http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=196 ขอฝากเรื่องแสนรักไว้อีกคราในหน้าส่วนตัวค่ะ..นะคะ ************* พราว คิดตัดสินใจซื้อ..บ้านน้อยริมเชิงเขา หลังนี้.. ทันทีที่.ขึ้นมาเห็น ทัศนียภาพ รายรอบ อันงดงาม.... บ้านน้อยริมเชิงเขา ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ลาดหลั่นลงมา ในป่าลึกเมืองร้อนของเกาะพะงัน ที่ยังมีสภาพป่าอันสมบูรณ์เขียวชะอุ่ม มองลงมาจากเนินนั้น.. มีนาข้าว..ลดหลั่นลงมาตามลาดเนิน..คล้ายนาข้าวขั้นบันได... เป็นท้องทุ่งนา ที่งามดั่งภาพฝัน ..ของเกาะสวรรค์แห่งนี้ ที่แสนเงียบงาม สงบสุขราวไร้ผู้คน... รายรอบบ้านนั้น... คือ...สวนผลไม้ เมืองร้อน..มีเงาะ กระท้อน ลางสาด และทุเรียน พันธุ์พื้นเมืองที่มีลูกเล็กๆ ดกเต็มไปหมดทั้งต้น... ทุเรียนพันธุ์นี้มีคนเปรียบเทียบว่า. .เป็นทุเรียนพันธุ์โป๊ ไม่ยอมนุ่งกางเกงใน (คงเป็นเพราะเนื้อน้อยมาก จนเห็นเม็ดทุเรียนโผล่ออกมา) ตอนพราวยังเป็นเด็ก.. จะได้ยินเสียงทุเรียนหล่น ในยามค่ำคืน และเป็นประเพณี ที่ทำให้คนที่อยากรับประทานมากๆไปนั่งเฝ้า และคอยใส่หมวกออกไปเก็บมาปอกอย่างทันที่ทันใด ทันใจ แม้จะต้องเสี่ยงกับการที่ลูกทุเรียนจะหล่นใส่ศีรษะก็ตามที เพราะที่บ้านพราวสมัยนั้น ยังไม่มีทุเรียนที่ชื่อว่าหมอนทองหรือพันธุ์อื่นๆ... นอกจากทุเรียน....แล้ว... ยังมีสีเขียวแซมแดงของพวงเงาะที่ห้อยย้อย จนแทบถึงดิน ชวนเชิญให้อยากเก็บมา อมรสหวานกลมกล่อม จนแก้มบวมตุ่ย... ลางสาด..ที่เป็นพันธุ์ดีลูกดก ขึ้นชื่อว่าหวานหอม อร่อยล้ำ ก็พากันออกพวงพราว ระย้าย้อย ห้อยเต็มต้นจนมองแทบไม่เห็นใบ..... ไหนจะมะพร้าว.. ที่ขึ้นลดหลั่น ไปตามโขดหินงาม ที่สูงชะลูด และพาให้...ในฤดูฝนนี้ที่มีลมมรสุมพัดผ่านมา จะทำให้ไหวเอนลู่ลม ที่กระหน่ำหนัก และสู้กับสายฝนพรำ ทั้งวันทั้งคืน..... พราว..ลงสับปะรด พันธุ์พื้นเมือง ไว้ด้านหนึ่ง ที่กำลังออกลูก และมีตาเล็กตาน้อยน่ารักน่าชัง... แล้วยังมีพันธุ์ไม้เมืองร้อนอื่นๆอีก เช่น... กล้วยกอใหญ่ ที่เรียกกันว่า กล้วยเล็บมือนาง กล้วย ที่ออกหวีเล็กๆ มีลูกงอนงามอ่อนช้อย ราวกับมือน้อยๆของน้องนาง... และ..พราว..ยังแบ่งผืนที่ดินเป็นบางส่วน ปลูกพืชผักสวนครัว..ปลอดสารพิษ... ไว้กินเล่น แสนหวานล้ำยามเคี้ยว ด้วยอุดมสมบูรณ์แร่ธาตุตามธรรมชาติ..ที่ยังมากมี... . บางครั้ง...บางคราว.... พราวจะเดินดายเดียว ลงไปนั่งดู พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นย่ำ..ลำพัง... ในยามเช้านั้น.. ประกายน้ำค้างจับรวงเรียวสีทองของยอดข้าว ราวหยาดน้ำตาของนางฟ้า จากสวรรค์ ผู้แสนใจดี มีเมตตา หลั่งรินมาให้ผืนดิน และมวลหมู่พืชพรรณไม้..นั้น ได้สดชื่น..แสนงาม. พราว....ลงทุน ปลูกพันธุ์ไม้ไทยหอมๆ รายรอบบ้าน และในยามปลายฝน ต้นหนาวอย่างนี้ ..ปีบ..จะอวดดอกขาวบานพราว เต็มปลายกิ่ง ล้อลมไสว ส่งกลิ่นให้หอมรำเพย อวลไปในทุกอณู ของสายลมเย็นยามค่ำ พิร่ำพิไร พาดวงใจโหยไห้ราวคิดถึงใครบางคนจนสุดทน..นะใจ.. .. ดอกเข็มป่า..พันธุ์ดั้งเดิมที่คู่กันมากับป่าชื้นแห่งนี้ ที่พราวนำมาปลูกเพิ่มเติม จนเป็นดงดอกเข็มดก ชูช่อออกดอกแดง ตัดกับเขียวละออของใบไม้ ที่ขึ้นเคลียเคล้าใกล้ลำธารและเสียงน้ำซัดเซาะแก่งหิน หลังสายฝนพรำ...ฉ่ำชื้น.... พราว..ค่อยๆเปลี่ยนสีบ้านหลังน้อย ที่มีเชิงชายรายรอบ..ราวบ้านโบราณหลังนี้ที่มีจั่ว ทายทักตะวันยามยอแสง ให้ลอดซี่ไม้ลงมา เป็นแสงเงางามสวยล้ำ..จับผนังปูนที่เป็นสีชมพู ตัดกับสี..เทอร์ควอยซ์ของโถงทางเดินเล็กๆ.. ราวกับ..บ้านในฝัน ในใจของจิตรกรเอกที่สรรสร้าง อิงอยู่กับลำธาร..สายเล็กๆ จากยอดเนิน.. ที่ไล่เลาะเลียบลงมาตามปุ่มปมแก่งหิน จนเกิดเป็นโตรกธาร สาย สะอาด ใส ไหลเย็น... พราว...จะเปิดบานหน้าต่างโล่ง ......กว้าง.... รับ..ละอองฝน และสายลมเย็น..... และ.....ในบางค่ำคืน......... พราว..จะออกไปนอนนับดาว..ตรงชาน ที่ทอดตัวเหนือลำธาร เพื่อฟังเสียงน้ำเซาะผ่านซอกหินเบื้องล่าง ที่ฟังเพราะพริ้งหวานเศร้า ราวเสียงดนตรี จนพาให้เคลิ้มหลับไหล ไปกับแสงดาวเดือน อย่างฝันดี.... พราว เนรมิตร สวนไม้เมืองร้อน ให้โอบรายรอบ เลื้อยไล่ไต่ตาม ไปทั่วอาณาเขต ของบ้านให้ งดงาม ราว..สวนสวรรค์ และนอกหน้าต่างนั้น บางครั้งพราวนั่งนิ่งดื่มด่ำ ในยามที่สายฝนพรำ และยามที่สายหมอกโรยตัว ได้นานนับชั่วโมง มิรู้เบื่อ และ.....ในบางทีพราวนี้...คิดว่า พราวฝันไป.. มิได้อยู่ในโลกแห่งความจริง แต่อยู่กับโลกแห่งความฝัน กับสวนสวรรค์ที่แสนสวยงามอ่อนหวานเลอล้ำ ตระการตา ตระการใจ พาให้ไหลหลง..เป็นยิ่งนัก... จนไม่อยากเชื่อเลยว่า....พราวนั้นจะได้มีโอกาสเป็นเจ้าของ และสัมผัสดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์นี้ ในโลกมนุษย์.... ทุก...ปลายฝน..ต้นหนาว..ทุกคราคราว ที่ใจของพราวเหว่ว้าและร้าวระบมกับผู้คน ที่หมุนวนแปรผันยอกย้อน จนยากจะยอมรับ ในสังคมเมือง บนผืนโลกกว้างใบนี้ พราว.....จะละทิ้งเลิกสับสน..ทุกข์ทนหม่นหมาง.. และหาทางกลับบ้านของเรา..ที่นี่..สวนสวรรค์.... ที่คอยปลุกปลอบให้กำลังใจ..เสมอมา..และคงชั่วนิรันดร.... และสำหรับใจดวงงามของพราวนั้น......... แม้บางครั้งจะไม่มีเวลาเดินกลับมาตามหาฝันวันแสนดีจาก บ้านน้อยริมเชิงเขาหลังนี้ และกับทุ่งข้าวสีทองแห่งความฝันที่แสนงาม.... แต่...รู้ไหม... ทุกสิ่งอยู่ที่ใจดวงนี้ของพราว ราวซ่อนซุกไว้ ภายใน มิให้ใจดวงร้าวเงียบเหงาหมดงาม กับปลายฝน ต้นหนาว และกับทุกฤดูกาลแห่งชีวิตนี้ ที่แสนดียิ่งนักแล้ว
26 มีนาคม 2547 13:29 น. - comment id 237247
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5303 http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6392 http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=607 สงกรานต์น้ำตา สายัณห์ สัญญา : : Key F เขามาทำบุญ ในวัน สงกรานต์ เขากลับมาบ้าน สรงน้ำหลวงพ่อในโบสถ์ เขา กลับ มา หา และมา ขอ โทษ เขาวอนพ่อโปรด ได้คิด เมต-ตา เขามาทำบุญ ในวัน สงกรานต์ เขากลับมาบ้าน อาบน้ำคุณลุงคุณป้า เขา กลับ มา พบ เขา มา ขอ ข-มา ที่ เคย พูด จา ล่วง ล้ำ เกิน เลย ประเพ-ณี สงกรานต์ ที่บ้านนอกเรา ดูใครๆเขา น่าชมชื่นเชย เรา คอย ห่วง หา ทุก นา ที เลย โอ้ทรามเชยเขาไยไม่ มา พอเขาก้าวมาในวัน สงกรานต์ พร้อมข่าวแต่งงาน หลั่งน้ำสังข์ในเดือนหน้า วันนี้เรานั้น สงกรานต์ น้ำ ตา หนุ่มน้อยบ้านนา โศกาอาดูร พอเขาก้าวมา ในวัน สงกรานต์ พร้อมข่าวแต่งงาน หลั่งน้ำสังข์ในเดือนหน้า วันนี้เรานั้น สงกรานต์ น้ำ ตา หนุ่มน้อยบ้านนา โศกาอาดูร...
26 มีนาคม 2547 13:31 น. - comment id 237248
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=697 กลิ่นรักโลมใจ กุ้ง กิตติคุณ เธียรสงค์ : : Key Ab สิ้น แสง พระสุรีย์ ระ พี ผ่อง สิ้นเปลวสีทอง ผ่องพรรณจันทรา สง่า ศรี ใช่ หทัย สิ้น รัก สิ้น ภักดี ที่ เคยมี มอบ เธอ นิรันดร์กาล ตราบ ฟ้า สิ้น ดาว วับวาว อร่าม เบื้องบนสีคราม สิ้นหมู่เมฆา ประดับ สวรรค์ สิ้น ผไท สิ้น สาย สุธาธาร สิ้น ลมปราณ สิ้น สลาย ไม่ สิ้น ปอง เฝ้าครวญคิด รำพัน เฝ้า ฝัน ถึงพิมาน หอ ห้อง พี่ ยัง ใฝ่ ปอง หวัง ครอง เป็น คู่ ชีวี ดัง พิมาน คู่ ฟ้า ดัง ทิวา คู่ ราตรี รัก เธอดั่งชีวี ภักดี ไม่มี เสื่อม คลาย ปรารถนา เพียงเธอ รัก เสมอ รักไม่มี วัน หน่าย ตราบ โลก สลาย แม้ ตาย ก็ยัง ชื่น ใจ กระซิบวอน ฝาก มา ลมช่วยพา รำเพย ฝาก ไป โปรด ฟัง เสียงหัวใจ พี่รักเท่าไหร่ รัก เท่าไหร่ แก้ว ตา...
26 มีนาคม 2547 13:39 น. - comment id 237250
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5172 โทรเพระคิดถึง ยุ้ย ญาติเยอะ : : Key G ขอโทษนะเธอ ที่ฉัน จำเป็น ต้องโทร ฮัลโหลฮัลโหล ฉันโทร ด้วยความ คิดถึง หายหน้า หายตา ยิ่งพา ให้ใจ คนึง คิดถึง คิดถึง ฉันจึงได้โทรมาหา อยากจะรู้จัง คิดถึง ฉันบ้าง หรือเปล่า ส่วนตัวฉันเหงา คิดถึง ทุกวันเวลา ไปอยู่ที่ไหน ทำไม ถึงไม่มาหา หรือมีใครจับตีตรา จึงหลบหน้า ไม่มาหาฉัน ขอโทษนะเธอ ที่ฉัน จำเป็น ต้องโทร ฮัลโหลฮัลโหล ฉันโทร ด้วยใจ ใฝ่ฝัน ฉันลืม ไม่ลง ชั่วโมงที่เคย พบกัน สุขจน เกินฝัน ทุกวันฉันยังคิดถึง เหตุใดจึงลืม ความรัก ที่เพิ่งจะเริ่ม มันน่าจะเสริม สร้างสรรค์ ให้มันตราตรึง อยู่อยู่ก็หาย มีใครเขาเฝ้าหวงหึง ทิ้งเราให้เฝ้ารำพึง ใจเหม่อลอยเฝ้าคอยห่วงหา...
26 มีนาคม 2547 13:41 น. - comment id 237251
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1555 ความรักเหมือนดอกไม้ไฟ ศิริพร อำไพพงษ์ : : Key C หากเธอ นั้นเป็นชาวพุทธทั่วไป คงจะมีใจเมตตา กับสาวยากไร้ แต่เธอนั้นหรือ ศาสนาอะไร ซาตานมารนอกหรือไร จึงมีใจเหี่ยมโหดผิดคน ต่างศาสนา ก็สอนให้เป็นคนดี แต่เธอไม่มี เมตตาปราณีสักหน มีแต่ทำลาย เหยียบย่ำซ้ำหัวใจคน เหมือนเธอพิโรธระรน รักปี่ป่นเหมือนโดนเปลวไฟ ลำ ฉันหมองไหม้ ว่าเป็นคือไฟเผาธาตุทั้ง ฉันหมองไหม้ ว่าเป็นคือไฟเผาธาตุทั้ง แทบเป็นจุลหัวใจพุนป่นปี่ ใจนี่บอยู่นาน รักสะท้านปานถ่านไฟแดง ใจบ่แข็งเพียงพอ ต้องอ่อนคอลงน้อม ดวงใจน้อย คล้อยตามเมื่อยามเขาจา เป่ามนต์มารยา หลงเชื่อจะเหลืออะไร เขามอบให้ฉัน นั้นเป็นดอกไม้ แต่เป็นดอกไม้ไฟ คิดว่าจะหอมชื่นใจ รับมาลัยจากมือเขามา เสียบประดับ ประทับไว้แจกันใจ ดอกฟ้าเขาให้ ฉันก็เฝ้ารักษา ถนอมไว้ ไม่ให้โรยรา แต่อนิจา ฉันต้องมาหอมดอกไม้ไฟ ลำ เพียงสีให้แสงงามยามเบิ่ง เพียงสีให้แสงงามยามเบิ่ง หลงระเริง เป็นคือแมงเม่านั่น บินเข้าใส่ไฟ ปีกกะไหม้ขากะบ่มียัง ควรระวังใส่ใจใส่ไฟนอนกลุ้ม ไฟสุมฟางไล่ยุง ยุงก็ยังหัวหด ไฟรักเพลิงเริงโรด สุมไปกว่าไฟสุมฟาง พอน้ำระเบิด ดับไฟก็ให้เจือจาง หากหัวใจเป็นฟาง พอถูกไฟสุม คงร้อนรุ่มทั้งพอง ลำ หัวใจน้องบ่คือฟาง ให้สุมเล่นเป็นเถ่า หัวใจน้องบ่คือฟาง ให้สุมเล่นเป็นเถ่า โปรดอย่าเอาล่ะมาสุมใส่ไว้ ล่ะโลมไว้เป็นแทน เกิดเชื้อแน่นเกิดลุกเป็นไฟ หากหัวใจเป็นฟาง ใจนางบ่ตายบ้อ บอกว่าถอย อย่ามาใกล้เอ๋ย...
26 มีนาคม 2547 13:44 น. - comment id 237253
อยากให้ฟังเพลงไพเราะนะคะ เลยมาฝากให้อ่านเนื้อหากินใจ เผื่อจะเป็นแรงฝันบันดาลใจ ให้ทุกดวงใจอยากฟังเพลงลูกทุ่ง สะท้อนใจสะเทือนรักดี แล้วพุดจะลบออกค่ะกินเนื้อที่จัง
26 มีนาคม 2547 13:49 น. - comment id 237256
เขียนได้ดีมากเลยค่ะ รับรู้ถึงบรรยากาศที่แสนจะดี๊ดี มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
26 มีนาคม 2547 15:03 น. - comment id 237282
ไพเราะและมีความหมายดีๆเหมือนเดิมนะคะพี่ มาเยี่ยมค่ะ
26 มีนาคม 2547 16:25 น. - comment id 237316
งดงามมากค่ะพี่
26 มีนาคม 2547 19:55 น. - comment id 237450
เป็นบ้านที่น่าอยู่มากๆๆๆๆเลยค่ะ บรรยากาศดีเหลือเกิน อ้อ ทุเรียนที่ไม่ได้นุ่งผ้านะ ทุเรียนบ้านหรือเปล่าค่ะ น่าจะใช่นะค่ะ เพราเนื้อทุเรียนจะน้อยมากเลย แต่ก็ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าไม่น่าจะผิด ถ้าบอกเฉลยสักนิดคงดีค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ แล้วหน้าผลไม้เมื่อไหร่ผู้หญิงไร้เงาขอไปร่วมทานด้วยคนค่ะ อิอิ จะไปอยู่บนต้นเลย อิอิ
26 มีนาคม 2547 20:31 น. - comment id 237472
บ้านคือวิมาน จะเป็นปราสาท ราชวัง คฤหาสน์ ตึก เรือนไทย หรืออื่น ๆ แม้แต่กระท่อม ก็ย่อมต้องจัดแต่งให้สวยสดงดงาม เพื่อความเจริญหูเจริญตาเจริญใจ แก่ตนเอง ได้สดชื่นแจ่มใส กลับมาจากการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จะได้มีแรงใจเพิ่มขึ้น วิมานของแพรว ที่สวยสดงดงาม รอบบ้านนอกจากทิวทัศน์สวยงาม ก็มีผลไม้หลายหลากมากพันธ์ ให้ได้ขบเคี้ยวกันแทบทุกฤดูกาล อีกทั้งพีชผักสวนครัวการเกษตรที่ปลอดจากสารพิษ ที่ขาดไม่ได้เห็นจะเป็นดอกไม้ต่าง ๆ ที่ชูช่อรอใครมาเด็ดดึงดม ก็เป็นที่น่าพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่งครับ ความสุขบางอย่างไม่จำเป็นต้องซื้อหาด้วยเงินทอง ธรรมชาติของเรานี่เอง สักวันหนึ่งให้พุดได้มีโอกาสไปตั้งหลักปักฐานยังสวนสวรรค์นะครับ
27 มีนาคม 2547 00:42 น. - comment id 237630
มาเยี่ยมพุดพัดชา..ชื่นชม
27 มีนาคม 2547 21:43 น. - comment id 237869
พูดได้ว่าชื่นชมและชื่นชอบ อยากฟังเพลง ของรักของหวง ครับ
27 มีนาคม 2547 22:40 น. - comment id 237908
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6810 ของรักของหวง สุนารี : : Key Ab สิ่งที่เธอ ต้องการ คือของที่ฉันหวงห้าม อย่าลวนลาม ได้ ไหม หากให้เธอง่ายไป ฉันคงต้องไร้ค่า เมตตาฉันบ้างซี รัก จริง รอ หน่อย ใช่ คอย ร้อย ปี อย่าให้หญิงต้องเสื่อมศักดิ์ศรี มีแต่ไร้ราคา เปรียบดั่งผู้ ทรงศีล ถ้าแม้ไร้ศีลคงเสื่อม เสื่อมไม่น่า ศรัทธา แม่เคยพร่ำสอนมา ฉันคิดว่าคงดี สตรีก็เช่นกัน ของ ดี มี ค่า ได้ มา ง่าย นั้น อย่ามัวคิดหรืออย่ามัวฝัน นานแค่ไหนจงรอ สิ่งที่เธอ ต้องการ ฉันยินดีพลีให้ ไม่ขัดใจ ที่ขอ จะถนอมใจรอ มิให้ต้องรอเก้อ ขอเธอจงเข้าใจ ของ รัก ของ ห่วง หวง ไว้ ให้ ใคร จะเก็บไว้ให้ใครที่ไหน เธอใช่ไหมคนดี...
31 มีนาคม 2547 18:07 น. - comment id 239296
;)