จากอำเภอเชียงดาว รถของเรายังคงแล่นไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 มุ่งตรงไปยังอำเภอฝางซึ่งอยู่ห่างออกไปไกลพอสมควร พอๆกับระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มายังอำเภอเชียงดาวทีเดียว มองไปทางด้านขวาไม่มีแม่น้ำปิงมาไหลคู่ขนานกับถนนอีกแล้ว มองไปทางด้านซ้าย แลเห็นทิวเขาแดนลาวทอดตัวยาวกั้นพรมแดนไทย-พม่าห่างไกลออกไป แต่ถนนในช่วงนี้ยังคงคดเคี้ยวไปตามไหล่เขาเหมือนเดิม มองถนนหนทางข้างหน้านั้น คดเคี้ยวพลันหันเลี้ยวเอี้ยวออกขวา แล้วเอียงซ้ายป่ายเบี่ยงเฉียงกลับมา โค้งเหลือคณาฝ่าไปไม่รีบรน ทั้งขรุขระทะลุประปรุสิ้น ไหล่ทางบิ่นหินหลุดทรุดทุกหน รถแล่นโยกโขกเขกเยกถึงคน นั่งทุกข์ท้นจนบึ่งเข้าถึงฝาง แต่ริมทางข้างถนนป่าล้นหลาม สักต้นงามอร่ามเชียวเสี้ยวแซมหว่าง พวงประดิษฐ์ติดดอกย้อยห้อยรายทาง ม่วงแดงสว่างกลางใบไม้เบญจพรรณ จึงเพลิดเพลินเจริญจิตไม่คิดจาก ป่าสวยมากยากเบือนบิดคิดเหหัน นั่งมองดูอยู่เรื่อยไปได้เป็นวัน ยามแล้งนั้นผันมาป่าเปลี่ยนสี สองข้างทางยังคงมีป่าเบญจพรรณหรือป่าผสมผลัดใบ (mixed deciduous forest) ที่มีต้นสักเป็นไม้เด่นเหมือนเดิม แซมด้วยต้นเสี้ยวในบางช่วง แต่เนื่องจากเข้าสู่ฤดูแล้งแล้ว ต้นไม้ในป่าจึงพากันผลัดใบ จนแลเห็นใบสีเหลือง แดง น้ำตาล และเขียวปะปนกันไป เพราะป่ากำลังจะเปลี่ยนสี แต่ที่แลเห็นเด่นแต่ไกลคงไม่พ้นช่อดอกสีม่วงแดงของพวงประดิษฐ์ พรรณไม้เลื้อยที่เลื้อยพันขึ้นไปอยู่บนเรือนยอดของต้นไม้ต่างๆ
8 มกราคม 2547 23:41 น. - comment id 199925
อยากจะเห็นบรรยากาศแบบนี้จัง ไม่ทราบว่าคุณนกตะวันถ่ายรูปมาไหม ถ้ายังไงถ่ายไว้โปรดโชว์ให้ดูหน่อยเป็นไร เพราะบรรยากาศที่บรรยายน่าดูมากมายเลยคนดี *-*ผู้หญิงไร้เงาชอบบรรยากาศแบบนี้มากเลยค่ะ ถ้ามีรูปช่วยกรุณาส่งให้ดูหน่อยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ (กลอนไพเราะมากเลยค่ะ)*-*