชีวิตนี้ จบนที ชีวีสรรพ หาความรัก ยากพบ คบเคียงพัตร ซึ้งประจักษ์ พักชีพ จิตนิรันดร์ ไร้ผู้พักพิงอิงกาย รักมลายสายชลรดแผ่นดิน สิ้นสูญคืนสู่ ก้านชูกำเนิดถิ่น กลับกร่อนก้อนกวิน สลายสินทรอินทรธุลี
12 พฤษภาคม 2547 23:55 น. - comment id 266711
แต่งได้ดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วเข้าใจในความรู้สึกเลยค่ะ เป็นกำลังใจนะค่ะ
13 พฤษภาคม 2547 17:37 น. - comment id 267064
..อ่านแล้ว..รักคนชื่อแก้วแล้วไม่สมหวังเหรอ ..เงินลงทุนไปหมดเหรอ ..หมดกำลังใจด้วยเหรอ ..แล้วเหตุเกิดแล้วยัง ถ้ยัง ก็อย่าเพิ่งทุกข์เลย ส่งอมยิ้ม ยกมาตั้งห้ากล่อง เอาไว้ล่อง สายนำ แล้วสุขสันต์ กินอมยิ้มยิ้มยื่น ใจตื่นพลัน ทุกข์อนันต์ หดลง โล่งในทรวง