บั้งไฟ พญานาค ?

ม้าก้านกล้วย

ลมบ่าย สงัดลง ตรงเหนือน้ำ
กากตะกอน ข้นคล้ำ กระหน่ำหนุน
เชี่ยวจากต้น สามสบ สมทบทุน
ในน้ำขุ่น มีตำนาน เคยขานไข
โขงโค้ง เคี่ยวเข็ญ เช่นวังเวิน
หมักเบือ เหลือประเมิน เกินกักได้
ผุดพ่น ไอพิษ ที่ติดไฟ
โพล่งพลัน ทันใด ในเพ็ญพราง
ลมเย็น กลับคะนอง ร้องครืนครืน
ยิ่งตื่น ตระหนกใจ ไฟสว่าง
เดโช พญานาค จากกึ่งกลาง
เส้นทาง สีทันดร หลอนฤดี
ไร้เสียง กัมปนาท แต่ขลาดเขลา
ไร้เงา จุดกำเนิด เกิดจากผี
ไร้ร่าง ผองเผ่า เหล่านาคี
ไร้ที่ จะดำริ อธิบาย
ลำแสง แจ่มเจือ เหนือลำน้ำ
ผุดซ้ำ แสงสว่าง แล้วจางหาย
พุ่งพรวด ขึ้นฟ้า จ้ากระจาย
ทั้งซ้าย และขวา มาประชัน
คงเป็นเรื่อง เลิศล้ำ ธรรมชาติ
คงอาจ เป็นนาคา บูชาสวรรค์
คงเพราะใคร สักคน บนฝั่งนั้น
คงปิดกั้น มิเปิดเผย เลยลึกลับ(ม้าก้านกล้วย)				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    9 ตุลาคม 2546 22:49 น. - comment id 173383

    .....มหาชนคนหลากล้น...............มากมาย 
    เอียดเสียดเบียดบังหมาย..............ใฝ่จ้อง 
    ลูกเด็กเล็กตายาย.........................ชายหนุ่ม-  สาวแม่ 
    เช็งแช่แลเหลียวป้อง-....................ปากร้องฮาเฮ ฯ 
    
    .....ผันปีมีมากด้วย.........................นันทนา-  การเฮย 
    ขันแข่งแต่งนาวา...........................ใหญ่น้อย 
    ประทีบรีบผูกดา-............................รดาษเด่น 
    หลากรูปหลากลักษณ์ร้อย................เร่งเร้ารัดรึงลำเรือ ฯ 
    
    .....งานมือปรือจิตสร้าง....................รังสรรค์ 
    วิจิตรพิศดารผัน.............................แผกบ้าง 
    ประกวดลวดลายกัน........................ขันแข่ง 
    สมสุขสนุกอ้าง.................................อวดตั้งตระหง่านงาม ฯ 
    
    .....มองจากฟากฝั่งน้ำ......................โขงขนาน 
    โชติช่วงเฉิดชัชวาล.........................ผ่านคล้อย 
    เพริศพร่างดั่งทิพยยาน....................เจิดจรัส
    เกินกว่าพรรณาร้อย........................ร่ายถ้อยรจน์แถลง ฯ 
    
    .....เห็นครุฑยุดเหนี่ยวเนื้อ..............นาคี 
    เห็นนาคศลาฆฤทธี........................ที่น้ำ 
    พระรถโปรดเมรี..............................เกษมสุข 
    เห็นแม่กัลยาย้ำ..............................หยอกเย้าสรวลสนาน ฯ 
    
    .....เห็นวัดปราสาทสร้าง...................อัศจรรย์ 
    ปานเปรียบเทียบสรวงสวรรค์.............ย่านฟ้า 
    เห็นกระบี่นารีอัน.............................ผุดผ่อง 
    เห็นหมู่กินรีหม้า*.............................แช่มช้อยอรชร ฯ 
    
    .....เห็นใครเดินไขว่คว้า..................ปืนอา-  ก้านอ 
    ริมฝั่งโขงตรงหา..............................ป่าไม้ 
    งันงกง่วนชายตา..............................ดูดั่ง  ลาวน้อง 
    ปืนลั่นพลันยืนใบ้............................บ่งไซร้บั้งไฟพญานาค ฯ 
    
    
    :) สวัสดีค่ะ อัลมิตรายังไม่เคยไปดูกับตาเลยซักที  วันนี้ยังคุยกับเพื่อนเลยว่า แสงที่พุ่งขึ้นมาน่ะ มีจริง แต่พญานาคเป็นผู้กระทำหรือเปล่า ..?
  • ผู้หญิงไร้เงา

    9 ตุลาคม 2546 23:01 น. - comment id 173388

    กลอนไพเราะทั้งคู่เลยค่ะ
  • tiki

    10 ตุลาคม 2546 09:53 น. - comment id 173469

    มาอ่านค่ะ
  • ราชิกา

    10 ตุลาคม 2546 19:29 น. - comment id 173589

    แวะมาชื่นชมค่ะ..
    
  • ผีเสื้อปีกบางฯ

    10 ตุลาคม 2546 20:00 น. - comment id 173598

    อยากไปดูจริงๆ
    
    กลอนก็ดี ....โคลงก็เพราะค่ะ
  • หมึกมรกต

    10 ตุลาคม 2546 23:18 น. - comment id 173622

    ....โขงธาราว่าขานการณ์ประหลาด
        ....ชนทั้งชาติมาดหมายใคร่พิศสม
            ....นาคี..พ่นไฟบรรลัยลม
                 ....ชวนชม..สีสันอันตระการ
      อยากไปชมจัง
    ....ม้าก้านกล้วยสวยล้ำกานท์น้ำหนึ่ง
        ....สะท้อนซึ้งถึงการณ์ขับขานไหว
            ....พจน์ไพเราะเหมาะรับจับทรวงใน
                 ....ฑีฆรัสพริ้วไหวดั่งสายลม
      พึ่งมาชื่นชมผลงานม้าก้านกล้วยเป็นครั้งแรก รักษาความไพเราะของบทกานท์ไว้ให้นานเท่านานนะครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน