...๑... .....ยุคผันกาลล่วงสิ้น..................มิลลา- เนี่ยมเฮย พันขวบควบสองครา...................กว่าแล้ว ลืมศกนักษัตรพา........................วิปลาส หลงศักราชแคล้ว........................คลาดร้างปีเถลิง ๚ ...๒... .....ป่าพงษ์คงรกร้าง...................พนาสูญ คอนกรีตอิฐโบกปูน....................วุ่นแท้ ไพรวัลย์ไป่กอปรกูล...................หนุนปักษ์ รักษ์ฤา เตียนโล่งคงตึกแพ้-....................พ่ายแล้วแนวไพร ๚ ...๓... .....สูงเสียดเอียดเบียดฟ้า............มหรรณพ์หาว ดาษดื่นยืนวับวาว......................สกาวตั้ง คอนโดฯ โด่เกรียวกราว..............โดดเด่น- ดุลย์นา ดังสวรรคโลกยั้ง........................ฝั่งฟ้านภาลัย ๚ ...๔... .....มธุรพจน์บทหนุ่มน้อย...........กลอยใจ เทียมมาดเจมบอนด์ไทย.............ใคร่เฟี้ยว ลึกลับสลับไกล-..........................กลายหนุ่ม- นาเฮย แปลงเช่นเป็นคนเฮี้ยว.................ฮาร์เล้ย์เดวิดสัน ๚ ...๕... .....เอวองค์ทรงแช่มช้อย..............คอยแฟน สวมใส่ลีวายส์แทน......................โสร่งผ้า เวอร์ซาเช่เรย์แบนด์....................แสนเท่ห์ เกิบ*เลือกมาร์ตินคว้า-.................ด๊อกเต้อร์เลอแพง ๚ ...๖... .....เพ-ลาคราเคลื่อนแคล้ว...........ปานใด โอริสติดแขนไป.........................ใส่ซ้าย แหวนงามอร่ามไพ-.....................ลินเรื่อ เรืองแฮ ผมหล่อเงางามคล้าย...................ใส่แต้มแจมเจล ๚ ...๗... .....โมบายด์หมายพกไว้...............มายโฟน ของเก่าเราจับโยน.......................ร่วงน้ำ ใหม่เฉียบเรียบเนี๊ยบโอน-............สนท์ง่าย สบายแฮ ติดต่อฉอเลาะย้ำ.........................พร่ำได้คลายถวิล ๚ ...๘... .....เครดิตติดบัตรบ้าง.................ดังหมาย วีซ่าบัวหลันหลาย.......................หลากพ้อง รถเครื่องรีบเกียกกาย..................ไหลลื่น มาตรมุ่งผดุงคล้อง.....................ย่องใกล้กัลยา ๚ ...๙... .....สับสนคนคั่งค้า.....................จราจร รีบเร่งเกรงงามงอน.....................ค่อนบึ้ง เข็มไมล์ส่ายไหวคลอน.................ตอนเหยียบ ทะยานนา ควบบึ่งโปลิสอึ้ง..........................บึ่งใกล้สลายโต๋ ๚ ...๑๐... .....หลงเพลินเกินเกริ่นแล้ว..........เราเหวย พลาดผละจะชวดเชย..................ชื่นช้อง ผิดนัดสิคลาดเขย.......................เกยหง่าว- นอนนา จำเร่งเกรงใครจ้อง......................ย่องเกี้ยวดรุณงาม ๚ ...๑๑... .....เดียวดายชายหนึ่งผู้...............ยากจน ปราศเวทย์วิเศษดล.....................กร่นถ้อย เรียงรจน์พจน์สนน.....................หวานบ่ อนงค์เฮย เพียงจิตสนิทคล้อย.....................เกี่ยวก้อยคอยเคียง ๚ ...๑๒... .....แดงฉานบานเบ่งแล้ว...............กุหลาบงาม ชูช่อรอหลายยาม.........................คร่ำแล้ว มีสลิลลี่ผมถาม............................ตามส่ง- ถึงแม่ มอบมั่นสคราญแพร้ว...................พร่างพริ้มพิมพ์ใจ ๚ ...๑๓... .....เกินคำพิร่ำร้อง.......................รจนา เกรงกริ่งประวิงครา.......................คลาดคว้าง เพียงใจสั่งมาหา...........................อนงค์พี่ ขออย่าผละละขว้าง.......................อย่างไร้ไมตรี ๚ ...๑๔... .....แหวนวงตรงบ่งนิ้ว-...................นางเรียว งามเฮย พลาดมั่นวสันต์เดียว.......................เปลี่ยวแท้ ใจชายพิไรเหลียว...........................เชียวแม่ อนงค์เอย บวชก่อนเบียดเครียดแล้..................แต่เศร้าเราเหวย ๚ะ๛
4 กันยายน 2546 11:20 น. - comment id 165290
จ้า...
4 กันยายน 2546 17:01 น. - comment id 165372
กลายเป็นหนุ่มเสียแล้ว คุณอัลมิตรา
4 กันยายน 2546 20:47 น. - comment id 165419
ผู้หญิงไร้เงาเคยได้ยินแต่มนต์รักลูกทุ่ง วันนี้มีมนต์รักลูกกรุงด้วย ดีจังเลยค่ะ แสดงว่าลูกทุ่งกับลูกกรุงมีคนรักเท่ากันเสียที
4 กันยายน 2546 20:52 น. - comment id 165421
แวะมารื่น ชื่นชม คารมปราชญ์ ความสามารถ มีทุกรส บทให้อ่าน รู้กลบท จดโคลงสี่ วิชาการ สุขสำราญ ยิ้มแย้มใจ เมื่อได้ยล
4 กันยายน 2546 21:15 น. - comment id 165431
น้าสิบ ..สวัสดีค่ะ คุณคนผ่านมา..:) คุณผู้หญิงไร้เงา .. เคยเขียนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ ตอนนี้รวบมาไว้ในhistory เดียวกันค่ะ .. คุณชัยชนะ.. ขอยิ้มรับกระชับกับบทถ้อย ที่เรียงร้อยกล่าวเกริ่นเชิญแทนขวัญ หากยังด้อยอรรถรสบทรำพัน อัลมิตราจำขยันหมั่นฝึกตน .. :)
4 กันยายน 2546 21:57 น. - comment id 165455
....ได้ไอติมสักแท่งสีแดงน่ายล มีน้องหน้ามลเดินชิมกันมา โอ้โคลงมนต์รักลูกกรุงนั้นพา สมคำกล่าวว่าดีจัง.... ................สวัสดีครับ................
4 กันยายน 2546 22:10 น. - comment id 165462
คุณใบบอนแก้ว...แบ่งกันจะพอทานไหมนั่น แท่งเดียวเองนะคะ.. หนุ่มลูกทุ่งมุ่งมาหาสาวน้อย หวังโคลงร้อยความนัยว่าใจหมาย ปลอมเป็นหนุ่มลูกกรุงยุ่งแต่งกาย จึงไปสายเลยเก้อ..เพ้อลำพัง