ขออัญเชิญพระราชนิพนธ์สมเด็จพระปิยะมหาราชฯ๚ กิจสิบประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ ๏โคลงสุภาษิต**นฤทุมนาการ**๑..๚ ๏ บัณฑิตวินิจแล้ว..............แถลงสาร...สอนเอย ทศนฤทุมนาการ.......................ชื่อชี้ เหตุผู้ประพฤติปาน....................ดังกล่าว..........นั้นนอ โทมนัสเพราะกิจนี้.....................ห่อนได้เคยมี๚ เพราะทำความดีทั่วไป ๑ ๏ ทำดีไป่เลือกเว้น...............ผู้ใด....ใดเฮย แต่ผูกไมตรีไป............................รอบข้าง ทำคุณอุดหนุนใน.........................การชอบ.....ธรรมนา ไร้ศัตรูปองมล้าง..........................กลับซ้องสรรเสริญ๚ เพราะไม่ได้พูดร้ายต่อใครเลย ๒ ๏ เหินห่างโมหะร้อน..................ริษยา สละส่อเสียดมารษา.......................ใส่ร้าย คำหยาบจาบจ้วงอา-........................ฆาตขู่...เข็ญเฮย ไปหมิ่นนินทาป้าย...........................โทษให้ผู้ใด ๚ เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน ๓ ๏ ยินคดีมีเรื่องน้อย...................ใหญ่ไฉน.....ก็ดี ยังบ่ลงเห็นไป................................เด็ดด้วน ฟังตอบสอบคำไข..........................คิดใคร่...ครวญนา ห่อนตัดสินห้วนห้วน........................เหตุด้วยเบาความ ๚ เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด ๔ ๏ พาทีมีสติรั้ง................รอคิด รอบคอบชอบแลผิด.......................ก่อนพร้อง คำพูดพ่างลิขิต...............................เขียนร่าง...เรียงแฮ ฟังเพราะเสนาะต้อง........................โสตทั้งห่างภัย ๚ เพราะงดพูดในเวลาโกรธ ๕ ๏ สามารถอาจห้ามงด..................วาจา...ตนเฮย ปางเมื่อยังโกรธา...........................ขุ่นแค้น หยุดคิดพิจารณา............................แพ้ชนะ....ก่อนนา ชอบผิดคิดเห็นแม้น.........................ไม่ยั้งเสียความ ๚ เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน ๖ ๏ กรุณานรชาติผู้.....................พ้องภัย..พิบัติเฮย ช่วยรอดปลอดความไขษย...............สว่างร้อน ผลจักเพิ่มพูนใน..............................อนาคต...กาลแฮ ชนจักชูชื่อช้อน...............................ป่างเบื้องประจุบัน ๚ เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด ๗ ๏ ใดกิจผิดพลาดแล้ว...............ไป่ละ..ลืมเลย หย่อนทิฐิมานะ...............................อ่อนน้อม ขอโทษเพื่อคารวะ..........................วายบาด...หมางแฮ ดีกว่าปดอ้อมค้อม..........................คิดแก้โดยโกง ๚ เพราะความอดกลั้นต่อผู้อื่น ๘ ๏ ขันตีมีมากหมั้น.....................สันดาน ใครเกะกะระราน............................อดกลั้น ไป่ฉุนเฉียวเฉกพาล.....................พาเดือด....ร้อนพ่อ ผู้ประพฤติดั่งนั้น.........................จักได้ใจเย็น . .๚ เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนิทาน ๙ ๏ ไป่ฟังคนพูดฟุ้ง....................ฟั่นเฝือ เท็จและจริงจานเจือ.....................คละเคล้า คือมึดที่กรีดเถือ..........................ท่านทั่วไปนา ฟังจะพาพลอยเข้า......................... พวกเพ้อรังควาญ ๚ เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย ๑๐ ๑ อีกหนึ่งไป่เชื่อถ้อย...................คำคน....ลือแฮ บอกเล่าข่าวเหตุผล..........................เรื่องร้าย สืบสอบประกอบจน..........................แจ่มเท็จ...จริงนา งบ่ด่วนยักย้าย...................................ตื่นเต้นก่อนกาล ๚ะ ๑ ข้อความตามกล่าวแก้...............สิบประการ...นี้นอ ควรแก่ความพิจารณ์...........................ทั่วผู้ แม้ละไป่ขาดปาน..............................โคลงกล่าว...ก็ดี ควรระงับดับสู้....................................สงบบ้างยังดี ๚ะ๛ ขออัญเชิญพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันว่าด้วย การละเว้นวจีทุจริต เห็นเป็นสิ่งดีในการนำเสนอ ทั้ง บทโคลงสี่สุภาพ ซึ่งทรงใข้ถ้อยคำเรียบง่าย เข้าใจง่าย วันนี้ขอพระราชทานนำลง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชนทั้งหลาย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ทิกิ_tiki ๒๐:๐๐ นาฬิกา พระอังคาร ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ และเนื่องในวโรกาส วันฉัตรมงคล แห่งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลมหาราชได้เวียนมาถึง ณ วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพร ๏ พระดำรัสตรัสถ้อย...................ฉัตรฉลอง พระทรงชาติประกาศผอง......................อย่างนั้น พระดำรัส**เราจักครอง..................แผ่นดิน..โดยธรรม-- พระเศวตรฉัตรกั้น...............ปกเกล้าเหล่าไทย....๚ะ๛ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ทิกิ_tiki จารเมื่อ ๒๔:๐๐ คืนพระอังคาร ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยะมหาราชโคลงสุภาษิต**นฤทุมนาการ** กิจสิบประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ ที่มา วรรณสารวิจักษณ์ เล่ม ๔ กรมวิชาการ กระทรวง ศึกษาธิการ ฉบับพิมพ์พุทธศักราช ๒๕๔๐ สงวนลิขสิทธิ..
28 ตุลาคม 2551 15:39 น. - comment id 147242
ที่สำนักพิมพ์มสธ.มีหนังสือหนังสือเล่มนี้ขาย และมีโคลงกลอนเก่าๆของปราชญ์ชั้นครูอีกหลายเล่ม ดีมากๆค่ะ
9 มีนาคม 2550 12:44 น. - comment id 167953
4 พฤษภาคม 2547 20:39 น. - comment id 260556
ที่มา จากหนังสือ เล่มเดียวกัน ได้บรรยาย ความ โคลงสุภาษิตนี้ไว้ว่า คำว่า นฤทุมนาการ เป็นศัพท์สมาส ที่มีการสนธิ แยกได้เป็นขั้นๆดังนี้ นฤทุมน + อาการ (อาการ แปลว่า สภาพ กิริยา ) นฤทุมน เป็นศัพท์สมาสอีกเช่นกัน แยกได้เป็น นฤ + ทุมน (นฤ เป็น อุปสรรค แปลว่า ปราศจาก ไม่) ทุมน แยกเป็น ทุ + มน (ทุ เป็น อุปสรรค แปลว่า ไม่ดี เสีย มน แปลว่า ใจ ) เมื่อแยกศัพท์ เช่นนี้แล้ว จะเห็นว่า ความหมายรวม นฤทุมนาการ ก็คือ สภาพที่ปราศจากความเสียใจ หรือ สภาพที่ไม่ทำให้เสียใจ ซึ่ง ตามนัยแห่งโคลงสุภาตนี้มี ๑๐ ประการ ดังที่ปรากฏในบทพระราชนิพนธว่า .กิจ ๑๐ ประการที่ผุ้ประพฤติ ยังไม่เคยเสียใจ ที่มา หน้า ๑๔๒ เล่มเดียวกัน
4 พฤษภาคม 2547 20:47 น. - comment id 260561
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าฯพระพุทธเจ้า โกโรโกโส
4 พฤษภาคม 2547 21:10 น. - comment id 260577
อืมม..ให้หลักคิดดีครับ. นักลากตั้งทั้งหลายยิ่งพึงอ่านให้มาก และประพฤติให้ถูกให้ต้อง....ของดีมีค่า จะเสียน่ะ ^_^.............. .
4 พฤษภาคม 2547 22:52 น. - comment id 260679
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าฯพระพุทธเจ้า โกโรโกโส จาก : โกโรโกโส รหัส - วัน เวลา : 264979 - 04 พ.ค. 47 - 20:47 คุณโกโรโกโส ขอบคุณมากค่ะ
4 พฤษภาคม 2547 22:56 น. - comment id 260684
อืมม..ให้หลักคิดดีครับ. นักลากตั้งทั้งหลายยิ่งพึงอ่านให้มาก และประพฤติให้ถูกให้ต้อง....ของดีมีค่า จะเสียน่ะ ^_^.............. . จาก : รหัสสมาชิก : 6555 - toneliu รหัส - วัน เวลา : 264995 - 04 พ.ค. 47 - 21:10 ขอบคุณค่ะ ต้นหลิว
4 พฤษภาคม 2547 23:02 น. - comment id 260694
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าฯ พระพุทธเจ้า ผู้หญิงไร้เงา
4 พฤษภาคม 2547 23:13 น. - comment id 260712
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าฯ พระพุทธเจ้า ผู้หญิงไร้เงา จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา รหัส - วัน เวลา : 265113 - 04 พ.ค. 47 - 23:02 ขอขอบคุณค่ะ
4 พฤษภาคม 2547 23:27 น. - comment id 260745
ขอพระองค์ทรงเป็นสุข
4 พฤษภาคม 2547 23:40 น. - comment id 260763
ขอพระองค์ทรงเป็นสุข จาก : รหัสสมาชิก : 6139 - แม่จิตร รหัส - วัน เวลา : 265165 - 04 พ.ค. 47 - 23:27 ขอบคุณแม่จิตรเข้ามาอ่านค่ะ ขอความสุขคืนกลับคุณ 10 เท่านะคะ
4 พฤษภาคม 2547 23:53 น. - comment id 260773
กิจสิบประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ 1. เพราะทำความดีทั่วไป 2. เพราะไม่ได้พูดร้ายต่อใครเลย 3. เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน 4. เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด 5. เพราะงดพูดในเวลาโกรธ 6. เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน 7.เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด 8.พราะความอดกลั้นต่อผู้อื่น 9.เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนิทาน 10.เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย คนเราทุกวันนี้ มีไม่น้อยที่ทำเรื่องต่าง ๆ แล้วพลอยทำให้ตนเองต้องเสียใจภายหลัง ก็ได้แต่เพียงคร่ำครวญ ปริเวทนาการ ไม่สามารถกลับหวนทวนอดีตได้ ถ้าจะว่าไปแล้วคนเราทุกวันนี้ไม่ต้องถึง 10 ประการหรอก ถ้าได้สักครึ่งหนึ่ง สังคมก็จะดีไม่น้อย แต่เพราะความดีให้ผลช้า และตอบแทนในแง่ของวัตถุไม่ทันใจ จึงดูเหมือนความชั่วจะได้รับการสนองตอบมากกว่า แต่เพราะคิดว่าแค่จะได้ จะเอานั่นแหละคนเราจึงต้องมาเสียใจภายหลัง เอาง่าย ๆ แค่ข้อ 4 ที่ว่า คิดเสียก่อนจึงพูด ก็หมายถึงว่า ก่อนพูดเราเป็นนายของคำพูด แต่พอพูดเสร็จมันกลับเป็นนายเรา หรือ ข้อ 5 เพราะงดพูดในเวลาโกรธ ก็เพราะว่า ความโกรธเปรียบเสมือนลูกระเบิด คือ ก่อนที่มันจะทำลายคนอื่นได้ มันจะต้องทำลายตัวมันเองก่อน ส่วนความไม่โกรธ ก็เหมือนพัดลม ที่ตัวมันเองแสนร้อนเมื่อเปิดนาน ๆ แต่คนได้รับกลับเย็น.............. ขอให้ทุกหัวใจจงงดงาม... แล้วเจอกันอีกครับทิกิ.
5 พฤษภาคม 2547 01:13 น. - comment id 260824
ทิกิ อยากจะบอกว่า ทิกิ แต่งกลอนเก่ง และแต่งดีมาก ***ชื่นชมเสมอ****
5 พฤษภาคม 2547 01:38 น. - comment id 260843
กิจสิบประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ 1. เพราะทำความดีทั่วไป 2. เพราะไม่ได้พูดร้ายต่อใครเลย 3. เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน 4. เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด 5. เพราะงดพูดในเวลาโกรธ 6. เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน 7.เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด 8.พราะความอดกลั้นต่อผู้อื่น 9.เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนิทาน 10.เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย คนเราทุกวันนี้ มีไม่น้อยที่ทำเรื่องต่าง ๆ แล้วพลอยทำให้ตนเองต้องเสียใจภายหลัง ก็ได้แต่เพียงคร่ำครวญ ปริเวทนาการ ไม่สามารถกลับหวนทวนอดีตได้ ถ้าจะว่าไปแล้วคนเราทุกวันนี้ไม่ต้องถึง 10 ประการหรอก ถ้าได้สักครึ่งหนึ่ง สังคมก็จะดีไม่น้อย แต่เพราะความดีให้ผลช้า และตอบแทนในแง่ของวัตถุไม่ทันใจ จึงดูเหมือนความชั่วจะได้รับการสนองตอบมากกว่า แต่เพราะคิดว่าแค่จะได้ จะเอานั่นแหละคนเราจึงต้องมาเสียใจภายหลัง เอาง่าย ๆ แค่ข้อ 4 ที่ว่า คิดเสียก่อนจึงพูด ก็หมายถึงว่า ก่อนพูดเราเป็นนายของคำพูด แต่พอพูดเสร็จมันกลับเป็นนายเรา หรือ ข้อ 5 เพราะงดพูดในเวลาโกรธ ก็เพราะว่า ความโกรธเปรียบเสมือนลูกระเบิด คือ ก่อนที่มันจะทำลายคนอื่นได้ มันจะต้องทำลายตัวมันเองก่อน ส่วนความไม่โกรธ ก็เหมือนพัดลม ที่ตัวมันเองแสนร้อนเมื่อเปิดนาน ๆ แต่คนได้รับกลับเย็น.............. ขอให้ทุกหัวใจจงงดงาม... แล้วเจอกันอีกครับทิกิ. จาก : รหัสสมาชิก : 7767 - เกียรติ กรัชกาย รหัส - วัน เวลา : 265194 - 04 พ.ค. 47 - 23:53 คุณเกียรติคะ ขอบพระคุณม้ากมาก งานร้อยแก้วคุณน่าอ่านยิ่งค่ะ วันนี้อยากได้แอร์ใหม่ค่ะร้อนจัง เกี่ยวกับเรื่องที่เขียนไหมคะ ? คนอะไรเขียนดีจริงๆ
5 พฤษภาคม 2547 01:40 น. - comment id 260845
ทิกิ อยากจะบอกว่า ทิกิ แต่งกลอนเก่ง และแต่งดีมาก ***ชื่นชมเสมอ**** จาก : รหัสสมาชิก : 7773 - อัณณพ รหัส - วัน เวลา : 265245 - 05 พ.ค. 47 - 01:13 วันนี้แต่งบทเดียวเองนะคะ ถวายพระพรวันฉัตรมงคลเท่านั้นแหละค่ะ ขอบคุณมากค่ะในกรุณา
5 พฤษภาคม 2547 01:47 น. - comment id 260849
ทิกิ อยากจะบอกว่า ทิกิ แต่งกลอนเก่ง และแต่งดีมาก ***ชื่นชมเสมอ**** จาก : รหัสสมาชิก : 7773 - อัณณพ รหัส - วัน เวลา : 265245 - 05 พ.ค. 47 - 01:13 อ่อค่ะ ขอบคุณมากค่ะ แต่งบทเดียว ถวายพระพร เองนะคะ
5 พฤษภาคม 2547 06:08 น. - comment id 260881
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้าทีมงาน เพี้ยนกรุ๊ป และ เว็บทีนแอมดอทเน็ต
5 พฤษภาคม 2547 06:08 น. - comment id 260882
ขอบคุณคุณเพี้ยนแต่ให้ดี ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ น่าจะเป็นกลางดีค่ะ
5 พฤษภาคม 2547 06:18 น. - comment id 260883
=ชนกัน งั้นยอมรับค่ะ
5 พฤษภาคม 2547 13:18 น. - comment id 261024
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
5 พฤษภาคม 2547 14:22 น. - comment id 261087
ขอขอบคุณค่ะคุณ :magic
5 พฤษภาคม 2547 18:41 น. - comment id 261316
ู^J^ .......... II I I II I I II IIIIIIII IIIIIIII
5 พฤษภาคม 2547 18:44 น. - comment id 261318
ู^J^ .......... II I I II I I II IIIIIIII IIIIIIII จาก : รหัสสมาชิก : 2841 - ***กฤษณะ*** รหัส - วัน เวลา : 265722 - 05 พ.ค. 47 - 18:41 ขอขอบพระคุณท่านกฤษณะมากเลยค่ะ
5 พฤษภาคม 2547 20:42 น. - comment id 261391
_/I\_ _/I\_ _/I\_
6 พฤษภาคม 2547 09:51 น. - comment id 261585
ประเวศชี้7สาเหตุใต้รุนแรง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ได้เขียนบทความเรื่อง ความรุนแรงที่ภาคใต้ สาเหตุและวิธีแก้ไข ตอนหนึ่ง ระบุว่า การมองปัญหาภาคใต้ไม่ควรมองแบบตายตัวแยกส่วนว่าเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องมองแบบอิทัปปัจจยตา คือมองการเกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยหลายอย่างพร้อมกัน เพราะในระบบที่ซับซ้อน แม้เหตุน้อยนิดก็ทำให้เกิดเรื่องแบบถล่มทลายได้ เรียกว่า ปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีก น.พ.ประเวศระบุว่า สาเหตุแห่งความรุนแรงในภาคใต้ มี 7 ประการ คือ 1.ความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ 2.ความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่น กับการรวมศูนย์อำนาจของราชการส่วนกลาง 3.สปิริตแห่งการแบ่งแยกดินแดน 4.การวางตำแหน่งของประเทศที่ผิดพลาดท่ามกลางความขัดแย้งโลก 5.การขาดสัมมาวาจาของนายกรัฐมนตรี 6.ขาดการใช้สันติวิธี และ 7.ผลของการศึกษาที่ไม่เข้าใจความเป็นมนุษย์ 0ขาดบารมีเรื่องวาจา ในประเด็นการขาดสัมมาวาจา น.พ.ประเวศระบุว่า การเป็นคนขาดวาสนาบารมีในเรื่องวาจา เป็นคนที่พูดแล้วทำให้เกิดเรื่อง ทั้งนี้ควรยึดวจีสุจริตตามพุทธพจน์ ประกอบด้วย จะพูดอะไรต้องเป็นความจริง มีที่มา มีที่อ้างอิง, พูดเป็นวาจาสุภาษิต , พูดถูกกาลเทศะ แม้เป็นความจริงถ้าไม่ถูกกาลเทศะ ก็ไม่พูด และพูดแล้วต้องเกิดประโยชน์ พูดแล้วเกิดโทษก็ไม่พูด สังเกตการพูด จะเป็นปัญหามากกว่า พูดแล้วทำให้เกิดเรื่อง เป็นผู้นำต้องไม่ให้สัญญาณความรุนแรง อำนาจรัฐนั้นนิยมใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว ถ้าผู้นำให้สัญญาณความรุนแรง อำนาจรัฐก็จะใช้ความรุนแรงเกินขอบเขต ก่อเวรก่อกรรมต่อไปเป็นอันมาก น.พ.ประเวศระบุ http://www.matichon.co.th/matichon/matichon.php?s_tag=01p0102060547&show=1§ionid=0101&day=2004/05/06 จากข่าวมติชน 6 พฤษภาคม 2547
6 พฤษภาคม 2547 09:53 น. - comment id 261586
_/I\_ _/I\_ _/I\_ จาก : วสุนทรา รหัส - วัน เวลา : 265799 - 05 พ.ค. 47 - 20:42 ออค่ะ ขอบคุณคุณวสุนทรา มากค่ะ ส่วนข้อความข้างบนนี้ ก็ กำลังค้อปี้ไปโพสท์ ชุด พระราชดำรัสธรรมแห่งพระปิยะมหาราช เกิดติด มาค้อปี้paste ที่นี่ ก็ไม่เป็นไร ถือว่า เป็นข้อมูลทันเหตุการณ์ให้อ่านกันนะคะ
6 พฤษภาคม 2547 10:27 น. - comment id 261598
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าฯพระพุทธเจ้า when i fall in love
6 พฤษภาคม 2547 11:11 น. - comment id 261619
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าฯพระพุทธเจ้า when i fall in love จาก : when i fall in love รหัส - วัน เวลา : 266011 - 06 พ.ค. 47 - 10:27 ร่วมถวายพระพรท่านด้วยค่ะ
7 พฤษภาคม 2547 16:12 น. - comment id 262516
กิจสิบประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ 1. เพราะทำความดีทั่วไป 2. เพราะไม่ได้พูดร้ายต่อใครเลย 3. เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน 4. เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด 5. เพราะงดพูดในเวลาโกรธ 6. เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน 7.เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด 8.พราะความอดกลั้นต่อผู้อื่น 9.เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนิทาน 10.เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย อืมน่าศึกษา น่านำมาใช้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตมากเยยอ่ะ แวะมาให้กำลังใจครับ
8 พฤษภาคม 2547 08:07 น. - comment id 263039
http://music.kapook.com/newmusicstation/play.php?id=2434
11 พฤษภาคม 2547 10:38 น. - comment id 265654
แต่ประเด็นของคุณก็น่าสนใจดีค่ะ http://www.thaipoem.com/web/boarddata.php?id=3240 ทิกิ_tiki อืมม์ เป็นความเห็นที่น่าสนใจดี คงเห็นการพัฒนา อย่างเป็นรูปธรรมขึ้น หากผู้เขียนไม่คิดขยักสิ่งดีๆไว้ส่งนิตยสาร เพื่อรับค่าเขียนรายสัปดาห์ หรือ ว่าเก็บไว้เพื่อออกหนังสือรวมเล่มเฉพาะตน เพื่อผลงานทางโลกบรรณกรรม...ซึ่งเป็นสิทธิส่วน บุคคลของแต่ละท่าน แต่ที่แน่แน่ เคยเสนอให้ ทำระบบ ห้ามคัดลอกกลอนอันเป็นลิขสิทธิ์ส่วนบุคคลผุ้ประพันธ์ เหมือน หน้า ใบหญ้าดอทคอม ที่นี่ คุณอริตา กันยามาส เธอก็คุยให้ฟังว่าโดนขนาด คัดลอกทั้งเรื่องของเธอไปเปลี่ยนชื่อตัวละคร เท่านั่น ? ขอเรื่องสงวนลิขสิทธิ์ Copy right นี้ ก็ว่าขอมาปีหนึ่งพอดี ไม่มากไม่มายนะคะ เรียนขออีกรอบแล้วกัน ไม่ใช่ว่าไม่อยากนำกลอนดีๆมาลง แต่เข้าใจว่า นักเขียนแต่ละท่าน ก็อยากมาร่วมลงที่ หน้าThaipoem แน่นอน แต่ลงแล้ว ต้องคิดในใจอยู่ว่า เขาได้อะไร หรือเสียอะไร เช่นบางท่านที่เคย โยน กลอนมาให้หลายเว็บ ท่านก็เลิก โยน เพราะ นำไปส่งนิตยสาร เป็นเงิน เป็นทองก็มาก นะคะ คุณ ขัยชนะคะ แต่ประเด็นของคุณก็น่าสนใจดีค่ะ ทิกิ_tiki Fraudulent ....counterfeit...forged....mock...sham...falseness...dishonorable.....crooked...deceitful... devios...dishonesty..... หากไร้ศีลข้อมุสาวาท และ ลักขโมย เสียแล้ว การคว้าข้อความของผู้อื่นมาอ้างว่าเป็นของคน ก็มีอยู่เสมอร่ำไป ไทยไม่ช่วยไทย แล้วใครจะช่วยกัน ??? ทิกิ_tiki deceit fraudulence misrerepresentation deception fake bustard sham falseness humbug fourflusher imposter pretense...deception นี้ การขโมยความคิดสร้างสรรค์งานประพันธ์ รวมไปถึงวิทยานิพนธ์ด้วยแหละ..เราจะ แก้ไขได้ด้วยกันทุกคน ก็ด้วยความเคารพสิทธิในการสร้างสรรค์งานประพันธ์ของแต่ละบุคคล แน่นอนที่ว่า กฎหมายลิขสิทธิ์ที่มีอยู่ ได้ให้โอกาส ลูกหลานของทุกท่านไปอีก 50 ปีในการครอบครองลิขสิทธิ์วรรณกรรมของผู้จาร แต่ตราบใด ที่ Fraudulent นี้ ยังไม่ถือเป็นจริยะธรรมในใจของผู้ประพันธ์อยู่ การจะยกย่องสิ่งที่ว่าเลิศนั้น เรายกของใครโดยแท้จริง หรือ ว่า ยกย่อง โจรวรรณกรรม ? จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki รหัส - วัน เวลา : 7136 - 11 พ.ค. 47 - 09:54 เห็นเป็นข้อมูลน่าสนใจคุณชัยชนะ จึงคัดมาลงที่นี่ อันนี้ความสมบูรณ์นะคะ คุณชัยชนะ ขออภัย http://www.thaipoem.com/web/boarddata.php?id=324
19 กุมภาพันธ์ 2552 13:25 น. - comment id 265808
ขอบคุณนะมีงานส่งแล้ว
16 กุมภาพันธ์ 2553 17:09 น. - comment id 283159
ดีมากๆครับ
31 สิงหาคม 2554 12:18 น. - comment id 343187
ขอบคุณเช่นกันที่เข้ามาอ่านกันอยู่เรื่อย ๆ นะคะ
15 สิงหาคม 2549 20:49 น. - comment id 414724
เราอยากรู้ความหมายบทที่7อะ
24 มกราคม 2550 18:10 น. - comment id 414867
อืม... ดีมากเรยแหล่ะ ตอนนี้เรียนเรื่องอยุ่อ่ะ น่าสนใจมากๆ ความจริง เราถนัดภาษาไทอ่ะค่ะ ..มีอะไรสอนเราอีกเยอะมากมาย ก้อนำไปใช้ได้จริงๆ ไม่เสีนใจ ไม่เครียด.... อืมๆๆ ใครว่าง แอดคุยกันเล่นได้น่ะPL_beaw@hotmail.com คุยเล่นๆ ไม่เบื่ออ่ะ คนมันคุยเก่ง หุหุ แต่มีข้อแม้ว่า อย่ามีอะไรแปลกๆน่ะค่ะ คนไม่ชอบอ่ะค่ะ ขออภัยล่ะกัน
15 กุมภาพันธ์ 2550 20:44 น. - comment id 414921
น่าจะมีคำแปลให้ด้วยนะค่ะ