เรื่องนี้อาจดูน้ำเน่าในสายตาของคนอื่น ถ้าไม่อยากอ่านก็ไม่เป็นไร............นะ แต่ฉันอยากจะเล่าให้ฟัง เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้นหากวันนั้นฉันไม่ได้รู้จักเธอ ในวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2546 เป็นวันแรกของการเปิดเทอมอย่างไม่เป็นทางการ วันนั้นเป็นวันที่เปิดโอกาสให้ครูกับนักเรียนได้รู้จักกัน เมื่อฉันเห็นหน้าเธอเป็นครั้งแรก ฉันรู้สึกแปลกๆกับเธอ มันเป็น...ความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่ฉันก็รู้สึกดีเมื่อได้อยู่ใกล้เธอ... ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด ฉันก็ยิ่งรู้สึกผูกพันกับเธอมากเท่านั้น แต่มันก็ยังคงเป็น...ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกอยู่ดี ฉันกับเธอนั้นต่างกันมากนัก ทั้งเรื่องสิทธิ หน้าที่ และอื่นๆอีกมากมายในโรงเรียน โดยเฉพาะ... เรื่องอายุ เธอนั้นอายุมากกว่าฉันตั้ง 16 ปี เธอแทบจะเป็นแม่บุญธรรมของฉันเลยก็ได้ มีอยู่อย่างนึงที่เหมือนกัน ...เพศไง... แต่ฉันก็ยังคงยืนยันว่าจะยังคงรู้สึกแปลกๆกับเธอเหมือนเดิม จนกระทั่งวันนั้น วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2546 เป็นวันที่ฉันได้ไปทัศนศึกษาที่จังหวัดชลบุรี นักเรียนทั้งหมดเดินทางโดยรถทัวร์ปรับอากาศ ในขณะที่นักเรียนส่วนใหญ่กำลังสนุกสนานร้องเพลงเฮฮาอยู่นั้น รถทัวร์ก็ได้เขย่า สั่นและเหวี่ยงอย่างรุนแรง ทันใดนั้น... .......โครม!!!....... ฉันรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าพื้นรถมันเอียงๆชอบกล มองไปรอบๆด้านพบว่ากระจกบางบานแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ประกอบกับได้ยินเสียงร่ำไห้และโอดครวญของเพื่อนๆในรถ ...มันคืออุบัติเหตุ... ฉันยังคงนึกอยู่ในใจเสมอว่าสิ่งที่ตอนนี้ควรทำที่สุดคือ... ออกจากรถทัวร์ที่เอียงตกลงไปในคูน้ำข้างทางให้เร็วที่สุด ฉันพยายามมองหาทางออก และพบว่าประตูที่มีอยู่ 4 บานนั้น ตอนนี้ใช้ได้เพียง 2 บาน เพราะอีก 2 บานจมน้ำไป ประตูฉุกเฉิน 2 บานสุดท้ายมันเล็กมาก.. เมื่อเทียบกับนักเรียน 44 คน ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนขึ้นมาจากชั้นล่างของรถทัวร์ ลงมาข้างล่าง มาออกทางนี้ ฉันจึงรีบเดินลงไปตามทางของเสียงเรียกนั้นโดยไม่สนว่าจะเป็นเสียงของใคร เมื่อฉันเดินลงบันไดไปถึงชั้นล่างของรถทัวร์แล้ว ก็พบว่า... ทางด้านซ้ายของรถทัวร์นั้นมีน้ำซึมเข้ามาในตัวรถบ้าง ...แต่ในไม่ช้ามันคงจะมีมากขึ้น... ส่วนบานกระจกทางด้านขวาถูกทุบให้แตกเป็นรูพอที่คนจะออกไปได้ ฉันจึงปีนข้ามกระจกออกไป ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว แต่ยังมีนักเรียนอีก 20 คนได้ที่ยังติดอยู่ในรถ ในนาทีนั้น ฉันเห็นเธอวิ่งลงมาจากรถทัวร์ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง มายังฝั่งที่ฉันยืนอยู่ เธอวิ่งลงมายังพื้นหญ้าที่ชื้นแฉะ มาช่วยพยุงนักเรียนออกจากรถทีละคนๆ โดยไม่ใส่ใจว่าตนเองจะเป็นอย่างไร จะสกปรกมอมแมมแค่ไหน หรืออาจจะบาดเจ็บจากเศษกระจกก็ได้ เพราะเธอถอดรองเท้าออก วันนั้นเธอใส่ชุดฟอร์ม เสื้อสีชมพูอ่อนและกระโปรงสีน้ำตาล ...เธอเป็นครู... ผู้ที่สามารถสะท้อนบทบาทของความเป็นครูได้อย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นเพียงคำบรรยายในหนังสือ ที่สรรเสริญพระคุณครูไว้มากมาย... จนกระทั่งวันนี้ ฉันไม่ได้มีเพียงความรู้สึกแปลกๆกับเธอเท่านั้น มันเป็น...ความรู้สึกที่บอกได้ แต่พูดไปก็คงไร้ความหมาย เพราะบอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก ดังนั้นฉันจึงขอเก็บความรู้สึกนั้นไว้ ...แต่เพียงผู้เดียว...
6 มกราคม 2547 23:01 น. - comment id 198921
เคยลงครั้งหนึ่งแล้วใช่ไหมค่ะ จำได้ว่าอ่านแล้วค่ะ สำหรับเรื่องนี้
6 มกราคม 2547 23:51 น. - comment id 198939
ซึ้งจริง ๆ เลยครับ เป็นเรื่องที่น่ายกย่องจริง ๆ
7 มกราคม 2547 21:51 น. - comment id 199346
ลงซ้ำอีกรอบเพราะครั้งที่แล้วหลุดล็อคอินค่ะ
7 มกราคม 2547 21:56 น. - comment id 199348
อยากให้ ผู้หญิงไรเงา ช่วยลงความคิดเห็นที่เป็นกลอนที่เคยแต่งไว้ในบทความที่เคยลงไปแล้วได้ไม๊คะ ชอบมากเลยค่ะ
8 มกราคม 2547 22:06 น. - comment id 199890
ฮิคารุจ๋า เราเข้ามาอ่านแล้วนะจ๊ะ ซึ้งมากๆเลย โถ ที่แท้ก็เป็นมิสนี่เอง ไอ้เราก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพานทองแท้หรือแพทองทา อิอิ ซึ้งมากๆเลยจ๊ะ
18 มกราคม 2547 16:04 น. - comment id 204635
ซึ้งมากๆน้อง ฮ่าๆๆๆ งงล่ะสิ ว่าพี่รู้ได้ไง
18 มกราคม 2547 22:08 น. - comment id 204760
พี่หนิงน้า..
19 มกราคม 2547 21:35 น. - comment id 205058
แต่พี่ชอบเรื่องนี้ที่สุดแล้ว มันสะท้อน จิตใจของความเป็นครูที่ดี :)
27 มกราคม 2547 18:36 น. - comment id 208370
ซึ้งมากๆเลย !*_*!