..๏ รัตติกาล..จันทร์แจ่มแต่งแต้มฟ้า ดื่นดาราเรืองงามล้ำราศี นั่งนอกชานเพ่งชมสมฤดี เดือนดาวมีมากมายคล้ายเย้ายวน เสียงหริ่งหรีดหลากหลายเรไรร้อง สำเนียงก้องกู่ไกลจากท้ายสวน แล้วเงยหน้ามองเดือนเหมือนเชิญชวน มวลดาวล้วนสุกสกาวพราวพิไล แสนงดงามเลิศล้ำเกินกำหนด ยังปรากฏแสงส่วางพร่างสดใส แจ่มจรัสจนเผลอละเมอไป หมายคว้าไขว่ครอบครองปองรื่นรมย์ แสนหลงใหลจันทราดาราเอ๋ย ยามชมเชยคราใดใจสุขสม ครั้นคืนแรมลาร้างดั่งตรอมตรม ด้วยหวังชมสีแสงแห่งดาวเดือน ฤๅเป็นเพียงเผลอไผลฝันใฝ่หนอ บางคราวท้อดาวดับเดือนลับเลื่อน คราวคืนแรมร้างไกลไม่มาเยือน รู้สึกเหมือนอ้างว้างใจในราตรี ยามจันทร์ผ่องดาวพร่างช่างสวยสม หลงชื่นชมพิศมัยในรัศมี จึงพร่ำเพ้อรจนาภาษากวี ตราบราตรีมีเดือนดาว...ยังเฝ้าปอง ๚ะ๛
6 มีนาคม 2547 21:23 น. - comment id 226203
กลอนไพเราะ...และได้ความรู้สึกดีมากเลยค่ะ ... ชื่นชมผลงานนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ....
6 มีนาคม 2547 22:06 น. - comment id 226216
เพราะจังคับ...@^0^@
6 มีนาคม 2547 22:54 น. - comment id 226242
รัตติกาลจันทร์แรมมิแจ่มฟ้า หมู่ดาราระยิบพราวสกาวแสง นั่งริมชานตอบกลอนย้อนแสดง อยู่ทุกแห่งที่มีเธอเสมอมา แว่วเสียงหรีดเรไรในไพรกว้าง จะเหินห่างเพียงกายใจครวญหา ทั้งชีวิตมอบภักดิ์รักกานดา ปรารถนาคู่เคล้าอย่าเศร้าใจ แหงนมองดาววับวาวสกาวฟ้า ร้าวอุราไกลกันเกินฝันไหว รักเจ้ามากเอ่ยจริงกว่าหญิงใด ถึงห่างหายไม่คลาดขาด.ใจปอง ไม่ใช่เป็นเช่นแต่เจ้าเราก็ฝัน ทุกคราวค่ำรอเดือนเยือนสนอง รัตติกาลไร้จันทราไม่น่ามอง เหมือนขาดน้องขาดใจให้ระทม ณ.ท่ามกลางรัตติกาลในความมืด ใจเย็นชืดอ่อนล้ามาผสม วานลมบอกฝากวจีที่อารมณ์ ว่าโศกตรมร่างอักษรตอน.ร้างไกล..
6 มีนาคม 2547 23:00 น. - comment id 226249
รัตติกาลยามจันทร์งามสวยสม แต่ฉันตรมดวงจิตมิคิดฝืน ต้องอยู่เดียวเปลี่ยวใจในทุกคืน หวังจะยืนใกล้ชิดสนิมชม แต่เธอนั้นอยู่ในไม่มาหา ทำอุราฉันเศร้าเหงาผสม มีแต่ความเดียวดายมาให้ตรม ฉันระทมกับจันทร์วันเต็มดวง *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ แต่งเก่งจัง ชื่นชมเสมอค่ะ*-*
6 มีนาคม 2547 23:15 น. - comment id 226257
รัตติกาลจันทร์หวานพาลลุ่มหลง แสงเจ้าส่งสู่ใจให้โหยหา อยากจะพับหลับลงใต้จันทรา ด้วยอุราหนาวเหน็บเจ็บข้างใน ให้ไหวหวั่นยามจันทร์นั้นส่องแสง อยากแสดงให้เห็นเป็นไฉน แม้จันทราลับฟ้าลงเมื่อใด ใจข้าไซร์คงสลายกับสายจันทร์ แวะมาทักทายจ๊า หวานซ้า..
6 มีนาคม 2547 23:39 น. - comment id 226268
...อยากจะกลับรับขวัญคืนวันนี้ ใกล้คนดีมิ่งมิตรผู้คิดถึง คงเหมือนพี่ที่พร่ำคอยคำนึง ค่ำคืนหนึ่งผ่านไปให้อาวรณ์ รัตติกาลผ่านฟ้าเหมือนหน้าน้อง ทีพี่มองงามคล้ายสายสมร เมฆบังจันทร์นั้นให้ใจอาทร โฉมงามงอนอย่าคิดปิดบังใจ... .................สวัสดีครับ............
6 มีนาคม 2547 23:47 น. - comment id 226274
คุณ !!!...^Imagine^...!!! ..ขอบคุณมากค่ะ คุณ !i!MiRaCle!i! ..ขอบคุณมากค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณฟ้าใหม่.. ..๏ ยามค่ำคืน ณ ผืนฟ้าในครานี้ หม่นฤดีสุดตรมระทมหมอง ไร้คู่ชิดเคียงกายหมายประคอง ใจร่ำร้องเพรียกหาสุดอาลัย ห่างเหลือเกิน..เกินจิตคิดฝันถึง เพียรรั้งดึงยื้อยุดฉุดมิไหว จึงครวญคร่ำพร่ำว่าข้าฯปวดใจ สะอื้นไห้..ทุกข์เทวษด้วยเหตุตน อธิษฐานผ่านบุหลันพลันนภา รักของข้าฯร้างไกลไม่เป็นผล ขอวิงวอนผ่านฟ้า ธ เบื้องบน จงช่วยดลให้สมภิรมย์เชย ฝากคำกลอนย้อนนัยให้ผู้หนึ่ง ว่ายังซึ้งแน่นหนักในรักเผย ห่างไกลกันขอให้มั่นสัญญาเคย อย่าละเลยลืมคำลำนำเรา รัตติกาล..ขานใจให้เราสอง ดุจประคองเคียงคู่ดูมิเหงา ชี้ชมจันทร์วันคืนชื่นพิเนาว์ ขออย่าเศร้าเช่นคืนนี้ที่ขื่นทรวง ๚ะ๛
7 มีนาคม 2547 00:18 น. - comment id 226293
คุณผู้หญิงไร้เงา.. แหงนมองจันทร์ขวัญเอ๋ยเปรยว่าเหงา ก่อนเคยเคล้าเคียงคู่อยู่เป็นสอง กลับโดดเดียวเดียวดายไร้ใครครอง ใจจึงหมองหม่นเศร้าดุจเงาจันทร์ ได้แต่ครวญว่าช้ำระกำยิ่ง เพราะทุกสิ่งแสนไกลไม่เหมือนฝัน เห็นดารายามคืนชื่นเพ็ญจันทร์ ก็โศกศัลย์เหลือกล่าวปวดร้าวใจ คุณกุ้งหนามแดง.. ศศิเพ็ญเด่นฟ้าคราคืนนี้ ไยฤดีข้าฯหม่นมิดลเหมือน ประหนึ่งแรมแซมใจคล้ายมาเยือน จันทร์จึงเปื้อนมิผ่องยามมองไป แสนหวั่นไหวใจนักรักที่ร้าง ความเหินห่างขีดกั้นคั่นมิให้ เราทั้งสองจำต้องขัดข้องใจ ทุกข์เท่าใดจึงเปรียบเทียบรักนี้
7 มีนาคม 2547 00:34 น. - comment id 226305
พระจันทร์เหงากลอนเศร้ายิ่งเหงาใหญ่ หันมองไปใคร่ครวญชวนกันเหงา เห็นเธอเศร้าร้าวใจอยู่ใกล้เรา เราก้อเศร้าเราก้อร้าวเอาเข้าไป....อิ อิ อิ มาแปะสักหน่อย..... อย่าเศร้าเลยน้า....
7 มีนาคม 2547 00:38 น. - comment id 226306
นกขมิ้นเหลืองอ่อนร่อนเคว้งคว้าง มิรู้ทิศหรือทางในข้างหน้า ยังเลอะเลือนหลงไหลในพนา แต่ทว่า...ความหลังยังมิลืม..... **คนว้าเหว่**
7 มีนาคม 2547 01:44 น. - comment id 226316
เพราะขอบฟ้ากว้างใหญ่ในคืนค่ำ เย็นลมฉ่ำชื่นกายแต่ใจเหงา หมองฤดีณ.ที่นี้มีแต่เรา ไม่เห็นเงาเจ้าจอมกระหม่อมใจ อย่าโศกครวญหวลไห้ฤทัยหม่น อย่ากังวลครวญคร่ำพร่ำไสว ที่จำห่างละจากพรากกันไป เพราะงานในหน้าที่.มีต้องมา ฝากใจส่งข้ามฟ้ามาเสนอ รำพันเพ้อบอกเล่าเจ้ามาหยา แม้ห่างหายไม่ขืนคืนสัญญา จะกลับมารับขวัญเจ้าจันทร์งาม อธิษฐานบุหลันผ่านกานท์อักษร ร้อยบทกลอนให้สมจิตอย่างคิดถาม ยังหวังชื่นชิดเชยเผยถ้อยความ เจ้าเตยงามเพิ่มพอกมิยอกใจ รัตติกาลผูกไว้หทัยคู่ พนออยู่เคียงข้างไม่ร้างหาย จะผูกพันธ์ร่วมคนจนวันตาย ไม่มลายแม้ดับดิ้น สิ้น.ลมเรา ฝันดีนะ..ราตรีสวัสดิ์
7 มีนาคม 2547 03:48 น. - comment id 226352
ไพเราะมาก ๆ นะครับ ขอชม
7 มีนาคม 2547 06:44 น. - comment id 226383
ริมระเบียง เอียงคอ ฉอเลาะฟ้า หมู่ดารา ล้าแสง ไม่สดใส เหมือนดังฉัน อับเฉา เศร้าเดียวดาย ไร้เพี่อนใจ ดาวเป็นเพื่อน เพ้อพะนอ
7 มีนาคม 2547 07:08 น. - comment id 226388
ชื่นชมฝีมือ...คับ
7 มีนาคม 2547 09:17 น. - comment id 226404
รัตตินารี โฉมศรีอยู่ไหน เห็นแค่อึดใจ เธอลับตาไป อยากเห็นตัวจริงๆจัง
7 มีนาคม 2547 09:20 น. - comment id 226405
รัตตินารี โฉมศรีอยู่ไหน เห็นแค่อึดใจ เธอไปลับตา พิมพ์ไม่เก่ง พิมพ์ผิดขออำไพ
7 มีนาคม 2547 15:42 น. - comment id 226480
เพราะมากๆ เก่งดีด้วยค่ะ
7 มีนาคม 2547 22:31 น. - comment id 226634
คุณที่รักของฉัน .. เฝ้ารอคอยวันคืนชื่นรับขวัญ ห่างไกลกันเท่าใดยังใฝ่ถึง คงเหมือนคำที่พร่ำย้ำรำพึง ว่าสุดซึ้งซาบทรวงหวานดวงใจ รัตติกาลผ่านฟ้ามาครานี้ ปลอบคนดีอย่าตรมระทมไห้ ยามเพ่งมองดวงจันทร์ครั้นวิไล ประดุจใจเราสองผ่องเช่นจันทร์ คุณพระจันทร์หวาน.. พระจันทร์หวานขานไปจากใจหรือ ที่มองคือตัวเราเศร้าสุดไข เปรียบตัวท่านลอยคว้างหว่างนภาไกล สุดเอื้อมไขว่อิงแอบแนบชิดเชย คุณรัตติกาล.. ขมิ้นไพรหลงทางหว่างสัญจร เรี่ยวแรงอ่อน..บินมิถึงซึ่งฟ้าใส หวังเพียงแค่คนหนึ่งจะซึ้งใจ ติดปีกให้แข็งแกร่งแรงดุจเดิม
7 มีนาคม 2547 22:49 น. - comment id 226647
คุณฟ้าใหม่.. เพราะขอบฟ้ากว้างไกลไม่รู้แจ้ง รักจึงแย้งขัดเขินเกินทางฝัน มองดาวเดือนเกลื่อนนภามารำพัน อุรานั้นสุดหม่นคนรักไกล จะดับโศกยังยากหักห้ามจิต รอยจุมพิตติดตรึงซึ้งไฉน หว่างหน้าที่ภาระกระทำไป โอ้อาลัย..แสนเทวษด้วยเหตุการณ์ ใจที่ส่งข้ามแดนแมนสรวงฟ้า ปรารถนาสดับและขับขาน คำพร่ำเพ้อละเมอมาวันวาน อกสะท้านร่ำไห้ไม่บรรเทา โอ้จันทร์งาม..ยามเห็นเด่นเสมอ คนหนึ่งเก้อรอใครใจหงอยเหงา ฝากกระซิบผ่านลมพรมเบาเบา บอกรักเขา..แน่นหนักเกินหักใจ รัตติกาล..ผ่านพ้นบนวิถี แลนารีผู้หนึ่งซึ่งร่ำไห้ บรรเลงพิณถวิลหารักรำไร ข้ามป่าเขาลำเนาไพรให้ถึงกัน คุณแม่จิตร .. ขอบคุณมากค่ะ คุณชัยชนะ .. เพ้อหนอเพ้อละเมอเสนอบอก ชอกและชอกช้ำจริงยิ่งกว่าไหน ช้ำสุดช้ำหนักหนาระอาใจ ทุกข์เอยทุกข์เท่าใด..ไยไม่พอ คุณผลิใบสู่วัยกล้า ..ขอบคุณมากค่ะ คุณใครกันนะ .. ขอบคุณมากค่ะ พิมพ์ไม่เก่งไม่เป็นไรค่ะ ยินดีที่คุณมาเยือนนะคะ คุณน้ำนิ่ง .. ขอบคุณมากค่ะ
8 มีนาคม 2547 09:48 น. - comment id 226754
โอ้โหO_oแต่งได้ไง...ไพเราะมากเลยครับ^-^
8 มีนาคม 2547 10:00 น. - comment id 226764
มาช้าคงไม่ว่า...แต่แวะมาด้วยตั้งใจ... ไพเราะ...อ่านแล้วงามใจจังเลยครับ...ขบเขียนไดดีมากๆ ด้วยใจ...จากใจ
8 มีนาคม 2547 12:15 น. - comment id 226846
รักทั้งรัตติกาลและภาพงามจัดงามซึ้งใจค่ะ คิดถึงนะคะ
8 มีนาคม 2547 12:17 น. - comment id 226848
คุณคนติงต๊อง ขอบคุณมากค่ะ เพื่อนๆที่ร่วมแจมกลอนในนี้ก็เขียนได้ไพเราะเช่นกันค่ะ คุณแทนคุณแทนไท ..ขอบคุณมากค่ะ มาช้าแต่ตั้งใจมา ..ไหนดูซิ มีขนมหวานมาด้วยไหมคะ :) ลูกชุบนะคะ อย่าลืม ของโปรด ค่ะ .. ชื่นชมในผลงานของคุณเสมอมาเช่นกัน ถึงแม้ว่าบางครั้งไม่ได้ลงความคิดเห็นอะไร .. ยินดีด้วยสำหรับหนังสือเล่มใหม่ และรออ่านด้วยใจจดจ่อ ค่ะ
8 มีนาคม 2547 12:45 น. - comment id 226869
เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย ยามดึกนึกหนาวหนาว เขนยแนบ แอบเอย งามเด่นน้ำค้างย้อย เยือกฟ้าพาหนาว จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะค่ะ ตรงบาทสุดท้าย แต่จำได้ว่าเป็นของสุนทรภู่ และคุณวินทร์นำมาตั้งเป็นชื่อเรื่องสั้น ชอบมากเลยล่ะค่ะ
8 มีนาคม 2547 12:48 น. - comment id 226873
ว๊า ผิดซะแล้วล่ะค่ะ ไปserch มาแล้วล่ะค่ะพี่อัล ๏ เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว จรูญจรัดรัศมีพราว พร่างพร้อย ยามดึกนึกหนาวหนาว เขนยแนบ แอบเอย เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อย เยือกฟ้าพาหนาวฯ นิราศสุพรรณค่ะ
8 มีนาคม 2547 13:20 น. - comment id 226892
น้องดินสอ .. ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทโคลงจากนิราศสุพรรณ จอมยุทธเมรัยมอบนิราศนรินทร์มาตั้งแต่ปีก่อน ยังไม่ได้เปิดอ่านเลย .. ติดพันกับหนังสือเรื่องยาว.. (เพชรพระอุมา) ทำให้หนังสือดีๆอย่างหลายเรื่องต้องรอคิวกันยาวเหยียด .. ชอบเสียงสุดท้ายจัง ..เยือกฟ้าพาหนาว ฯ ..
8 มีนาคม 2547 13:37 น. - comment id 226904
ถ้าพระจันทร์เป็นนักแสดงตัวประกอบ คงรวยเละ จองคิวทั้งเดือนแน่ อิอิ
8 มีนาคม 2547 13:51 น. - comment id 226923
แล้วคุณฤกษ์ ..เป็นตัวเอก..ค่าตัวแพงไหมจ๊ะ ..ผ่อนส่งน๊า จนแท้ๆเลย อัลฯเอ๋ย
8 มีนาคม 2547 14:18 น. - comment id 226937
ฟ้าสีดำคล้ำหมองครองผืนฟ้า เหล่าดาราสีขาวเศร้าแสงสี ถูกบดบังดัวยจันทร์ในทันที กับแสงสีเหลืองอร่ามท่ามกลางดาว... ด้วยตัวฉันนั้นมิใช่เช่นจันทร์แจ่ม ไร้สีสันแต่งแต้มแกมผืนหาว เป็นแค่ดาวดวงน้อยด้อยแสงพราว แต่สกาวสุกใสไม่ลับลา... แวะมาเยี่ยมท่านศิษย์พี่ครับ สบายดีนะครับ
8 มีนาคม 2547 23:13 น. - comment id 227343
ศิษย์น้อง .. ค่ะ สบายดี ศิษย์น้องสอบเสร็จแล้วกระมัง คงตอบด้วยบทเดิมก่อนที่จะเกลา นะคะ ..๏ รัตติกาล..จันทร์แจ่มจรัสฟ้า มวลดาราหรุบแสงมิแข่งสี นั่งริมชานขานกลอนย้อนฤดี ป่านฉะนี้เธออยู่ไหน..ใจคร่ำครวญ แว่วเสียงหรีดหริ่งเรไรในไพรกว้าง สุดอ้างว้างเหว่ว้าพาคิดหวน มองผ่านขอบฟ้าลางพลางรัญจวน คู่มิควร..ดั่งเราคงเศร้าใจ แหงนมองฟ้าจันทราคราทรงกลด สุดรันทดยิ่งนักเกินจักใฝ่ หนทางรักเราห่างสุดทางไป เกินคว้าไขว่แนบอก..ดุจพกลม แสนใหลหลงปลงมิตกหัวอกเอ๋ย อยากชิดเชยคู่เคียงเยี่ยงสนม ครั้นไกลห่างคนรักภักดิ์ภิรมย์ จึงอกขมอัดอั้น..ยามจันทร์เยือน ฤๅจะเป็นเพียงเราเท่านั้นหนอ น้ำตาคลอระทมตรมเสมือน รอฝั่งฟากฟ้าโค้งโยงมาเยือน ก็ลางเลือนห่างไกล..ไปทุกที รัตติกาล..ยามจันทร์งามสวยสม ผู้หนึ่งตรมฤทัยไม่สุขขี ร่ายอักษรตอนเศร้าร้าวชีวี ฝากวจี..แด่คนไกลให้คำนึง ๚ะ๛
9 มีนาคม 2547 22:39 น. - comment id 227992
ราศรี ? พิมพ์ไม่เข้าใจความหมายของคำๆนี้ค่ะ แต่ ไม่เป็นไรค่ะ แวะมาอ่านด้วยใจชื่นชม ถ้อยคำยังดูหลากหลายและสละสลวยเหมือนเดิมนะคะ
10 มีนาคม 2547 00:44 น. - comment id 228060
ขอบคุณมากค่ะ คุณลูกเป็ดขี้เหร่ แก้ไขแล้วค่ะ