แม้แกว่งกวัดตวัดดาบอาบโลหิต ผลาญชีวิตพิชิตคนมากล้นหลาม ไปที่ไหนใครลือถือเลวทราม คนเหยียดหยามประณามไล่หาใช่เซียน แล้ววันหนึ่งพึงรู้หากดูเห็น มันไม่เป็นเช่นคิดลิขิตเขียน เมื่อดาบนั้นมันทื่อไม่ถือเปลี่ยน ชะตาเพี้ยนเวียนหนีชีพนี้เซียว อยากจะเก่งเจ๋งจริงให้วิ่งหนี ห่างชีวีวิถีใครอย่าไปเกี่ยว ไม่ทำดีมีหน้าข้าคนเดียว แต่หากเหลียวเอี้ยวเห็นเด่นเพราะใคร อย่าเหยียบคนบนโลกให้โศกเศร้า เพื่อคอยเฝ้าเอาหน้าพายิ่งใหญ่ ผู้คนรู้ดูเห็นเด่นได้ไง ดาบนั้นไซ้ได้สนองตรองจนตาย
22 ธันวาคม 2546 18:15 น. - comment id 193578
ดาบนั้นไซร้คืนสนองต้องหมองหม่น เพราะทำตนตนทำกรรมเอาไว้ ดาบนั้นไซร้คืนสนองของคนไกล ที่ทำให้ตนชั่วมั่วโลกีย์ อีกทั้งเรื่องเลวร้ายในหลายเรื่อง ที่ทุกคนขุ่นเคืองเป็นเรื่องนี้ พอปรากฎหมดสิ้นบารมี เราก็จะเห็นสิ่งที่เคยกระทำ *-*กลอนแต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมเสมอค่ะ*-*
22 ธันวาคม 2546 18:28 น. - comment id 193583
ชอบนะคะ มันเป็นสัจธรรมและความเป็นไป แต่ไหงคนเห็นมันมีน้อยเหลือเกิน
22 ธันวาคม 2546 18:31 น. - comment id 193584
ช่ายเลยอิอิ นกตะวันเขียนดีอีกแล้ว ชอบ ชอบ
22 ธันวาคม 2546 20:20 น. - comment id 193620
แต่งกลอนได้มีความหมายมาก ๆ นะครับ ช๊อบครับชอบ
25 ธันวาคม 2546 13:07 น. - comment id 194247
ทำให้คิดถึงศรีปราชญ์เลยครับ
29 ธันวาคม 2546 00:08 น. - comment id 195641
โอ..ท่านศรีปราชญ์... อัน..ดาบนั้นคืนสนอง... ด้วยว่าพี่ท่าน...แวะชม...งานชิ้นแรก... ของน้อง..ทำให้มีกำลังใจ...ว่ามีคนอ่าน.. จะได้เริ่มขนผลงานประมาณ 100 ชิ้น มา ลงไว้.. เผื่อจะเทียบติดรัศมีพี่ท่าน...น้องใหม่(ไม่ร้ายบริสุทธิ์) ก็เลยแวะมาทักทาย..ชื่นชมพี่ท่านจริง ๆ..ค่ะ.. ชอบค่ะชอบ...แล้วอย่าลืมแวะไปติชมเรื่องสั้น ของน้องบ้างน่ะค่ะ...