ชะนีครวญ
นกตะวัน
เดินมาได้หน่อยเดียว นกเล็กๆตัวหนึ่งบินจากทางด้านขวา มายังกอกาฝากบนต้นไม้ทางด้านซ้ายของถนน ตัวของมันเล็ก หน้าอกสีแดงเพลิงสวยมาก แต่ท้องสีเทา นกกินปลีอกแดง (Crimson Sunbird) ตัวผู้ นั่นเอง มันคงบินมาดูดกินน้ำหวานจากดอกกาฝาก สักพักหนึ่งจึงบินจากไป พอเดินมาได้อีกสักพัก เสียงร้องโหยหวนของ ชะนีธรรมดา (White-handed Gibbon) ได้ดังขึ้น กลบเสียงอื่นๆในป่าจนหมดสิ้น แต่เราหาตัวของมันไม่พบ จึงไม่รู้ว่าสีดำหรือสีขาว
ชะนีครวญหวนครางมิว่างเว้น
แม้เนื้อเย็นอยู่ไหนใคร่อยากหา
ร้องผัวผัวรัวไปให้เมตตา
ชายใดหนาหนีเจ้าไม่เข้าใจ
เขาคงเกลียดเดียดขนล้นรุงรัง
ห้อยโหนนั่งแนบพฤกษาพนาไสว
ดูเหมือนลิงกลิ้งกลอกลวงหลอกใคร
จึงผลักไสสู่ป่ามาลำพัง
ปล่อยเจ้าร้องก้องป่าเรียกหาคู่
แสนหดหู่ให้สลดดังหมดหวัง
สามีเอ๋ยเผยหน้ามาประทัง
ได้หยุดหลั่งร้องไห้ไร้โศกตรม
เสียงโหยหวนครวญคลั่งยังดังอยู่
เรียกหาคู่ครางลั่นสั่นขื่นขม
ยามเข้าป่าพนาไพรไม่มีตรม
ดังระงมกล่อมเราไม่เหงาเลย
เราเดินมองหานกและผีเสื้อไปพร้อมๆกัน พร้อมทั้งฟังเสียง ผัว ผัว ผัว ของชะนีไปเรื่อยๆ เพราะดังอยู่ไม่ขาดระยะและได้ยินได้แต่ไกลดังก้องไปทั่วทั้งป่า จนกระทั่งเดินมาถึงหัวโค้งของถนน แลเห็นต้นไม้สูงใหญ่มากจนเรือนยอดของมันบดบังและทาบทับท้องฟ้า แต่มีแสงแดดส่องผ่านเรือนยอดลงมา ทำให้เราเห็น เหยี่ยวรุ้ง (Crested Serpent Eagle) ขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง เกาะเซื่องซึมอยู่บนกิ่งทางด้านขวาของลำต้น เราส่องกล้องดูมันสักพักจึงเดินจากไป
ท่องไพร ในเมืองเพชร (18)
2 พฤษภาคม 2547