http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420 (รางวัลชีวิต) URLhttp://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=594 (วันคอย) ************* สนธยา..แล้ว.. ตะวันดวงสีทองผ่องผุดราวสีหมากสุก กำลังระดะสาย..พรายแสงเรียวงาม ราวเรียวรุ้งในทุ่งดอกไม้เมฆ..งามระยับยิบ เหนือเจดีย์องค์ใหญ่วัดใหญ่ชัยมงคล..อยุธยา ที่ฟ้าสีไพลงามฉ่ำดวง กำลังระร่ำแสงรอนรอนภิรมย์อาบห่ม ลอยดวง..เหนือยอดเจดีย์ ที่ช่างเป็นภาพแสนงามในดวงใจ ที่ลดหลั่นละไล่ งามคล้ายดั่งเมืองแมนแดนสวรรค์ ในตรึงขวัญงามเงาในอดีตลาเลือนเลยลับ และ ราวบท*เห่ครวญ*แสนโศกใจไหวงามของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ลอยหวานเศร้าอะคร้าวโศกร้าวสะเทือนโลกสะเทือนฟ้า สะท้านใจไหวแว่วแผ่วมาพร้อมกับ วะแว่วเสียง มโหรีบรรเลงขับกล่อมเพลงเสภาโศกสะเทือนคลอ *********************** รอนรอนสุริยคล้อย สายัณห์ เรื่อยเรื่อยเรื่อแสงจันทร์ ส่องฟ้า รอนรอนจิตกระสัน เสียวสวาท แม่เอย เรื่อยเรี่อยเรียมคอยถ้า ที่นั้นห่อนเห็น ฯ เรื่อยเรื่อยมารอนรอน สุริยาจรเข้าสายัณห์ เรื่อรองส่องสีจันทร์ ส่งแสงกล้าน่าพิศวง ลิ่วลิ่วจันทร์แจ่มฟ้า เหมือนพักตราหน้านวลผจง สูงสวยรวยรูปทรง ส่งสีเจ้าเท่าสีจันทร์ เอวอ่อนชอ้อนองค์ โฉมอนงค์ทรงสาวสวรรค์ หาไหนไม่เทียมทัน ขวัญเนตรพี่นี้น่ารัก ขาวสุดพุดจีบจีน เจ้ามีสีนพี่มีศักดิ์ ทั้งวังเขาชังนัก แต่พี่รักเจ้าคนเดียว นอนนั่งตั้งอาลัย สายสุดใจไม่แลเหลียว หวังชมสมกลมเกลียว ควรฤาน้องข้องใจเคือง ขาวสุดพุดซ้อนแซม เนื้อแอร่มอร่ามเหลือง โฉมอ่ากว่าทั้งเมือง หนแห่งใดไม่เหมือนเลย ได้น้องทองนพมาศ มาสังวาสพาดชมเชย ร่วมเรือนเพื่อนพิงเขนย เคยวิงวอนอ่อนหวานคำ ฝนตกยกปีกป้อง ฟ้าร้องต้องเอาตนงำ ชิดเชื้อเนื้อนวลขำ อ่อนลมุนอุ่นอกเรียม รักนุชสุดสายใจ ต้องฤทัยไม่เท่าเทียม ขอต้องน้องอายเหนียม เกรียมจิตเจ้าเฝ้าทุกข์ทน ฝนตกฝนหากตก แก้วกับอกอย่าโกรธฝน ลมพัดรับขวัญบน แก้วโกมลมานอนเนา ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เยนแหล่งหล้าในภูเขา ไม่เยนในอกเรา เพราะเพื่อนเคล้าเจ้าอยู่ไกล เรียมร่ำน้ำตาตก อกร้อนรุ่มดังสุมไฟ แสนคนึงถึงสายใจ เจ้าไกลสวาทนิราศเรียม ฯ เสียงสรวลระรี่นี้ เสียงใด เสียงนุชพี่ฤาใคร ใคร่รู้ เสียงสรวลเสียงทรามวัย นุชพี่ มาแม่ เสียงบังอรสมรผู้ อื่นนั้นฤามี ฯ เสียงสรวลระรี่นี้ เสียงแก้วพี่ฤาเสียงใคร เสียงสรวลเสียงทรามวัย สุดสายใจพี่ตามมา ลมชวยรวยกลิ่นน้อง หอมเรื่อยต้องคลองนาสา เคลือบเคล้นเหนคล้ายมา เหลียวหาเจ้าเปล่าวังเวง ยามสองฆ้องยามย่ำ ทุกคืนค่ำย่ำอกเอง เสียงปี่มีครวญเครง เหมือนเรียมคร่ำร่ำครวญนาน ล่วงสามยามปลายแล้ว จนไก่แก้วแว่วขับขาน ม่อยหลับกลับบันดาล ฝันเห็นน้องต้องติดตา เพรางายวายเสพย์รส แสนกำสรดอดโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล เวรามาทันแล้ว จึ่งจำแคล้วแก้วโกมล ให้แค้นแสนสุดทน ทุกข์ถึงเจ้าเศร้าเสียดาย งามทรงวงดังวาด งามมารยาทนาดกรกราย งามพริ้มยิ้มแย้มพราย งามคำหวานลานใจถวิล แต่เช้าเท่าถึงเยน กล้ำกลืนเขญเปนอาจิณ ชายใดในแผ่นดิน ไม่เหมือนพี่ที่ตรอมใจ ฯ เรียมทนทุกข์แต่เช้า ถึงเยน มาสู่สมคืนเขญ หม่นไหม้ ชายใดจากสมรเปน ทุกข์เท่า เรียมเลย จากคู่วันเดียวได้ ทุกข์ปิ้มปานปี ฯ ******************* มวลหมู่นกไพรพากันโผผินบินร่อนร้องระงม ราวตรอมตรมกับตะวันลาพาภิรมย์รอน ซุกปีกอันอ่อนล้ากลางกอละออดวงดอกดกลั่นทมพราวเต็มราวกิ่ง ที่หอมหอม..หวานระรินร่ำพรำพรมไปกับสายลมในยามค่ำ ผู้หญิง..ในชุดผ้าซิ่นไหมสีทองผ่องกระจ่าง พาร่างงามสล้างโปร่งบางกลึงกลม ห่มงามนิ่มเนินเนื้อหนั่นแน่น และนวลไหล่สล้างละมุนละเมียดละไม ด้วยสะไบแพรสีไพล ที่ซัดส่ายพลิ้วไหวสะบัดทุกรอยงามยามย่างเยื้อง ให้งามตรึงตาจนทุกคนต้องเหลียวหันมามอง ด้วยสายตามีคำถาม... แกมความซาบซึ้งตรึงตรา..ประทับใจ ไย..เล่า.. ภาพงามดั่งอดีตฝันพราวราวฝันไป พลันมาปรากฏนะกลางใจไสวสว่างตรงหน้าได้ด้วยไฉนเล่า ไย.. นางคืองามเนรมิตรลอยสถิต ดั่งมาประดับหล้า ลอยพรากมาจากฟากฟ้าไหนละหนอ ลงมาเยือนโลก มาแต้มหล้าพาโศกซึ้งตรึงตรา ประทับประเทืองใจให้วาบหวามไหว ในแสงรำไรรำไรยามตะวันดวงสีไพลโพล้เพล้ชิงพลบ ราวสยบโลกให้งามเย็น และกับใจ ดวงหวานเศร้าดวงดายเดียวเหว่ว้า ดวงสุขสงบงามเงียบ เธอค่อยๆแหงนหน้ารอ และรอ ใต้ร่มกิ่งลั่นทม รอนวลระทมหอมให้ พรายพลิ้วละลิ่วดอกร่วงควะคว้างพร่างดวงดอก ร่วงกระจาย กรายกลีบแย้มหอมอวลทุกนวลอณูเนื้อใจละออให้ไหวรับ สู่กลางอุ้งมือสวยไสวที่สวมใส่กำไลเงินวะวาววับ รับสะท้อนเรียวดวงดอกแดดละมุน ที่ค่อยๆยกขึ้นช้าช้าราวเอื้อมไขว่คว้า..คว้าไขว่ ในหอมงามให้หอมพร่างลงกลางใจใสวะวับวาว ในนะบัดดล.. ที่ดอกลั่นทมก็พลันร่วงหล่นพรมพราวราวพลีพร้อม ลงมาสังเวยดวงใจภักดิ์แห่งรักเธอ เธอ..ค่อยค่อยหยิบมาทัดแก้มแซมผมหอมเกศเกล้ากรุ่น.. พาให้ใจดวงละมุนเริ่มพร่างหยาดน้ำตาระริน คิดถึง..คิดถึง..และแสนคิดถึงคะนึงหา ยอดดวงใจ..คนดี.. พร้อมสะไบภักดิ์สะไบรักสะไบแพรผืนงาม ที่ห่มหวานระทมทับจับใจดวงโศกราน ราวย้อนโลกย้อนรอย ให้ละห้อยหวนหา..อดีต ใน*คำมั่นสัญญารัก* ที่แสนงามงดหมดจดจิตวิญญาณภักด์พลี ที่ผู้ใด ใครไหนเล่า ในโลกสับสนใบนี้ จะเข้าใจจะซึ้งถึงก้นบึ้ง *แห่งมหัศจรรย์ใจมหัศจรรย์รักภักดิ์นิรันดร์ดวงนี้* ในนาทีหลังจากนั้น ..ที่ พลันเธอ..ค่อยๆทรุดร่างงาม น้อมศิระลงกรานกราบ อธิษฐานต่อเบื้องหน้า.. พระพักตร์พระพุทธผู้พิสุทธิคุณในโบสถ์คร่ำ และ หวังจักแค่มีเพียงงามรักหนักแน่น มิเคยคิดแหนหวง..ครอบครองใครเป็นเจ้าของ หรือลวงล่อหลอกใจหลอกใครให้ไหวตรมตาม เธอ..ผู้บูชาความรัก และเชื่อว่าศรัทธารักเพียงนั้น จะยังคงสร้างพลังให้โลกหมุน ฝากหอมกรุ่นสรรสร้าง หาก ดวงใจเราทุกผู้นั้น ยังมิได้หันไปใช้ชีวิตแบบนักบวช ไปเสียสิ้นทั้งโลกหล้า.. เพราะ โลกจะเหว่ว้าสักเพียงใด หากหัวใจทุกมนุษย์ปุถุชนทุกผู้...สิ้นไร้รักภักดีใจ หมดพลังใจพลังงาม ปล่อยวาง..ให้โลกไร้ทิศทางอยู่ในมือมาร ที่ยังต้องมีทั้งคนดีคนชั่วคละเคล้า ใช่..แล้วคนดี เราทุกคนแค่เพียรทำหน้าที่พล้อมพลีไปด้วยกัน เพียงแค่เรา รู้รักเป็นรักเย็นรักงามให้ รู้ว่าความตายคือสิ่งสุดรอบ และรีบสร้างคุณงามความดี เลิกมีมิจฉาทิฐิอิจฉาอยากเอาชนะซึ่งกันและกัน เพราะ ทุกกมลในโลกนั้น ยังคงต้องดำรงชีพชอบประกอบกิจ ยังต้องมีชีวีชีวิตดำรงร่างเพื่อปากท้อง เพื่อตัวเองและพ่อแม่พี่น้องเพื่อทุกดวงใจ พร้อมเพียรทำใจสร้างงามภาวนา อย่า.. ทิ้งภาระทิ้งความรับผิดชอบ ทิ้งโลกและผุ้คนให้อดหยากหิวโหย ทิ้งดวงใจทิ้งความรักจริงทิ้งความดี ทิ้งแล้วเดินหนีจากสังคมจากผืนดิน ที่ให้กมลและร่าง ที่ให้เราหยัดยืนเป็นคน แล้วโลกและคนคนคนจะหมุนไป ในทิศทางใดเล่าเจ้ายอดดวงใจ ขออย่าหวั่นไหว ขอเพียงเจ้า.. ผู้เคยทำผิดพลาดในอดีตอันใหญ่หลวง ล่วงรู้สำนึกตน รู้รัก..รู้ลำดับหน้าที่ รู้วัยวันแห่งชีวี รู้เมตตารู้อภัย รู้วางใจว่างใจทำหน้าที่ตน ให้กมลแสนงามแสนดีอย่าผิดซ้ำตอกย้ำใจ ก็คงพอเพียงพอเพียงแล้วนะเจ้าแก้วขวัญจอมใจ ใช่..แล้ว เราทุกคนควรคิดถึงความตาย และใช้มันมากระซิบย้ำให้ไม่ประมาทกับทุกบทบาทชีวี แต่ใช่ว่า.. จะละเลยรักแสนดีแสนงามหากพบพานคนดีนะดวงใจ เพราะคนเราทุกคนคงต้องการน้ำเลี้ยงชีวา ที่จะนำพาเส้นทางใจให้พบไสวสว่าง ต่างล้วนมีหัวใจดวงดี มีเหตุผลมีความรับผิดชอบ ประกอบชีวีมาต่างกัน.. จงให้ความรักความเข้าใจ และสำหรับ เธอ..ผู้มากมีหลายคนห่วงใยมากหวังดี ขอแค่ดวงชีวีชีวันได้ฝันไกล..ไกล พาหัวใจไปตามฝันอันเพริศแพร้วพริ้งพราว ราวเกิดก่อแก้วกระจ่างใจสว่างใจ ก็ไหวก็งามพอก็รู้พอ ขออย่าห่วงเลย..นะ จงรับรู้เพียงนั้น เพียงแค่ขอเปิดใจดวงขวัญฝัน หวัง..สร้างสรรโลกและรักนี้ให้จักดำรง ด้วยศีลธรรมควบคู่หน้าที่แห่ง คุณงามความดีของทุกผู้คน ที่ยังคงต้องดำรงได้ด้วยปัจจัยสี่ และ นี่คืองามดวงใจใครเล่ารู้ ที่หวังเพียรพยายามสร้างโลกฝันและโลกใจโลกจริง ให้ยิ่งมากงามงดหมดจดจริงใจด้วยการให้ ด้วยการรู้รักรู้วางรู้ทันความเป็นไปแห่งโลก ที่หวังแค่ว่า ใจดวงดีมีดวงธรรม ส่องนำแสงใจให้สวยใสเสมอมาเสมอไป มิโศกรานมิเศร้านาน อาจจะแค่เพียงผ่านหวานระรินรดร่ำ ฝากนิยามรักแบบชุ่มฉ่ำใจ..เพียงแค่นั้นเพียงแค่นี้.. อย่ายึดติดยึดมั่น ฝันฝากใจมาห่วงใยมาพะวงเลย หวังเพียง ใส่..จินตนาการ..หวานเศร้า ราวให้หัวใจนางเอกรานร้าว รานร่างห่างหวานมีเพียงเหงาเศร้าดายเดียว ตลอดปีตลอดชาติเพื่อความละไมละมุน ที่มากผู้อ่านมักหมุนใจตามไป ด้วยอารมณ์รักอารมณ์ร่วมมากมายมากมี เกิดห่วงใย..ห่วงใย..ห่วงใจ..หวงใจ และหวังใจ..*ต้องมีสักวัน* แบบเพลงฝันของคุณจักรพรรณ์..ที่แอบฝันแอบอ้อนไว้ ว่า นางเอกนางใจนางในฝันในดวงใจขวัญฝัน..ของใครใคร คงได้มีสักวัน..ต้องมีสักวันไม่ว่าในภพนี้ภพหน้าพา พบพระเอกในโลกจริงในโลกใจ อันมีหัวใจดวงใสสวยงามกระจ่างควรคู่ ควรค่ามาเคียงกล้าเคียงใจ ไปด้วยกันตราบชั่วนิจนิรันดรนะคะทุกคนดี..ทุกดวงใจ *************** ไพล..ไปอยุธยามาค่ะ ไปงานแต่งงาน ที่งานนี้แสนโชคดีเป็นหลายเท่าค่ะ ที่ ได้ไปไหว้พระงามในโบสถ์คร่ำ กับไปเห็นงามอดีตอันแสนยิ่งใหญ่ ที่แสนติดตาตราตรึงใจค่ะ ที่ไพลแสนรักและอยากรินน้ำตาทุกคราครั้ง ราวร่างใจจิตวิญญาณได้ถอดใจไหวหวาม ย้อนหลังกลับไปในงามอดีตอันเรืองรุ่ง อีกคราครั้งอย่าง ระทึก..ระทมใจ จริงๆนางเอกไพล ใส่กางเกงผ้าไหมสีทองอมเขียวผ่องผุดไพลไพลค่ะ ตอนลงไปนั้นด้วยกเกรงเสื้อคลุมผ้าไหมจะยับ จึงใส่เพียงเสื้อตัวในรัดรูปสีขาวแนบเนื้อ และกับสายสร้อยทองโบราณมีอุบะทับทิม และ ห่มร่างด้วยสะไบแพรสีทองผ่องผุดพิลาส อย่างงามเงียบเรียบง่ายค่ะ **** ขับรถไป ท่ามกลางรอนรอนแสงตะวันลา ที่ ใกล้ลาดวงค่ะและ ดวงดอกไม้สองข้างทาง ก็กำลังฟายฟ้อน มีตะแบกม่วงดวงดอกละออละอ่อนซ่อนหวานเศร้า ที่ราวกำลังควงกลีบหวานละไมละมุน หมุนควะคว้างพลิ้วไหวรับสายลมอ่อนใส ยามย่ำสนธยาในฤดูร้อน กับคูนเหลืองพราวราวสายฝนสีทองห้อยย้อย งามสะพรั่งที่กำลังสะท้อนละออแดดอ่อนอุ่นค่ะ ฟ้าก็งามราวเรียวรุ้งม่านไหมเลยละค่ะ งามมากกก... ใจไพลแทบอยากจะร้องไห้ อยากมีใครอ้อนสักคนเคียงไปด้วยกัน และงานนี้ ทำให้ไพลได้ร้องไห้จริงหลายฉากตอนค่ะ ตอนไปนั่งใต้ลั่นทมเหว่ว้าหน้าโบสถ์งาม ดูงามสะเทือนใจในยอดเจดีย์ยิ่งใหญ่สูงใหญ่เทียมฟ้าระดะเมฆ ที่น่าเสียดายนักและหากอยากอ่าน ประวัติวัดได้จากเวบนี้นะคะ http://www.ripa.ac.th/ay/WatYaiChaiMonKon.html และ ในยามที่ เห็นเจ้าสาวงามอะคร้าวราวเทพธิดาน้อยน้อย ลอยละล่องท่ามกลางบทเพลงกระหึ่มก้อง ในชุดขาวยาวกรอมเท้าลากพื้นพร่างพรม ด้วยดวงดอกไม้กรายกลีบกุหลาบโปรยปราย ค่อยๆก้าวเดินเคียงกับเจ้าบ่าวในชุดขาวเต็มยศ ผ่านลอดซุ้มกระบี่..งดงามใจมากค่ะ และมียังมีบทเพลง *ขวัญดาว* ที่เพื่อนร่วมรุ่นนายตำรวจ ร้องคลอขับประสานมอบให้ ฉะนั้นรอติดตามอ่านรายละเอียด ในงามรักรจนาจากใจไพลเรื่องต่อไปในเรื่อง *ขวัญดาว*นะคะคนดีทุกดวงใจ
2 พฤษภาคม 2547 14:16 น. - comment id 258590
กำลังแก้บทกาพย์ห่อโคลง ที่วางจังหวะดีแล้วไยออกมายังงี้มิทราบได้ค่ะ ขออภัยนะคะ
2 พฤษภาคม 2547 15:31 น. - comment id 258618
/\(, )....มาชื่นชมผลงานค่ะ
2 พฤษภาคม 2547 15:47 น. - comment id 258627
หวังใจ ทุกดวงใจไหวงาม ยามคลิ๊ก URLฟังบทเพลงนี้คลอขับนะคะ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=594 วันคอย เพลงเก่า : : Key F ยอดรัก จงมองที่ขอบฟ้า โอบๆโค้งลงมา นั้นคืออ้อมกอดจากฉัน ฮือๆ ฮือๆๆ ยามเมื่อเราไกลกัน เธอฉันดังอยู่เคลียไคล้ ยอดรัก สายลมแผ่วละมุน นั่นคือสายลมอุ่น ฉันพรมและจูบลูบไล้ ฮือๆ ฮือๆๆ เธอรู้บ้างหรือไม่ รักใครไม่เท่าเทียมฉัน คืนวัน จะผันแปรเปลี่ยนไป แต่ใจฉันไม่อาจเปลี่ยนเวียนผัน ซื่อตรง จงรักจนนิรันดร์ หากลืมฉัน ฉันคงต้องกลั้นใจตาย ยอดรัก การจากทั้งผูกพัน ย่อมจะคิดถึงกัน เร่งวันคืนกลับเคียงกาย ฮือๆ ฮือๆๆ ครองรักไม่รู้หน่าย วันตายนั่นแหละวันลืม ยอดรัก การจากทั้งผูกพัน ย่อมจะคิดถึงกัน เร่งวันคืนกลับเคียงกาย ฮือๆ ฮือๆๆ ครองรักไม่รู้หน่าย วันตายนั่นแหละวันลืม...
2 พฤษภาคม 2547 15:55 น. - comment id 258633
...เลิศเลอนะคะ.มีบางท่อนจะคล้ายที่เคยอ่านหนังสือที่มาให้เราเรียนนะคะ แต่จำไม่ได้ว่ายัง ตั้งแต่เสียงสรวลนี่นี้ เสียงใคร แต่เขียนได้ยาวดีจัง เรื่อยเรื่อยแดดรอนรอน อ่านชมกลอนระทึกใจ นวลนางนามว่าไพล เฉิดไฉไลสวยโศภา ถวิลหวังหาใครคู่ พี่ช่วยกู่ให้รู้หนา งามสุดพุดพัดชา โปรดจงมาร่วมเคลียคลอ อรุโณทัย อาภาภัส
2 พฤษภาคม 2547 16:07 น. - comment id 258641
งาน..ของพี่พุด..พัดชา.. งดงาม.. ในความหมาย.. มากเลยคะ... ..ล่วงรู้สำนึกตน รู้รัก..รู้ลำดับหน้าที่ รู้วัยวันแห่งชีวี รู้เมตตารู้อภัย รู้วางใจว่างใจทำหน้าที่ตน... สื่อ..ความหมาย..ดีจังคะ.. เรน..คิดถึง..พี่พุดพัดชา...นะคะ..
2 พฤษภาคม 2547 16:48 น. - comment id 258656
บทกวีกาพย์ห่อโคลง*ชื่อเห่ครวญ*นะคะ* เป็นของบรมกวี.. *เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ เจ้าฟ้ากุ้งค่ะ* ที่พุดพัดชาประทับใจมากค่ะ และขอขอบคุณนะคะที่มาทายทักค่ะ พยายามแก้ช่องไฟให้งามอยู่ค่ะนะคะ ด้วยซาบซึ้งใจค่ะ และอยากจะกระซิบ บอกทุกดวงใจค่ะว่างานรักรจนาบทนี้ พุด..เริ่มบรรเลง โดยมิได้ร่างตั้งแต่ประมาณ สิบโมงเช้าค่ะ เสร็จบ่ายสองค่ะ เลยขอลาไปพักนะคะ ก่อนจะกลับมาแก้ไข ให้ยิ่งงามใจงามคำสมบูรณ์แบบค่ะ และ นี่คือหนึ่งผลงานในหลายร้อยเรื่อง ที่พุดรักร้อย ด้วยหยาดเลือดรักผ่านหยดน้ำตา จงรักพุดพัดชา ให้พลังใจไปนานนานนะคะ คู่ร่มรักเรือนไทย หวังฝากพลีให้เป็นเย็นระรินร่ำ พรมหอมงามในเรือนใจทุกคนดีทุกดวงใจค่ะ ด้วยใจ..รักล้นใจ
2 พฤษภาคม 2547 16:54 น. - comment id 258658
ในเวิ้งว่ายฟากฝันพระจันทร์สวย เอื้ออำนวยอวยสุขทุกสิ่งฝัน มีฝนริน ดอกไม้บาน ขานตอบตะวัน รุ้งสีสันต์ สรรสร้างศรีปรีดีเปรม ห้วงฝันนั่น คือห้วงเวลาอันยาวนาน วินาทีผ่านยาวนานกาลกลับเข็ม- นาฬิกาเต้นกระตุงติ้งวิ่ง-เดินเพลินเช่นบ่เต็ม ทะเลเคยเค็มกลับข้นหวานทุกกาลไป ในห้วงนั่น ในเวิ้งนั่น ผันผูกเรื่อง โลกสีเหลือง บ้างสีแสด แผดสีใส จึงล่องลอย ค่อย ค่อย บินตามกลิ่นไอ ตามใบไม้ไหว หกคะเมนลังกาลอย...ปล่อยตามลม ฝันไปด้วยคน
2 พฤษภาคม 2547 16:55 น. - comment id 258659
นางฟ้ามิใช่ซาตานที่รักของพี่พุด และน้องน้อยเรนคะ พี่พุด.. จะกลับมาตอบค่ำคำค่าน้ำใจงามที่ฝากไว้ในยามค่ำระร่ำรินนะคะ เพราะคอมพี่พุดทำงานลำบากมาก วันนี้ที่ช้าเพราะว่าทำงานโดยมิร่างและ หลงลืมเซบ เลยแว๊บหาย ให้น้ำตาพี่พุดหยาด และให้หัวใจพี่พุดแทบหยุดเต้นตามค่ะ ด้วยเสียดายเสียใจคำที่ตัวเองหวังรินร่ำ ว่ามากล้นค่า..ว่าแสนดีแสนงาม .... ฉะนั้นเลยฉะนี้ทุกดวงใจ จงรักพุดสงสารให้มากๆนะคะ ที่เพียรพยายามสร้างงาน และหวังกรุณาเข้าใจ ที่มิอาจคอมเมนท์งานใครได้ยาวๆระยะนี้ค่ะ พุด..ฝากคำขออภัยและขอโทษนะคะ ด้วยใจจริงค่ะ ด้วยซาบซึ้งสุดใจมานานเนาในใจดวงร้าวนี้ค่ะ
2 พฤษภาคม 2547 18:31 น. - comment id 258712
อยุธยามีมากหลากคุณค่า แถมนานาของเก่าเล่าสืบสาน เป็นเมืองเก่าเมืองก่อนแต่โบราณ แถมแสนงามกับสิ่งดีมีให้ชม *-*เป็นจังหวัดที่เคยไปเที่ยวมาบ่อย ๆ ค่ะ บอกได้คำว่าเดียวว่าชอบจังหวัดนี้มาก (แวะมาชื่นชมผลงานนะค่ะ แต่งได้ดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วเห็นภาพเลย)*-*
2 พฤษภาคม 2547 23:00 น. - comment id 258915
ต้องมีสักวันที่ความฝันมาปรากฎ มาให้พบอยู่ตรงหน้าพาหวาบหวาม ขอเพียงรออย่าลดละความพยายาม อย่าไปขามเข็ดขยาด.......ท้อรักเลย
3 พฤษภาคม 2547 05:51 น. - comment id 259087
วันหยุดส่วนมากมักพาเข้าวัดประจำนะครับ คราวนี้บอกตามตรงอ่านเพลินเรื่อย ๆ เลยจับจุดเขียนมิได้ซักอย่าง ขอเอาเรื่องอยุทธยามาเขียนก็แล้วกัน อยุธยาล่มแล้ว หักพัง เหลือร่องรอยความหลัง บ่งชี้ เรื่องราวเล่าได้ฟัง เตือนสติ ขาดรักสามัคคีนี้ ไม่แคล้วอับปาง
3 พฤษภาคม 2547 10:31 น. - comment id 259155
...ร้อยมาลามะลิวัลย์สุคันธ์หอม สองรวงรอมน้อมสู่คู่หัตถา อธิษฐานต่อองค์พระปฏิมา จารสัญญาจารึกจากห้วงใจ ...แด่กนิษฐ์กลอยใจในใจพี่ ดวงฤดีเทิดเจ้าผ่านอสงไขย กาลจักรหมุนเวียนเปลี่ยนภพใด หนึ่งหทัยมอบเพียงเจ้ายุพินเดียว .......คุณพุดมาอ่านงานของคุณนะ เขียนได้งดงามมาก เป็นกำลังใจให้จ้ะ และจะติดตามอ่าน งานของคุณไปเรื่อย ๆ ชอบงานเขียนแบบนี้แหละ หาอ่านได้อยาก อ่านแล้วก็เหมือนเข้าไปสู่อดีตไกลโพ้น.....อิอิ
4 พฤษภาคม 2547 15:14 น. - comment id 260255
พระมงคลมิ่งเมือง เมืองอำนาจ มิ่งขวัญราชศักดิ์สิทธิ์ ลือชื่อเสียง ตระหง่าเด่น กลางใจ โรจน์รุ่งเรือง ลูกหลานเมืองอำนาจได้ไหว้วันทา