หอมดินเดิมดิบดิบหยิบแต้มฝัน หอมโคลนวันคลุกวัวควายใช้หว่านไถ หอมนมวัวกลั้วแกล้มยามเข้าใต้เข้าไฟ หอมริ้วเหลืองไพรละออละอองของโสนบาน.. หมวกสานแขวนไว้ใกล้น้ำเต้า ไล่วัวเข้าคอกได้เพลินเดินยิ้มหวาน กลิ่นแกงส้มตำราแก้วกรุงเก่ารอท้องบาน ส่งจูบหวานให้จันทร์เพ็ญเย็นฉ่ำใจ.. ลมชายทุ่งโบกโบยโปรยหว่านหวาน ราตรีบานทั้งกอล้อลมไหว ดอกพุดซ้อนซ่อนเสน่หาทายท้าใจ ห้ามหัวใจอย่าเด็ดดมชมแล้วลา.. กันภัยมหิดล..ม่วงขาวพราวอ่อนช้อย พันรัดร้อยช่อปลายกิ่งยิ่งหอมหา ลดาวัลย์พันเลื้อยนวลยวนนัยน์ตา กล้วยไม้ป่าเอื้องแซะหลวงรวงดอกพราว... นอนลอมฟางกลางทุ่งดาวรุ้งหอม กลิ่นพะยอมโชยมากับฟ้าหนาว นอนนิ่งนิ่งผิงไฟอุ่นแล้วนับดาว คิดถึงสาวบ้านนาลานกไพร.. กลับมาซ้อนอ้อนโอบพี่ขี่วัวไปทั่วทุ่ง กลับมานุ่งผ้าถุงดอกงามสดใส กลับมาเป็นหยาดน้ำค้างกลางหัวใจ ให้หนุ่มไพรหอมนวลพร่างมิห่างตา.. รัศมีจันทร์ทาทาบอาบโลมไล้ ทั่วชายป่าทุ่งทองส่องเรียวหญ้า แสงจันทร์ผ่องส่องงามเงียบทุกเวลา รักสาวนารักราวป่าซึ้งค่าคำ..ชนบทไทย..! ******** กันภัยมหิดล..Caesalpinaceae Afgekia mahidolae B. L. Burtt & Chermsir ลักษณะ ..ไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง อายุหลายปี กิ่งอ่อนมีขนนุ่ม อื่นๆ..พรรณไม้ถิ่นเดียวของไทยพบครั้งแรกที่น้ำตกไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี สำหรับชื่อไทยและชื่อชนิด mahidolaeนี้ ตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นพันธุ์ไม้ประจำมหาวิทยาลัยมหิดล... ออกดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง ดอกรูปดอกถั่ว สีม่วงสลับสีขาว ทยอยบานจากโคนไปปลายช่อ ดอกที่ส่วนโคนจะหลุดร่วงจนก้านช่อดอกทอดยาวดูอ่อนช้อย ********** ลดาวัลย์..Convolvulaceae Porana volubilis Burm . f. ช่อสามัญ Snow Creeper ลักษณะ ไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ดอกสีขาวนวล ออกเป็นช่อรูปกรวย ปลายแยก5แฉก ออกดอกดกพร้อมกันทั้งต้น ดอกมีกลิ่นหอม ต้นต้องการอากาศหนาวเย็นเพื่อกระตุ้นการออกดอกช่วงหนึ่ง.. ******* เอื้องแซะหลวง..Orchidaceae Dendrobium scabrilingue Lindl. ลักษณะ..กล้วยไม้อิงอาศัยแบบแตกกอ ลำลูกกล้วยสีน้ำตาลอมเขียว ยาว 10- 20 เซนติเมตร อื่นๆ..ชอบอากาศเย็น ถ้าปลูกในกรุงเทพ มักจะไม่ออกดอก ปัจจุบันพบในธรรมชาติน้อยมาก ช่อดอกสีขาว มีกลีบปากสีเหลืองอมส้ม ผลิบานและส่งกลิ่นหอม นานกว่าหนึ่งเดือน ในอดีตกล้วยไม้ชนิดนี้เป็นหนึ่งในเครื่องบรรณาการที่ชาวลัวะ ต้องส่งถวายเจ้าเมืองเชียงใหม่..
14 พฤศจิกายน 2546 15:46 น. - comment id 181484
มนต์รักลูกทุ่ง อ๊อด โอภาส ทศพร : : Key G หอมเอย หอมดอกกระถิน รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง เห็ดตับเต่าขึ้นอยู่ริมเถาย่านาง มองเห็นบัว สล้าง ลอยปริ่มริมบึง อยากจะเด็ดมาดมหอมหน่อย ลองเอื้อมมือค่อยค่อยก็เอื้อมไม่ถึง อยากจะแปลงร่างเป็นแมลงภู่ผึ้ง แปลงได้จะบินไปคลึงเคล้า เจ้าบัวตูมบัวบาน หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน ครวญระคนหอมแก้มนงคราญ ขลุ่ยเป่าแผ่วพริ้วผ่านทิวแถวต้นตาล มนต์รักเพลงชาวบ้านลูกทุ่งแผ่วมา ได้คันเบ็ดสักคันพร้อมเหยื่อ มีน้องนางแก้มเรื่อนั่งเคียงตกปลา ทุ่งรวงทองของเรานี้มีคุณค่า มนต์รักลูกทุ่งบ้านนาหวานแว่ว แผ่วดังกังวาน โอ้ เจ้าช่อนกยูง แว่วเสียงเพลงมนต์รักลูกทุ่ง ซ้ำหอมน้ำปรุงที่แก้มนงคราญ...
14 พฤศจิกายน 2546 15:52 น. - comment id 181485
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=400 ฝากดิน ผ่องศรี วรนุช : : Key Eb ดินเจ้าเอ๋ยข้าเคยอยู่ใกล้มาก่อน ดินอุ่นร้อนหรือเย็นก็เป็นเพื่อนฉัน ยามเมื่อเขาร้างไป ไกล ใจก็ยังนึกหวั่นหวั่น นี่อีกสักกี่วันถึงมา ดินอ้างว้างระทมขื่นขมตรมเศร้า ดินก็เหมือนเช่นเรารักเขาหนักหนา เขาเป็นเหมือนเจ้าดวงใจ ดินเรียกเขาคืนมา มา บอกเขาเถิดดินจ๋าข้าคอย อภัย เถิด ดิน ได้แนบซบไอกลิ่น ดินนั้นอุ่นไม่น้อย อุ่นอกเขา อุ่นอกเขา เราก็พลอย อุ่นจากรัก ที่ฝังรอย อุ่นไม่น้อย ประทับใจ ดินช่วยซับน้ำตาข้าขอลาจาก ช่วยฝากซากรักเศร้าของเราได้ไหม ถ้าหากเขาไม่มาเยือน คงได้พบรักใหม่ ใหม่ ดินถมร่างฉันไว้ ให้จม อภัย เถิด ดิน ได้แนบซบไอกลิ่น ดินนั้นอุ่นไม่น้อย อุ่นอกเขา อุ่นอกเขา เราก็พลอย อุ่นจากรัก ที่ฝังรอย อุ่นไม่น้อย ประทับใจ ดินช่วยซับน้ำตาข้าขอลาจาก ช่วยฝากซากรักเศร้าของเราได้ไหม ถ้าหากเขาไม่มาเยือน คงได้พบรักใหม่ ใหม่ ดินถมร่างฉันไว้ ให้จม...
14 พฤศจิกายน 2546 16:12 น. - comment id 181490
สวัดดีแควนแควนสาวบ้านนา..จ้า ต้องลาไปก่อน.ทั้งอาวอนอาลัยอยากจะคอมเมนท์งานทุกดวงใจใจจะรอนแรกแหลกยับ เพราะจริงๆวันนี้ไม่ค่อยสบาย แต่วิญญาณบ้านนามาสิงเลยเหนื่อยเลย ลงซ้ำลงซ้อนเฮ้อ!ทำตั้งสองหนสามที ชีวีเลยต้องลาไปพักก่อน ชัยชนะ..ไม่ต้องกลัวจะไม่ได้ตะแลทแชทๆนะ รอให้สบานดีก่อนจ้า ลา..แล้วจ้า
14 พฤศจิกายน 2546 16:46 น. - comment id 181506
อ้าว.....ไปแล้วเหรอคะ ตะแหง่วแวะมาทักทาย ขอให้สบายกายสบายใจเร็วๆนะคะ... กลอนเพราะจังค่ะ อ่านแล้วคิดถึงบ้านนาของ ตะแหง่วเหมือนกัน
14 พฤศจิกายน 2546 20:20 น. - comment id 181581
ไปเห็นภาพควายในงานขนมครกชัยชนะ เลยอยากกลับมาเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น ซ้อนซบพี่ขี่ควายไปทั่วทุ่ง..แล้วเอาภาพควายแทน.. ดีไหม..ไม่รู้จะให้สาวนาขี่วัวหรือควายดี ออกความเห็นหน่อยนะคะ แควนๆ
14 พฤศจิกายน 2546 22:12 น. - comment id 181597
นอกจากจะเคลิบเคลื้มไปกับสำนวนหวานยังได้รับความรู้เรื่องดอกไม้อีกด้วย ดีจังครับท่านพี่
14 พฤศจิกายน 2546 22:26 น. - comment id 181601
ผมว่าขี่วัวครับดีกว่าเพราะว่ามีเกวียนให้นั่งอย่างสบาย แต่ถ้าขี่ควายละก้อให้หวาดเสียว ไม่อยากนั่งบรรยายหรอกครับ มาพร้อมกับดอกไม้เยอะแยะก็รู้มั่ง ไม่รู้มั่ง แต่ดอกพยอมผมว่าหอมมากครับ
15 พฤศจิกายน 2546 01:40 น. - comment id 181666
อบอุ่นละมุ่นละไม เกินที่ใจจะบอกกล่าว แต่รับรู้ด้วยเรื่องราว อยากบอกกล่าวว่าชอบจัง ***ชอบบรรยากาศอย่างนี้จังเลยค่ะ มีความรู้สึกดีเสมอที่ได้อ่านกลอนลักษณะนี้ค่ะ อบอุ่นแห่งกลิ่นไอธรรมชาติดีค่ะ***