โอ้ผีเสื้อเมื่อเห็นตื่นเต้นนัก สีแสดสักสลักจ้าอ่าสดใส ปลายปีกหน้าทาคล้ำขาวพร่ำไป ปีกหลังใสใส่กรอบดำขอบดี เขาเกาะหว่างกลางวัลย์สีสันแลบ แดงส้มแวบแสบตาสดราศี ดั่งดอกไม้ในป่าวนาลี สวยเต็มที่คลี่บานบนก้านใบ ธรรมชาติฉลาดนักประจักษ์ยิ่ง สร้างงามจริงสิ่งประดิษฐ์ลิขิตให้ ให้ผีเสื้อไม่เบื่อลาหาดอกไม้ ดมเรื่อยไปได้น้ำหวานทานเรื่อยมา ผีเสื้อนี้มีชื่อลือกันทั่ว หนอนกินมั่วนัวกะทกรกนักหนา กะทกรกแดงแถลงชื่อให้ลือชา ด้วยสีจ้าทาแสดแดงแปดปน
12 ธันวาคม 2546 22:53 น. - comment id 190266
ดูพี่จะชอบผีเสื้อนะครับ แต่ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอ่า จะพยายามดูตามจากกลอนเอาละกันครับ
13 ธันวาคม 2546 01:09 น. - comment id 190308
กะทกรกแดงที่เห็น ถ้าไม่อ่านกลอนว่าเป็นไฉน คงเข้าใจผิดในหทัย คิดว่าเป็นพันธุ์ไม้เท่านั้นเอง *-*กลอนยังไพเราะเหมือนเดิมนะค่ะ คำว่ากะทกตอนแรกนึกว่าเป็นชื่อพืชชนิดหนึ่งที่เขาคั้นเอาน้ำมาดื่มเสียอีกค่ะ ทีเขาอีกชื่อนหนึ่งว่า น้ำเสาวรส นะค่ะ*-*
13 ธันวาคม 2546 09:34 น. - comment id 190357
ความจริง กะทกรก เป็นพรรณไม้เลื้อยชนิดหนึ่งในสกุล Passiflora วงศ์ Passifloraceae ซึ่งผีเสื้อชนิดนี้ชอบไปวางไข่ไว้ เพราะตัวหนอนของผีเสิ้อชนิดนี้ชอบกินใบกะทกรก ผีเสื้อชนิดนี้จึงได้ชื่อว่า ผีเสื้อกะทกรก แต่เนื่องจากมีสีแดง จึงได้ชื่อว่า ผีเสื้อกะทกรกแดง สำหรับ เสาวรส นั้นเป็นพรรณไม้ในสกุล Passiflora เช่นเดียวกัน (จึงได้ชื่อกะทกรกไปด้วย) แต่เป็นพรรณไม้นอกที่เรานำเข้ามาปลูกเพื่อนำผลมารับประทาน มีผลกลมโตใหญ่กว่าผลกะทกรกหลายเท่า และผีเสื้อชนิดนี้ชอบวางไข่ไว้ที่ใบเสาวสเช่นเดียวกัน เพราะตัวหนอนชอบกินใบเสาวรสด้วย
13 ธันวาคม 2546 19:34 น. - comment id 190621
:)