อาไกพาเราย้อนกลับออกมาตามเส้นทางเดิม เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลี่ยงเมือง แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ผ่านหมู่บ้านและไร่นาของชาวฝาง จนกระทั่งเริ่มขึ้นดอย ถนนราดยางที่ค่อนข้างดีจึงเปลี่ยนไปเป็นถนนดินลูกรังที่ค่อนข้างแย่ เพราะนอกจากอัดไม่แน่นแล้ว ดินยังร่วน เป็นหลุมเป็นบ่อในบางช่วง จนเราต้องนั่งโขยกเขยกกันมาตลอดทาง ทั้งยังต้องทนรับเอาฝุ่นแดงที่ฟุ้งตลบเข้ามาเต็มกระบะท้าย โดยเฉพาะในเวลาที่มีรถแล่นนำหน้าหรือแล่นสวนมา รถขับขนคนของแน่นกองก่าย แล่นเบี่ยงซ้ายป่ายขวาช่างน่าเสียว โขยกโยกเยกไปกลางไพรเปลี่ยว ได้แต่เหลียวเอี้ยวมองฝุ่นต้องหนา สองข้างทางร้างบ้านย่านชุมชน แลไม่พ้นต้นไม้แน่นในป่า ยินแต่นกวิหคร้องก้องเรื่อยมา โอ้ปักษาข้ามองจ้องอยู่นาน แสงแดดจ้าพาใจให้ลอยล่อง สายตาท่องมองฟ้านภาผ่าน มองเหวลึกนึกพรั่นหวั่นอยู่นาน จิตฟุ้งซ่านจนผ่านบ้านจีนฮ่อ เข้าร่มเงาเหล่าไม้ในป่าแน่น ลมพัดแล่นลูบไล้โลมใจฝ่อ ป่าดิบเขาเข้าท่าตั้งตารอ เห็นต้นก่อง้อสนขึ้นปนกัน ผม นายแม็ค และนายเกษตร นั่งโขยกเขยกกินฝุ่นอยู่ที่กระบะท้าย นานแค่ไหนแล้วผมจำไม่ได้ จำได้แต่เพียงว่า สองข้างทางเป็นป่าเบญจพรรณหรือป่าผสมผลัดใบที่ร้อนและแล้งแห้ง เพราะต้นไม้กำลังผลัดใบ แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นป่าดิบเขาที่มีสน ก่อ และนางพญาเสือโคร่งเป็นไม้เด่น จนกระทั่งอาไกพาเราขึ้นมาถึงที่ทำการหน่วยจัดการต้นน้ำดอยผาหลวง เราจึงมีเวลาลงมาปัดฝุ่นและยืดเส้นยืดสายนอกรถ
9 มกราคม 2547 16:52 น. - comment id 200184
หนทางลำบากมากเลยนะค่ะ อ่านแล้วเหนื่อยแทนเลยค่ะ (กลอนไพเราะดีเหมือนเดิมเลยนะค่ะ)
10 มกราคม 2547 06:03 น. - comment id 200471
เรน..อรุณสวัสดิ์..นกตะวันนะคะ... อิจฉา..คุณจังเลยคะ.. ..เรน..ขออนุญาต... ..ไปอ่าน..ทุกเรื่อง..ที่คุณเขียนนะคะ.. ..แบบ..ตอนนี้.. เรน..กำลังหัดแต่ง... ..เรื่องที่เรน..ไปพบเห็นนะคะ... ..ชอบที่คุณแต่งจัง.... ...เรน..อยู่เชียงใหม่... ..แต่..แปลกนะคะ.. อ.ฝาง.. เรนยังไม่เคยไป... เคยขับรถไป.. ทางน่ากลัวมาก... ..เรน..ถ่ายรูป..มาด้วยนะคะ... ..ไปได้แค่..ครึ่งทาง.. เรนต้องรีบกลับ.. สองข้างทาง...ภูเขา.. และชะง่อนผา..สวยมาก... สักวัน.. เรนจะต้องไป.. และจะกลับมา.. เขียนเรื่อง.. ให้ได้..อย่างคุณนะคะ.. ...เรน..ขอบคุณคะ...