สุรินทร์ ร้างช้างแล้ว หรือไร จึงเหลือเพียงน้ำใส ให้เห็น ทรายขาว ต้นไม้ใหญ่ ไหวเอน สุรินทร์ที่ฉันเห็น เป็นเกาะ กลางทะเล อยากหลีกอยากลืมความ ว้าเหว่ จึงหลบงานมาทะเล ซะบ้าง หอบกระเป๋าออกร่อนเร่ มาสู่ โลกกว้าง หวังเพียงได้ลืมร้าง เรื่องรัก ในทรวง ฟังทะเลเล่าเรื่องราว ทั้งปวง เหลี่ยมเล่ห์เธอหลอกลวง เราช้ำ เรารัก เธอเปลี่ยนควง คนใหม่ ให้เห็น ใยเล่าใยหลอกเล่น ใยให้ เรารอ สี่ปีล่วงผ่านพ้น เร็วหนอ นานวันที่เคยรอ ด้วยหวัง นานคืนที่เคยท้อ ด้วยรัก จึงยัง เธอกลับใจกลับหลัง กลับ..ไม่กลับมา สุรินทร์ ร้างช้างแล้ว ดังว่า เหลือแต่เพียง เวนา ใจสลาย มองทะเลเงยมองฟ้า ก้มหน้า มองทราย แล้วน้ำตาก็หลั่งสาย รินไหล สู่ทะเล....
16 มีนาคม 2547 06:18 น. - comment id 231507
เอากาพย์มาปนกับกลอน เลยได้สัมผัสอย่างที่เห็นครับ มาจากกลอนสั้นๆบทหนึ่งครับ
16 มีนาคม 2547 06:20 น. - comment id 231509
ขอโทษครับ มือไว เลยไม่ได้ลงกลอนที่ว่าให้ดู @ สุรินทร์......ร้างช้าง......แล้วหนา เหลือแต่......เวนา......ใจสลาย เจ็บช้ำ......ด้วยรัก......กลับกลาย ...เวนา......ร้องไห้......ริมทะเล .......................................................
16 มีนาคม 2547 06:36 น. - comment id 231513
อืมมม............ ไม่อยู่หลายวัน กลอนยาวววว......เชียวครับ สงสัยคงใช้เวลาตามอ่าน พอๆกับที่หนีงานไป ว่าแล้วก็ไปล่ะครับ อ้อ. ตามกลอนล่ะครับ ผมไปเกาะสุรินทร์มาครับ
16 มีนาคม 2547 09:59 น. - comment id 231545
ยังอุตส่าห์ไปอ้อนทะเลอีกจนได้นะคะ
16 มีนาคม 2547 13:03 น. - comment id 231603
จะไปสุรินทร์ก็อย่าไปรินน้ำตาเลยค่ะ เอาเป็นว่าเที่ยวให้สนุกนะค่ะ แต่งได้ดีทั้งสองอย่างเลยค่ะ แล้วอย่างไรอย่าลืมเที่ยวเผื่อกันบ้างแล้วกันค่ะ อิอิ