ขอสืบสานด้วยนิทานแต่กาลก่อน อุทาหรณ์สำหรับไทยในวันนี้ มีพราหมณ์ผู้เลื่องลือชาว่าตระหนี่ มีบุตรที่แสนห่วงหวงดังดวงตา บุตรถึงคราล้มป่วยร้องช่วยด้วย พราหมณ์แม้รวยไม่หาหมอมารักษา ไม่บอกกล่าวเพราะกลัวใครจะเข้ามา เห็นสมบัติอันล้ำค่าในเรือนตน มีสมบัติแต่ไม่ใช้ให้คุ้มค่า พ่อแม่ คือสมบัติทุกแห่งหน อย่าทิ้งท่านไร้น้ำใจให้ทุกข์ทน สาธุชนควรรักษาอย่าดูแคลน เพราะตระหนี่โง่เขลาเบาความคิด เพราะยึดติดเพียงเงินทองของหวงแหน จนบุตรน้อยได้ความตายเข้ามาแทน รักและแค้นแน่นในอกเพราะงกทอง บุตรน้อยตายไปอุบัติเป็นเทพบุตร พราหมณ์นั้นสุดเศร้าโศกาหน้าหม่นหมอง เดินร้องให้ไปป่าช้าน้ำตานอง เสียงกึกก้องทั่วป่าช้าทุกคราไป เทพบุตรสุดเวทนาตาพราหมณ์เฒ่า เพราะมัวเอาแต่ตระหนี่ถี่ทรัพย์ไว้ อันตัวเราร้องให้ช่วยป่วยสิ้นใจ กลับร้องให้หวังจะปลุกลูกฟื้นคืน เทพบุตรแปลงกายเป็นชายน้อย นั่งเหงาหงอยร้องให้สะอึกสะอื้น พราหมณ์เดินผ่านพบเขาเข้าในกลางคืน จึงหยุดยืนว่า ร้องให้ทำไมกัน ? หนุ่มน้อยตอบคำถามของพราหมณ์พ่อ อยากได้ล้ออีกข้างเพิ่มเติมเกวียนฉัน จึงร้องให้เพราะอยากได้ดวงพระจันทร์ มาเป็นล้อของเกวียนฉัน ทำอย่างไร ? พราหมณ์หัวร่อชอบใจกล่าวไปว่า นี่เจ้าบ้าเขลาปัญญาหรือไฉน จะเอาจันทร์จากฟ้ามาอย่างไร ใครที่ไหนเคยคว้าถึงซึ่งจันทรา เทพบุตรผู้ลูกชายจึงเอ่ยกล่าว จันทร์นี้เล่ายังพอเห็นอยู่ตรงหน้า แปลกหรือไรที่อยากได้เอามันมา ส่วนลูกยาของพราหมณ์ละ อยู่ที่ใด ?? การร้องให้กับพระจันทร์บนชั้นฟ้า กับลูกยาที่ตายนั้น.. นั่นอย่างไหน ? จะเรียกว่าเขลาปัญญาหรือบ้าไป เคยมีไหมคนตายฟื้นกลับคืนมา !!! เทพบุตรจึงกลายร่างอย่างเก่าก่อน สง่างามอย่างกับตอนบนชั้นฟ้า เล่าความจริงสิ่งที่ปลอมแปลงกายมา พราหมณ์ศรัทธารักษาตนเป็นคนดี ------
26 มกราคม 2547 14:09 น. - comment id 207900
คิส คิส คิส โห รักคนแต่ ง เอ๊ยไม่ใช่ รักกลอนที่แต่งเหลือคณานะ พี่ท่าน มาอีกมาจะอ่านให้ทุกรอบ อย่าลืมไปอ่านของ อะฮั้น ด้วยแล้วกันนะคะ ทิกิ ผู้รักในบทกลอน ของท่านซะเหลือเกิน
26 มกราคม 2547 15:15 น. - comment id 207914
นิทานผสมกลอน สนุกมากเลย มาทักทายค่ะ *____________*
26 มกราคม 2547 16:31 น. - comment id 207951
สวัสดีค่ะ มาทักทาย คุณ กวีบ้านนอกค่ะ
26 มกราคม 2547 17:04 น. - comment id 207970
สนุกดีค่ะ ได้แง่คิดด้วย ^-^
26 มกราคม 2547 18:24 น. - comment id 208004
การร้องห่ม ร้องไห้ หาคนตาย ร้องอย่างไร ก็ไม่ฟืน คืนชีพได้ ด้วนตระหนี่ จึงสูญเสีย ยังลูกชาย เตือนใจไว้ ชีพสำคัญ เหนืออื่นใด
26 มกราคม 2547 23:34 น. - comment id 208119
ห่วงหวงทรัพย์แต่กลับไม่หวงลูก จนต้องถูกพรากไปใจเศร้าสร้อย นี่หละหนอคนเราเฝ้าแต่คอย หวงสมบัติที่เลิศลอยไม่หวงตน *-*กลอนไพเราะ มีคติสอนใจดีจังเลยค่ะ แต่งเก่งมาก ชื่นชมในผลงานเสมอค่ะ*-*
26 มกราคม 2547 23:52 น. - comment id 208132
ชอบจัง
28 มกราคม 2547 13:59 น. - comment id 208640
เรื่องนี้เคยอ่านเจอในหนังสือธรรมอ่ะนะ
15 กุมภาพันธ์ 2547 00:28 น. - comment id 216451
แต่งเองจริงเหรอพี่จอน......