หางพลิ้ว

นกตะวัน

ถีงแม้ว่าจะเป็นเวลากว่า 10.00 น. และเราเริ่มหิวกันบ้างแล้ว แต่เรายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆเพื่อให้ถึงห้วยสองและห้วยสาม ตลอดทางมีผีเสื้อมาป้วนเปี้ยนให้เราได้เห็นไม่ขาดระยะ เช่น ผีเสื้อแถบขาวธรรมดา (Commander) ผีเสื้อสีหมากสุก (Dentate Sunbeam) และผีเสื้อชนิดเดิมๆที่เราพบเห็นกันแล้ว แต่ผีเสื้อที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือ ผีเสื้อหางพลิ้ว (Fluffy Tit) ซึ่งพบเห็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เกาะอยู่บนใบไม้บนต้นไม้เตี้ยๆริมถนน
บนใบไม้ใต้เงาเหล่าต้นใหญ่		 
สวยสดใสเพราะสีที่แสบสัน
เจ้าหางพลิ้วจิ๋วกระจิดเกาะติดพัน	
ใครหนอสรรค์เสกเจ้าช่างเอาใจ
กางปีกอ้าท้าแดดส่องแผดเผา	
น้ำเงินเคล้าคลึงฟ้าพร่าสุกใส	
ปีกล่างแต้มแซมขาวขุ่นพราวไป	
หางยาวไซ้ค่อยสะบัดบิดปัดพลาง
ครั้นหุบปีกหลีกเร้นเห็นขาวเหลือง	
เหมือนแสงเรืองลูบหมอกโรยหยอกขวาง
แต้มจุดดำคล้ำเด่นเน้นตาพราง	
พร้อมส่ายหางเมื่อเห็นเป็นขาไป
ธรรมชาติฉลาดล้ำช่างกำหนด	
ผีเสื้อชดช้อยบางหางพลิ้วไหว
ยามลมพัดสะบัดปลิวเป็นริ้วไว	
สวยเกินใครคราเห็นเป็นต้องชม
เรายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ เพื่อมองหาทั้งนกและผีเสื้อ แต่ดูเหมือนว่าเราจะเห็นผีเสื้อมากกว่านก เพราะพากันบินมาเป็นกลุ่มบ้าง เป็นสายบ้าง อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเรามาพบต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งโค่นล้มลงมานานแล้ว ตามกิ่งก้านของต้นไม้ต้นนี้มีกล้วยไม้เกาะกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป จนทำให้เสือจุ่นเสียดาย เพราะกลัวว่ากล้วยไม้เหล่านั้นต้องเหี่ยวตายไปพร้อมกับต้นไม้ต้นนั้น จึงเก็บเอามาบางส่วน เพื่อนำไปปลูกในกรุงเทพฯ
ท่องไพร ในเมืองเพชร (8)
1 พฤษภาคม 2547