๏ ณ อีกฟากแผ่นดินถิ่นขัดแย้ง บังเกิดแจ้งสัจจธรรมอันล้ำค่า ฝันที่วาดช่างงดงามตามอุรา ไร้ศักดินาชนชั้นกีดขั้นขวาง ไร้ศาสตราอาวุธยุทธประหาร ไร้คนพาลข่มขู่ดูถากถาง ไร้ศัตรูคู่แค้นแม้นอำพราง ไร้หนทางต่างประเด็นเช่นแตกกอ มีแต่พี่และน้องครองสุขสม น่าชื่นชมชื่นใจกระไรหนอ อันความรักปกปักษ์ภักดิ์เคลียคลอ ใจเกิดก่อสนุกสนานสราญฤดี แลญาติมิตรร่วมเผ่าพงศ์พันธุ์มนุษย์ แสนพิสุทธิ์ล้ำเลิศบรรเจิดศรี ร่วมปรองดองรักใคร่ไม่ราวี จวบโลกนี้ดับสลายไปกับกาล แม้นแดนดินถิ่นนั้นฉันไม่พบ ยากประสบเพราะไกลห่างทางขนาน หากพวกเราร่วมใจในตำนาน ฝันที่หวานคงมิยาก..หากเป็นไป..๚ะ๛
17 กุมภาพันธ์ 2547 17:57 น. - comment id 217572
ถ้าพบเจอที่แห่งนี้ ขอไปอยู่ด้วยคน..
17 กุมภาพันธ์ 2547 21:25 น. - comment id 217654
เขียนได้งามค่ะอัลมิตรา
17 กุมภาพันธ์ 2547 21:26 น. - comment id 217656
จะร่วมสร้างตำนานทางชีวิต ให้ยึดติดใกล้ชิดสนิทมั่น เพื่อให้มีสิ่งดีที่ผูกพัน และรักมั่นร่วมกันตลอดกาล ให้ได้เดินทางดีไมตรีให้ ให้ได้เดินชิดใกล้ใจประสาน ให้ได้เดินพบเจอสิ่งตระการ ที่ล้นหวามซาบซึ้งตรึงหทัย *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ มาค่ะมาช่วยกันสร้างจะได้สำเร็จค่ะ ขอเป็นหนึ่งคนที่จะร่วมก้าวไปกับคุณนะค่ะ*-*
17 กุมภาพันธ์ 2547 21:56 น. - comment id 217676
โบราณ..ความฝัน..เทพนิมิตร จิตนิวรณ์ ลางสังหรณ์ ธาตุไม่ปรกติ กระศัย.ฝัน.ประกอบด้วย..ธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ..ตามสภาพร่างกายและจิตใจ หนักแน่น..ดิน อ่อนไหว..น้ำ เย็นเยือก..ลม ร้อนรุ่ม..ไฟ หลายอย่างรวมกัน คือความไม่เที่ยงแท้ของใจคน...คิดและหยิบเอา..
17 กุมภาพันธ์ 2547 23:15 น. - comment id 217713
ฟากฟ้า ฝั่งฝัน โลกใหม่ ไร้บาปกรรม หัวใจ สะอาดเอี่ยม คือโลกเสรีภาพไร้ใดเทียม แหละคงเจียมตนสู่โลกา เขียนไปง่วงไปค่ะ ระลึกถึงพี่อัลเสมอนะคะ
17 กุมภาพันธ์ 2547 23:50 น. - comment id 217725
แม้จะเป็น แค่ความฝัน บันดาลสุข พบความทุกข์ ในโลกจริง ทุกวันวี่ มีโลกฝัน หวานหยดย้อย ก็ยังดี ต่อชีวี ให้สดชื่น ตื่นตาใจ
18 กุมภาพันธ์ 2547 00:20 น. - comment id 217738
แสงสีทองฉาบอาบนภาฟ้าสดใส หมู่นกไก่พาขานประสานเสียง วิเวกแว่วกังสดาลสั่นให้สำเนียง กระแสร์เสียงเบิกบานผ่านวิกรม์ กอไผ่พลิ้วเสียงชัดลมพัดผ่าน วันชื่นบานผ่านเข้ามาน่าสุขสม ลมเอยลมโชยบุปผามาน่าภิรมย์ แสนสุขสมหอมกลิ่นกุหลาบพลัน ทำให้ฉันพลันระลึกถึงยอดหญิง อันเป็นมิ่งขวัญในใจของตัวฉัน หันมามอบกุหลาบขาวให้เธอนั้น เพื่อรับขวัญกลับมาเข้าหน้ากาพท์กลอน บัดนี้เล่าโลกเราย่อมจะพิสุทธิ์ แสนบริสุทธิ์ผุดผาดใคร่น่าอยู่ ดั่งคนธรรมพ์ขับร้องเพื่อเชิดชู เสนาะหูไพเราะขับขานบันเทิงใจ มีหญิงไร้เงาเคล้าคลอพนอเสียง ทิกิเมี่ยงตามรดาเข้ามาหาที่ไหน ปราชญ์ผู้เฒ่าผ่านโลกดินสอไทย ร่วมช่วยได้บรรเลงเพลงแห่งกานท์ ส่วนฉันนี้อ่อนด้อยกลอนดูแล้วขัด จะถือเพียงแต่พัดให้เย็นเกษมสานต์ อีกยังช่วยกวาดเช็ดถูเครื่องดนตรีกาล แม้นเนิ่นนานก็จะช่วยด้วยใจฉันยินดี. แก้วประเสริฐ.
18 กุมภาพันธ์ 2547 09:07 น. - comment id 217795
คุณรดา ..ขอบคุณมากค่ะ คุณทิกิ..ขอบคุณมากค่ะ คุณผู้หญิงไร้เงา ..ขอบคุณมากค่ะ และไพเราะมากสำหรับบทกลอนที่มีความหมายของคุณ ท่านผู้เฒ่า .. ค่ะ หยิบแล้ว หยิบฝันอันงดงามมาวางไว้เป็นปลายฝัน น้องดินสอ .. ขอบคุณมากค่ะ นอนดึกนะคะ คุณชัยชนะ.. ใช่ค่ะ แค่ฝันก็ยังดี คุณแก้วประเสริฐ .. ขอบคุณสำหรับบทกลอน และดอกกุหลาบสีขาวค่ะ :)
18 กุมภาพันธ์ 2547 17:20 น. - comment id 217938
แจ๋วมาก......... แต่งได้ไง.......... งง............
18 กุมภาพันธ์ 2547 17:41 น. - comment id 217947
ใครๆก็อยากจะไปอยู่ดินแดนนั้นครับ มาช่วยฝันอีกแรง
18 กุมภาพันธ์ 2547 21:46 น. - comment id 218065
ขอบคุณค่ะ คุณเด็กน่ามน ขอบคุณค่ะ คุณคนผ่านมา
19 กุมภาพันธ์ 2547 11:00 น. - comment id 218234
เป็นสถานที่น่าไปอยู่มากครับ จะไปเมื่อไรบอกกันด้วยน้ะ ขอไปอยู่ด้วยคนอ่ะ
22 กุมภาพันธ์ 2547 02:27 น. - comment id 219424
อิอิ..ใครๆ ก็อยากไป รอตัดถนนเชื่อมกันก่อน
23 กุมภาพันธ์ 2547 08:58 น. - comment id 220022
ขอบคุณค่ะ คุณพายุ คุณที่แอบมากลางดึก... เพิ่งกลับมาจากการท่องป่า ค่ะ ขออภัยที่ตอบช้า.. :)