วาระ 6 ตุลา
สานฝันตะวันเย็น
โอ้อกเอ่ย ร่ำไห้ ปานใจขาด
ด้วยรักชาติ สละชีพ ที่ยิ่งใหญ่
เพื่อเรียกร้องเสรีภาพความเป็นไท ไม่ให้ใครมาข่มเหง , ไม่เกรงกลัว
รักชาติรัก,ศาสตร์กษัตริย์-ศาสนา พระกรุณาด้วยปกเกล้า คอยคุ้มหัว
พลีสละให้ได้ แม้ชีพตัว เพื่อตัดรอนอำนาจชั่วมั่วระยำ
บนเส้นทางอธิปไตยแห่งสายเลือด เขาถูกเชือด จนชีพวาย ยังมิหนำ
ประจัญหน้าด้วยมือเปล่าที่เขาทำ เช้าจนค่ำเป็นศพเกลื่อนให้เตือนใจ
เฝ้าวิงวอนเพื่อนเอ่ยจงลุกสู้
เพื่อกอปรกู้ศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่
เรามาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ทำไมมาห้ำหั่นกันละ...วา
เสียงปืนกราดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เหมือนเอาขุมหลุมขุดไว้ตั้งตรงหน้า
แล้วปลิดชีพ ทีละนัด ชัดนัยต์ตา พวกคลั่งบ้าอำนาจขาดศีลธรรม
มิใช่พี่ มิใช่น้องพวกเขาหรือ! คำสั่งคือ อำนาจเด็ดขาดล้ำ
จากคนเถื่อนไร้จรรยาน่าระกำ เขาถูกทำ น่าสลด รันทดใจ
เขาแขวนคอแล้วทุบซ้ำจนร่างแหลก บ้างถูกตีหัวแตก น้ำตาไหล
วิ่งหัวซุกหัวซุน , ...เขาสะใจ
เขาทำพี่น้องไทย ช่างใจดำ
เขาชนะด้วยปืน วิ่งไล่ล่า เราพ่ายแพ้- เราถูกฆ่า ถูกเหยียบย่ำ
นี่หรือไร คณาธิปไตยที่เขาทำ แล้วเชิดหน้า ,ช่างน่าขำ หนอสังคม
บนเส้นทางอธิปไตยแห่งสายเลือด บทบันทึกแสนดุเดือดและขื่นขม
แลกมาด้วยกี่ศพ ฝังดินจม กี่อกตรม ไร้ชีวิต จิตวิญญาณ