แดนเถื่อนอันกันดารบ้านนานี้ ไม่มีมหรสพโหม ขาดดวงอัจกลับจับประโคม ไร้โดมนาฏการสราญระบำ หากใช่ขาดจนแก่งแย่งแสวงหา แม้เหมือนว่าเด๋อด่าจนน่าขำ โพล้พลบสนธยาเวลาค่ำ กล่อมลำนำรำร้องข้างกองไฟ อยากจะดูละเบ็งเล็งละคร ก็หนุนนอนแหงนหน้าขัดขาไขว่ เอกเขนกเที่ยวชมอยู่ร่มไม้ เมฆทั้งหลายล่องลมให้ชมเชย บางก้อนกลายร่างเหมือนอย่างชาย มีร่างกายแกร่งกล้าและผ่าเผย คงจะคือ พระเอก เฉกเช่นเคย พอล่วงเลย พอประเทือง เป็นเรื่องราว เดี๋ยวจะมี เมฆใส คล้ายทรามสวย ร่างสำรวย เสน่ห์ยิ่ง ของหญิงสาว จะคล้อยเคลื่อน ช้าช้า ว่าวับวาว งดงามราวประดับรองด้วยทองทา แล้วเรื่องราวก็ดำเนินให้เพลินเพลิด ซึ่งล้วนเกิดจากใจคิดปริศนา แค่มวลเมฆ ใหญ่น้อยล่องลอยมา แต่ทว่า กระจ่างจินตนาการ ไม่ต้องรอชมภาพยนต์สร้าง ไม่อยู่อย่างตึงเครียดเบียดสังขาร จนต้องร้องร่ำเรียก เพรียกสำราญ มาผ่อนผลาญ เผากมล เหมือนคนกรุง (ม้าก้านกล้วย)
15 พฤศจิกายน 2546 14:02 น. - comment id 181866
โอ๊เย โอ๊เย โอ๊โอ๊เย โอ๊เย โอ๊เย... ต้นข้าวมาเป็นคนดู มีปูมาสังเกตการณ์ ลำโพงเขาคือต้นตาล ลำโพงเขาคือต้นตาล เสียงหวานเหลือเกิน คันนานั้นคือเวที เวทีก็คือคันนา ก้านกล้วยมาเป็นกีตาร์ ก้านกล้วยมาเป็นกีตาร์ เอาไม้ฟืนมาเป็นไมโครโฟน โอ๊..เย โอ๊เย โอ๊โอ๊เย โอ๊เย โอ๊เย โอ๊โอ๊เย โอ๊เย โอ๊เย โอ๊โอ๊เย โอ๊เย โอ๊เย :)
15 พฤศจิกายน 2546 14:31 น. - comment id 181878
น่ารักซะไม่มีเลยนะเนี่ย
15 พฤศจิกายน 2546 14:40 น. - comment id 181882
ยุทธจักรนี้..จะมีหนึ่งเดียว แมกไม้สายธารหวานปนดิบลิบลอย..ลามาเป็นบางวันฝันค้างรอรอรอรอรอ
15 พฤศจิกายน 2546 18:23 น. - comment id 181933
ไพเราะมากคะ.....ขออนุญาตเก็บไว้นะคะ.....ขอบคุณคะ....
16 พฤศจิกายน 2546 00:33 น. - comment id 182015
สุดยอดอีกแล้วค่ะ ชอบค่ะชอบ เป็นกลอนที่ไพเราะมากเลยค่ะ