หนึ่งในทรวง!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2068
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=223
จากเจ้าพระยาถึงไพรกว้างมิร้างรัก
กี่เศร้าหนักกี่ฝนหนาวกี่ร้าวฝัน
กี่ลมร้อนอ้อนดอกไม้พรายพระจันทร์
กี่วสันต์ หว่านสายครวญ หวนหานา..!
เก็บภูผาเดียวดายซ่อนไว้ในใจขวัญ
เก็บคืนวันเปลี่ยวเหงาใจเหว่ว้า
เก็บวัยเยาว์ทอดซึ้งเงากาลเวลา
ยามรอนล้าติดปีกฝันพลันสู่ไพร..!

ทิวเขาสูงถูกโอบกอดยอดเคลียเมฆ
งามราวเสกสรวงหวานปานสายไหม
กี่ลมแล้งแกล้งพัดพายุใจ
มิหวั่นไหวทายท้าโลกโศกสุขคลาย..!
คิดถึงรอยเท้าพ่อรอตามย่ำ
ดอกฝนพรำ เรียวรวง เพชรพร่างสาย
ภาพผืนนาอาบทองทาหอมพร่างพราย
หัวใจร้องไห้กับคืนฝันวันตื้นตัน..

ไผ่เสียดกอ ออดออเซาะ ซัดส่ายไหว
สายลมไกวพลิ้วระบัดพัดรวงฝัน
ขลุ่ยหวานแว่วแผ่วผ่านทุ่งพ้อผูกพัน
เพลงเรียมขวัญเที่ยวท่องล่องตำนาน..
ดวงดอกรักฝากรักร้อยสร้อยสวาท
ดอกพุทธชาติวาดวัยเยาว์ซ่อนกลิ่นหวาน
พิกุลแกมแก้วเกศหอมชั่วกาล
ละอองซ่านหวานดอกหมากฝากมิคลาย..


กล้วยแตกกอคลอรั้วทั่วแนวบ้าน
ห้อยหวีหวานสุกงอมหอมไม่หาย
มะละกอลูกคลอต้นดกมากมาย
ตำลึงพรายเลื้อยพันช่อล้อหลักไพร..
บัวหลากสีคลี่กลีบรับน้ำค้าง
อุษาสางพร่างเกสรน้ำค้างใส
พายเรือน้อยเด็ดบัวตูมตูมตั้งใจ
บนหิ้งใจแทนศรัทธารักจักธำรง..


จุดเทียนทองส่องบูชาหน้าพระพุทธ
เงาผ่องผุดจับพระพักตร์งามสูงส่ง
กระท่อมน้อยเงียบงามในไพรพง
ทั้งแดนดงดนตรีไพรลั่นไพรวัลย์..
กลิ่นข้าวใหม่หอมอวลร่ำกับลมหนาว
ใบเตยเคล้าอรุณรุ่งกรุ่นกลิ่นฝัน
กระดังงาหอมหวลกับนวลจันทร์
สาวนาพลันซุกซบหมอนนอนหนาวใจ....

กลิ่นฟืนไฟจากก้อนเส้าแตกปะทุ
หอมระอุนวลหอมน้ำข้าวใหม่
ตำน้ำพริกแกงเลียงตำลึงไพร
แว่ววิหคไพรไก่นาขันกระชั้นมา..
ตัดใบตองรองกระเฌอนำไปวัด
จีบบัวจัดดอกไม้เจิมอุษา
งามดวงใจนุ่งผ้าถุงเรียบงามตา
วันพระมายินเสียงฆ้องเสียงกลองชัย..

เดินเรียงรายผ่านสายธารหวานดอกไม้
วัดใกล้ใกล้เดินขึ้นเขินเนินไศล
ในดงไม้เจดีย์ทองโผล่รำไร
สวรรค์ไพรใจสาวนาพาอิ่มบุญ..
ชีวิตงามเงียบฟังธรรมล้ำกุศล
กลางกมลนิ่งใสน้อมใจหนุน
แก้วกระจ่างว่างหัวใจอิ่มเอิบบุญ
โลกละมุนใจละไมใฝ่งามธรรม

เป็นอดีตที่สาวนารอท่ากลับ
โลกลี้ลับราวสวรรค์ฝันเลิศล้ำ
ภาพในฝันวันวัยเยาว์เฝ้ารินร่ำ
ลืมระกำกรรมเก่าก่อนเพียรสอนใจ
สร้างสมาธิ มีปัญญา อย่าหม่นหมอง
มิได้ครองหัวใจใครไม่หวั่นไหว
ในชาตินี้มิว่าเรามิว่าใคร
สุขทุกข์ใจเวียนว่ายชดใช้กรรม..
หวังโซ่กรรมตัดขาดสวาทสิ้น
มิถวิลมิไห้หวนทวนวนซ้ำ
ถอดหัวใจดวงน้อยน้อยลอยถวายวัดเลิกระกำ
สิ้นรักกันทุกทุกชาติสวาทวาย!!!
***************


พุดพัดชาเขียนบทนี้ขึ้นมาด้วยแรงฝันบันดาลใจ
สองประการ..
จากลำนำบทกวีของลำน้ำน่าน..จากทุ่งนาจรดเมือง..และ..
จากชีวีที่ดิบเดิมติดดินถวิลไพรของพุดพัดชาเอง..
จากคำงามล้ำ..ลำน้ำน่าน..ในที่มา..ว่า..
หลายๆคนที่กำลังคิดถึงบ้านในยามที่ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง
คงจะเศร้าไม่น้อยสำหรับความรู้สึกนี้ที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่
ช่างเป็นคำโดนใจกระหน่ำใจ..
ที่ตรึงใจจนน่าขอบใจลำน้ำน่าน
กวีดีไรท์ได้แน่..จากใจพี่พุดดวงนี้ที่ยินดียกให้นะคะ
ผู้ที่รับบทนักอยากจะเขียนเพียรสร้างฝัน
รจนางานงามชมธรรมชาติได้ล้ำเลิศเป็นยิ่งนัก..
ซึ่งมิพักต้องถามก็พอรู้ว่า..
ลูกผู้ชายชาติไพรหัวใจสิงห์ หัวใจทรนง คนนี้นั้น
เกิดมาจากเนื้อดินผืนใด
เนื้อดวงใจจึงพิสุทธิ์ใสเข้าถึงแก่นกระพี้ผู้ยากไร้ 
ได้อย่างดิบเดิมถึงแก่นใจเสียนี่กระไร

และ...
อย่าได้สงสัยเลย...
ทำไมพุดพัดชาถึงให้กำลังใจ พลังใจ 
ในงานงามล้ำนี้อย่างซาบซึ้งถึงแก่นใจเฉกกัน
เพราะระหว่างเราสอง..นั้น.
เนื้อดิน..ผืนดินเกิด..คงก่อเกิดก่อเกื้อมาจากพงไพร
จากลำธารสายใสหวานละไมละมุน
หลอมละลายร่างหลอมละลายใจ
ให้กลายผ่าน มาเป็นเนื้อใจ
เนื้อจิตวิญญาณใกล้เคียงกัน..
อาจจะห่างกันแค่วัยวันและ
ผืนดินฝันก็คงแค่ชั่วทะเลกั้น.แค่นั้น..ก็แค่นี้..

พุดพัดชา..ถึง
รักงานแนวนี้..
และบอกได้อย่างเต็มปลื้มอย่างเต็มภาคภูมิแทนใจว่า..
นานทีปีหนจะได้พานพบกับคน..
ที่รักงานเขียนในแนวธรรมชาติไพร
ได้อย่างถึงแก่นกระพี้ใจ 
ที่พุดพัดชาอ่านทีไร น้ำตาในดวงใจในดวงตาก็ร่วงก็ริน..
และ.
อีกแรงบันดาลใจ...
จากชีวิตพุดพัดชาเอง..
ที่เกิดมากับไพรพงพะงัน
ที่ใครบางคนฝันและคิดเอาเองว่า..
คงไม่มีทุ่งนา ป่าเขาลำเนาไพร
ลำธารสวยใส สัตว์ป่านานา..ดวงดอกไม้ในหุบผา..
และที่งามยิ่งกว่าสิ่งใดคือบุหลันราตรี..
ที่ทั่วโลกต่างบินมาชื่นชมโสมนัสจัดปาร์ตี้เริงระบำรับ

และ..แน่นอนค่ะ
เกาะของพุดพัดชา มีมากกว่าทุกสิ่งที่ว่าเสียอีก
ในงามละเอียดละเมียดละมุนไพร
เพราะว่าเกาะมหัศจรรย์รักของพุดพัดชานั้น
มีทะเลฝัน ทะเลกว้างอยู่ตรงหน้า
และอีกด้าน..
ในป่งดงดิบล้ำลึกลึกลับกลับงามเงียบ
ด้วยพันธุ์ไม้ร้อนชื้นนานาพรรณ
มีกล้วยไม้พันธุ์มงกุฏไพร
ที่งามล้ำหายากยิ่งนักในปฐพี..
อยากรู้จักเกาะมหัศจรรย์รัก
ก็ไปหาอ่านจากแผงหนังสือ
และกับอีกสองชื่อเรื่องราว
พลังแสงสีเงินและมนต์รักเกาะพะงัน
จากนามปากกา ..นาวี..รังสิวรารักษ์..
นักเขียนคนเกาะ
ผู้เป็นดังดวงใจพุดพัดชานะคะ ขอฝากไว้ด้วย..

และด้วยเหตุฉะนี้เพราะมีที่มา
พุดพัดชาจึงมีชีวิตยามวัยเยาว์ที่ติดดินถวิลไพรเฉกเช่นนี้
ทุกฤดูร้อน....
ที่ดวงดอกไม้เบ่งบานตระการตาตระการใจไปทั้งราวป่า
พุดพัดชาจะเดินข้ามทุ่งนาป่าละเมาะ
และลำธารสายหวานระริน
ผ่านสายลมระรินบางเบาพัดโบกโบยในทุ่งนา
ที่กำลังโอบอุ้มรวงเรียวระย้าย้อย
จนหนักห้อยค้อมเกือบถึงดิน
พุดพัดชาจะแอบเก็บลูกไม้ในป่ากิน
จนปากเขียวเลยค่ะกว่าจะถึงที่หมาย
ดีที่ไม่ตายเพราะผลไม้ป่าเป็นพิษ..
คิดคิดก็ทั้งตลกและน่าสงสารตัวเอง..

...
คุณตาพุดพัดชา เป็นเจ้าของเทือกเขาทั้งลูกเลยค่ะ 
ครอบคลุมทั้งแนวเนินไศล ที่พุดพัดชาแอบเรียกชื่อ..
ให้ว่า..เทือกเขาไพรพะงัน..
มีหินงามระเกะระกะก่ายกอดกัน 
ก้อนใหญ่ยักษ์เท่าตึกสองชั้นก็มี 
ทางขึ้นไปนั้นจะเป็นทางสายงามสายเล็กๆ
ทอดคดเคี้ยวเลี้ยวลัดเข้าไปในซอกหินงาม
ที่พุดพัดชาเคยรจนาบางฉากฝากเอาไว้ในเรื่องกระท่อมใบไม้ไงคะ
และที่พุดพัดชา ซาบซึ้งใจมากคือ
คุณตามีกระท่อมไม่ไผ่ขัดแตะ
ปลูกตรงที่เนินสล้างสวยสุด 
มองไกลไปจะเห็นฝั่งทะเลล่างละลิบ
ผ่านดงไม้ดงมะพร้าวหลายพันไร่ มากมาย 
บางเวลาเราจะมองเห็นเรือลำน้อย
ฝ่าคลื่นฝองฝอยขาวนวลฝ่าทะเลเงินระยิบระยับ


และ..
ยามตะวันรุ่ง..ตะวันรอน..
คุณตาจะหุงข้าวไร่สีแดงๆหอมๆด้วยหม้อดิน 
ด้วยเตาไฟที่ใช้หินสามก้อนวางไว้
เรียกก้อนเส้า..
และจะใช้กระบอกไม้ไผ่เป่าโหมกระพือไฟ
ยามต้องการให้ไฟลุกแรง
พุดพัดชาชอบรอ..ขอน้ำข้าวแดงจากข้าวไร่หอมๆ
ที่ชาวนาที่เกาะมีพันธุ์พิเศษเพาะปลูกไว้กินเองอุดมวิตามิน.
คุณตาจะมีชามอ่างใส่ไว้หลังจากรินออกมา 
โดยใช้ไม้ไผ่แข็งแรงเหลาละเมียดไว้ขัดหม้อ  มิให้เลื่อนหลุด
และต้องหันหม้อไปหันหม้อมา
เรียกว่าการดงข้าว  ดงไฟมินานนาที 
มิให้ข้าวไหม้ เพียงให้ข้าวในหม้อระอุ
อิ่มนวลหอมงามพอดี..พอดี.

พุดพัดชาจำรายละเอียดเหล่านี้ได้ราวหลับตาเห็น 
และ
อยากเก็บซ่อนเร้นค่อยๆ
ละเมียดละไมเทใจถอดใจถ่ายทอดออกมา
ที่หวังว่าจะงามระยับในความงามดิบเดิม ของชีวิตไพรในป่าดง
แต่นะวันนี้..ขอเพียงตีแผ่เศษเสี้ยวที่เกี่ยวกระชากใจ 
ให้ไหลทะลักออกมาเสียบ้างเพียงนั้น..
........
พุดพัดชา..
จะรอกับข้าวง่ายๆ(ที่จะไม่ขอเขียนบรรยายรายละเอียดเก็บไว้เขียนคราวหน้า)
แล้วจะพาตัวเองไปนั่งรับประทานบนก้อนหินใหญ่ 
ที่ต้องปีนไปจนชามข้าวจะตกมิตกแหล่
แต่แฝงความลุ้นระทึกและตื่นเต้น 
และสนุกเสียยิ่งกว่าเด็กเมืองที่ต้องสิ้นเปลืองเงิน
ขอแม่พ่อปีนป่ายภูเขาและผาหินจำลอง
ในงานเมืองทองธานีที่พุดพัดชาเคยเห็น
ยามโปรโมทการท่องเที่ยวทั่วไทย
..........

..........
ทั้งเทือกไพรพะงันของคุณตา..
จะมีดงมะพร้าวขึ้นลดหลั่นไปตามแนวไศลไพรพง 
งามไปทั้งดง
ด้วยมะม่วงพิมพานต์พร่างพร้อยพวงชมพูดั่งชมพู่ห้อยระย้า
มีเม็ดโผล่อะร้าอร่ามทายท้าเด็ดดึง..แต่ห้ามเด็ดดมพรมจูบ
เพราะจมูกจะพังด้วยยางรัก..
และยังมีพันธุ์ไม้ผลนานาพันธุ์ 
หัวมันหลากพันธุ์หลายชนิด
ที่นำมาย่าง มาต้มและโยนลงเตาหุงข้าวรออบแบบธรรมชาติ
ไหนจะสับปะรดพันธุ์พื้นเมืองกรอบฉ่ำหวานลูกน้อยๆมีจุกแฉกน่ารัก..
ยังมีลูกกำซำกินแล้วอร่อยล้ำแถมปากฟันดำปี๋ตาม
และยังมากมีมากมายมากพันธุ์..
ที่นำมาเก็บกินมิรู้สิ้นมิรู้เปลืองเงินเลย
..และ..


ที่เป็นเสน่ห์มนตรา....
ตามตรามาตรึงให้โหยหาพาคะนึงครวญก็คือ
ภาพยามสายัณห์รัญจวน..
ยามบุหลันลอยเลื่อนข้ามขอบโค้งภูเขา
สาดแสงเงินงามหวานนวลแอร่มแต้มราวไพร
กวาดเอาหวานหอมดอกไม้ไพรลอยละล่องลมละมุน
มากรุ่นกลางใจเด็กผู้หญิงช่างฝัน..ที่
จะพาตัวเองปีนภูหินงามแห่งฝัน..
มานอนรอนับดาวพราวเต็มอ้อมฟ้า
เต็มอ้อมฝันและ
เต็มผืนตาคือพระจันทร์ดวงโตสีส้มสุกจัด
หยาดสายหวานผ่านม่านเมฆลอยล้อใจ
ให้ไหวหวามละเมียดละมุน
เด็กหญิงจะค่อยๆช้อนตา
หากระรอกตัวน้อยน้อยจ้อยจ้อยที่หางห้อยเป็นพวงพวงฟูฟูที่พากัน
กระโดดกันกราวเกรียวจากกิ่งไกวไหวทางมะพร้าว
หยอกเย้ากันระงม
ยามนั้นเด็กผู้หญิงจะทำเสียงจิ๊กจั๊กขับไล่ให้พากันหนีไปให้ไกล
มิฉะนั้นแล้วไซร้ หากโชคไม่ดี 
มะพร้าวที่ถูกกระรอกเจาะกัด
อาจสลัดร่วงลงกลางกระบาล..ให้หวานหาย..ตายเงียบได้..

..
นี่คือความจริงในใจ
ที่เต็มอิ่มงามในทุกยามแห่งความทรงจำ
อันงดงามหวานหอมอันหายากยิ่ง
และสิ่งสุดท้ายนาทีนี้ที่ขอเผยต่ออีกนิด
นอกนั้นขอขยักอีกหน่อยไว้ค่อยรอเวลารจนา
ในเรื่องใหม่ให้งามเนียนมากเนื้อหาละเอีอดละออยิ่งกว่า..นี้..

คือเสียงสุดท้ายที่ยังหวานแว่วแผ่วมา
ในสายลมหนาวให้ร้าวใจ
คือเสียงระฆังก้องกังวานไพร
หวานแว่วแผ่วผ่านพ้นทิวไม้
กึกก้องกลางหุบเขาใหญ่ไพรกว้าง
เศร้าใสหวานปานดนตรีจากสรวงสวรรค์ทิพยวิมาน
เป็นเสียงระฆังยามสนธยาที่สะท้อนไพร
มาสู่ดวงใจละไมละมุนนี้
ราวดังดนตรีไพรหอมกรุ่นกลางใจ 
ให้ทุกคราที่รำลึกให้เศร้ารำงับ
และกลับสร้างงามเงียบในใจดวงน้อย
ให้งามล้ำดำดิ่งผนึกแน่นแม้นวันคืนจะล่วงลาลับ...

เดือนดวงงามจักแปรฟ้า 
และแม้นว่าพุดพัดชาจะร่อนเร่พเนจรรอนแรมร้างไพร
ห่างไกลสุดฟ้าไกลตาแค่ไหน
ก็ไม่มีวันลบลาเลือน..ไปจากงามดวงใจใครเลยจะรู้นี้
ที่จะเป็น..งามนานเนิ่น..นานเนานิรันดร์...
...............

กลับมา..จากแรงบันดาลใจ..ทูอินวัน
ให้พุดพัดชานั้นได้รจนาบทกวีที่ยังด้อยค่า
ด้วยมิอาจ  ทำได้ดีไปกว่านี้   
ที่อยากเผยใจเผยในรักไพร
เฉกเช่นลำน้ำน่านผู้ชายชาติไพร
ที่มีพรสวรรค์ไพร
พรสวรรค์ในดวงใจละไมละมุนรจนาคำได้งามล้ำกว่า
ซึ้งใจกว่า ดิบเดิมกว่า..

แต่ทว่าก็ยังดี..
และบางทีและบางครา
พุดพัดชาจึงต้องพาตัวเองนี้
ข้ามเรือมาหาบรรยากาศช่วยอีกแรงใจ
ในฝั่งฝันตรงข้ามวิมานดินพุดพัดชา
ที่พุดพัดชาแอบขนานนามเพิ่มเอาเองว่า..เกาะเกร็ดตระการ
ในทุกยามที่หัวใจพุดพัดชาต้องการงามเงียบสงบสุขไร้ร้างผู้คน
พุดพัดชาจะมานั่งสุขใจละเมียดละไมกับต้นไม้สูงใหญ่
ริมฝั่งชล ฝังฝัน
และที่งามด่ำดิ่งใจ ยังมีต้นพิกุล..ต้นไม้ในดวงใจในวัยเยาว์
ของพุดพัดชา ที่โหยหาในคำนึงมิคลาย
และสิ่งแสนงามยิ่งใหญ่ ศรัทธาใจ
ที่ทำให้จิตวิญญาณไพรพงพุดพัดชาเลิกหมองเศร้า

ทุกคราคราวที่มีเรื่องกระทบใจ
ในภาคปุถุชนผู้หญิงคนธรรมดาๆ
ที่ยังมีหัวใจยังมีเลือดเนื้อยังมีนวลใจอ่อนล้า 
ยังมีสุขทุกข์ผันผ่านทดสอบใจ
ให้ดวงตายังมีพรายน้ำใสใสในบางวัน
ยังมีฝันพร่างในบางคืน
ยามที่ดวงใจหันไป
ไม่มีใครแสนไหวเหว่ว้า ไร้สิ้นหวัง ไร้สิ้นใคร
เหลียวมองหาฝั่งฝันมิพบเจอ..

พุดพัดชา จะพาตัวเองพร้อมมาลัยดอกไม้สด
 หรือไม่ก็ดอกไม้รายรอบบ้าน
ที่แสนงามแสนรักเจียดใบตอง
ห่อหอมอย่างละเมียดละมุน
กรุ่นกลิ่นหอมจากดวงใจพิสุทธิ์ใสนี้  ที่มิหวังให้ใครรับรู้
น้อมนำก้มกราบเบื้องหน้า
พระพุทธสิริไสยาสน์ในวิหาร
ที่งามอร่ามมลังเมลือง
ผ่องผุด..ให้หัวใจพุดผุดผ่องตาม 
หยุดและวาง ......
เหว่ว้าทุกเรื่องราว
ให้ใจนิ่งงัน
เกิดปัญญาสมาธิพลัน..
เพียงชั่วยามก็ยังดีก็แสนดี..แล้ว
ให้หัวใจหอมมงคลงาม
หลอมดวงใจให้รำงับดับเหตุทุกข์ได้แม้สักชั่วขณะหนึ่ง

..........

พุดพัดชารจนาบทกวีข้างบนนี้ 
ณ.เจดีย์สีขาวกลางน้ำ..
หากใครนั่งเรือผ่านมาในเจ้าพระยาฝั่งฝัน 
ระหว่างร่องน้ำแยกนั้น
เป็นสองฝั่งสายพรายพราก..
จะเห็นภาพผุ้หญิงในชุดน้ำเงินขลิบขาวสวมหมวกฟางถักละออ
ล้อวงหน้าเศร้าละมุน..
กันสายฝนลมแรงที่กำลังพร่างสายปรายโปรยพร่างพรม

และอาจงามจนอาจเป็นดั่งฉากเด็ดในดวงใจ
หากทุกดวงใจใส่จินตนาการพลัน
ให้ภาพนั้นเป็นดั่งนางใจนางในฝัน
ในนิมิตรของตัวเอง 
ผู้หญิงอันเป็นที่รัก..ในดวงใจรักในดวงใจฝัน
ของคนดีทุกท่านที่ได้อ่านผ่านตานะนาทีนี้นะคะ

และเคียงใกล้
นางใจนางในฝันนั้นคือพราวลั่นทมหลากสี
ชูช่อดอก..ระบัดไหวไปกับลมรำเพยผ่านผิวแผ่วประพรมดวงใจ
กับลำนำลำน้ำเจ้าพระยา
ที่เป็นดั่งนวลใจในสายน้ำนิรันดร์นานเนา

ลาด้วยภาพ...
แพนจับร่างงามล้ำ 
ทัดดวงดอกลั่นทมหวานริมแก้ม
ดวงตา นิ่งงันฉ่ำเศร้างามเงียบ
ท่ามกลางสายฝนพรำ 
ที่พร่างสายสู่สายชลเบื้องล่างและกับ
เรียวน้ำค้างหยาดสายราวพรายเพชรร่วงลงเคลียนวลแก้มเรียว..และ
ราวฉากฝันสวรรค์ชะลอวิมานลอย...!
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    25 ตุลาคม 2546 14:38 น. - comment id 176171

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2068
       ค้นหา ชื่อเพลง - ศิลปิน   : :      
     
     
     
        รอยไถแปร   
    นิค นิรนาม : : Key Bb  
    ทุ่งนาแดนนี้ ไม่มีความหมาย
    เหลือเพียงกลิ่นโคลนสาบควาย
    เห็นซาก คันไถแล้วเศร้า
    เห็นนาที่ร้าง นั้นมีแต่ฟาง แทนรวงข้าว
    เห็นเคียวที่เกี่ยว เหน็บติดเสา
    เล่นเอาใจเรา สะท้อน
    ทุ่งนาแดนนี้ ข้าเคยไถทำ
    สองมือ ข้าเคย หว่านดำ
    ฤดู ฝนพร่ำ หน้าก่อน
    แต่มาปีนี้ ฤดี ข้าแสนจะสะท้อน
    เพราะมา ไร้คู่ กอดเคียงหมอน
    ทิ้งให้เรานอน ระกำ
    รอย ไถเอย ข้าเคยไถถาก
    เดี๋ยวนี้ เจ้ามา คิดจาก
    ฝากให้ เป็นรอย ไถช้ำ
    เปลี่ยนรอย ไถใหม่
    ทิ้งรอย ไถเก่า ระกำ
    อกใคร ใครบ้าง ไม่ช้ำ
    เมื่อยาม เห็นรอย ไถแปร
    ทุ่งนาแดนนี้ คงร้างไปอีกนาน
    ข้าเอง ก็เหลือ จะทาน
    เพราะมัน แสนสุด จะแก้
    หมดกำลังใจ แล้วเรียมเอ๋ยข้า คงตายแน่
    จะไถไปอีก ก็กลัวแพ้
    เพราะรอยมันแปร เสียแล้ว เรียมเอย
    
    ทุ่งนาแดนนี้ คงร้างไปอีกนาน
    ข้าเอง ก็เหลือ จะทาน
    เพราะมัน แสนสุด จะแก้
    หมดกำลังใจ แล้วเรียมเอ๋ยข้า คงตายแน่
    จะไถไปอีก ก็กลัวแพ้
    เพราะรอยมันแปร เสียแล้ว เรียมเอย...
     
     
    
  • หมึกมรกต

    25 ตุลาคม 2546 15:22 น. - comment id 176191

    ...ลำธารใสไหลเย็นกระเซ็นชุ่ม
        ...ประโลมพุ่มไม้งามยามฟ้าใส
           ...ภูสลับขุนเขาลำเนาไพร
              ...ยิ่งครวญใคร่หวนหาบ้านนาเรา
  • ผู้ชายคนเดิม

    25 ตุลาคม 2546 21:22 น. - comment id 176234

    .. รักบ้านเกิด . COM 
    รึเปล่าเอ่ย 
    ^__^ 
    
    .. ผมมั่นใจว่า พี่พุด ใช้หัวใจร่วมในการเขียน
    บทความเหล่านี้
    เพราะอ่านทีไร .. ก็รู้สึกเหมือน 
    มีพี่พุดมานั่ง เล่าตรงหน้า 
    เหมือนได้เห็นผู้หญิงคนนึง ..
    นั่งเล่า เรื่องราว ด้วยหน้าตาที่มีความสุข..
    
    ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ครับพี่
    
  • พรระวี

    25 ตุลาคม 2546 21:29 น. - comment id 176238

    ท่านพี่พุด ผู้มีดวงตาลึกซึ้ง  มองเห็นความงามของธรรมชาติ  ผมและท่านพี่ถือแหล่งกำเหนิดห่างกันไม่มาก หากจะเรียกว่าลูกบ้านเดียวก็น่าจะได้  ชีวิตท่านพี่โลดแล่นในโลกกว้างอย่างคุ้มค่า   วันเวลาผ่านไปมิได้หมดเปลืองเปล่า  ท่านพี่เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาบอกเล่าสู่สารธารณะด้วยลีลากวีอันนุ่มนวลลื่นไหล ด้วยอารมย์โรแมนติก ผู้เสพรับได้รับความอิ่มเอิบรื่นรมย์ตลอดมา  รออยู่ครับท่านพี่  ว่าสักวันหนึ่งนกนางนวลทะเลเช่นท่านพี่  คงจักได้โบยบินกลับถิ่นแผ่นดินเกิด  ใช้ชีวิตด้วยความสุขสมอยู่ที่นั่น  ผมคงจะได้ไปเยี่ยมเยียนเยี่ยงพี่เยี่ยงน้องที่นั่น.
  • ชัยชนะ

    25 ตุลาคม 2546 21:51 น. - comment id 176243

    มาฟังพุดพัดชาเยื้อนแย้ม เยี่ยมหยดย้อย สมอยาก เพราะรอคอยมาหลายวัน
    นึกว่าพุดแอบไปหลบลี้หนีหายซ่อนกายบทเกาะซะแล้ว อ่านจุใจเต็มอิ่มครับวันนี้
    พุดพัดชาภาคสาวบ้านนา น่าจะเป็นพุดพัดชาในวัยเด็ก และในวัยอนาคต
    กาลเวลาย่อมเปลี่ยนไป สวรรค์บ้านนาย่อมเปลี่ยนแปลงไปด้วยครับ
    เทือกเขาไพรพะวัน พุดไม่คิดที่จะมีคู่ใจ จูงแขนแบบเขาลีลาส พร้อมกับลูก ๆ หลาน ๆ
    มากมายวิ่งหยอกล้อตามหลังอย่างมีความสุขหรือครับ(ก็แหย่เล่นนะครับ)
    เทือกเขาไพรพะวันอีกหลายปีผมคิดว่าต้องมีสักครั้งในชีวิตหนึ่ง ผมคงได้ไปดูด้วยตา
    ทุกคนล้วนมีจุดมุ่งหมายวาดหวังไว้กับชีวิตที่ตนคิดว่าสวยงาม  ขอให้ฝันของพุด
    จงสมดังความปรารถนาเกือบทุกประการ ประการเดียวที่ไม่อยากให้สมหวัง
    ผมว่า..หลายหัวดีกว่าหัวเดียวครับ..
    
    
  • รดา @*_*@

    25 ตุลาคม 2546 23:31 น. - comment id 176256

    ชื่นชมและศรัทธามากๆค่ะ
  • สาวเรนจริงๆค่ะ...

    26 ตุลาคม 2546 10:45 น. - comment id 176284

    เรน..แอบมาอ่าน..ตั้งหลายครั้ง..
      ..เก็บฝัน..ของพี่พุดพัดชา...
      เขียน..ทุกอย่าง..แบบงัยดี ร่า...
        เกือบเสียน้ำตา..แต่งกลอนใหม่..แล้วหาย..นะคะ..
        ...  เรน..อยากเขียน..ให้ได้..อย่างพี่พุดพัดชา..
          ...แต่ทำงัยร่า..แบบว่า..ไม่ได้...
       ..ตอนนี้..  เรน..ขออภัย....
            ..ทนไม่ได้.. ก้อเล้ยย.. โพสอะดิ..!
    
        ...เป็น..ความรู้สึก..ของเรน..จริงๆ..
        ..พี่พุดพัดชา..คือผู้หญิงเด่น..
              ..ทุกคน..ก้อคงได้เห็น....
        ..พี่พุดพัดชา..เป็น..สาวบ้านนา..ที่น่ารัก..
                  ..แป๊ปเดี๋ยว...
  • ผู้หญิงไร้เงา

    26 ตุลาคม 2546 20:14 น. - comment id 176427

    เป็นอะไรที่ลงตัวจังเลยนะค่ะ  บรรยายได้ดี  กลอนก็ไพเราะ  แถมเนื้อหาที่อ่านแล้วเหมือนได้เห็นภาพด้วยตาตนเองเลยค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน