จากแรกเริ่มดรุณวัยไร้เดียงสา มือไขว่คว้ายึดมั่นฉันเจ้าของ โตมาเสาะสินทรัพย์แย่งจับจอง พาให้ต้องทุกข์ท้นทุรนทุราย หลงอัตตาตัวตนจนเกินเหตุ เป็นประเภทฟั่นเฟือนเลือนจุดหมาย ปล่อยใจตามความอยากที่มากมาย ชีวิตกลายกลัดกลุ้มไฟสุมทรวง ท่ามกลางการแก่งแย่งการแข่งขัน การแบ่งปันมิอาจแทนการแหนหวง จนสังคมจมบาปหลงภาพลวง พลอยผลพวงชักพาถึงฆ่าฟัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน เป็นจุดอับจุดอ่อนซ่อนโทษทัณฑ์ กลายจุดผันผลักไสให้เลวทราม คือรากเหง้าเหล่านี้ที่เห็นทั่ว คนลืมตัวลืมตรองกลับมองข้าม โลภโกรธหลงเหลวไหลเฉกไฟลาม ยากมีความสุขสงบให้พบพาน ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว
16 มิถุนายน 2546 15:49 น. - comment id 147468
หลงอัตตา มัวเมา เอาว่าแน่ ไม่ได้แคร์ คนอื่น ยังรื่นชั่ว บาปอันใด อย่างไร ไม่เคยกลัว เห็นแก่ตัว ตัณหา มาสิงตน... แวะมาสวัสดีครับ...
16 มิถุนายน 2546 15:55 น. - comment id 147473
กลอนงามไว้เตือนใจ
16 มิถุนายน 2546 16:15 น. - comment id 147478
เก่งจังเลยค่ะ ผู้หญิงไร้เงาแต่งกลอนลักษณะนี้ไม่เป็น แต่ก็ชอบอ่านะค่ะ
16 มิถุนายน 2546 16:56 น. - comment id 147492
วิถีวิถีนี่แหละทาง ตัณหาแสนกว้างตามวิถี มีมากก็อยากมากท้นทวี พอไม่มีก็ยังอยากมีมากตาม มาเยี่ยมมาเยือนครับ
16 มิถุนายน 2546 17:14 น. - comment id 147498
โห ในรอบสัปดาห์ กลอนนี้ เจ๋งสุด
16 มิถุนายน 2546 18:40 น. - comment id 147534
เพราะครับ ชอบเลยอันนี้
16 มิถุนายน 2546 18:56 น. - comment id 147541
จากแรกเริ่มดรุณวัยไร้เดียงสา มือไขว่คว้ายึดมั่นฉันเจ้าของ โตมาเสาะสินทรัพย์แย่งจับจอง พาให้ต้องทุกข์ท้นทุรนทุราย หลงอัตตาตัวตนจนเกินเหตุ เป็นประเภทฟั่นเฟือนเลือนจุดหมาย ปล่อยใจตามความอยากที่มากมาย ชีวิตกลายกลัดกลุ้มไฟสุมทรวง ท่ามกลางการแก่งแย่งการแข่งขัน การแบ่งปันมิอาจแทนการแหนหวง จนสังคมจมบาปหลงภาพลวง พลอยผลพวงชักพาถึงฆ่าฟัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน เป็นจุดอับจุดอ่อนซ่อนโทษทัณฑ์ กลายจุดผันผลักไสให้เลวทราม คือรากเหง้าเหล่านี้ที่เห็นทั่ว คนลืมตัวลืมตรองกลับมองข้าม โลภโกรธหลงเหลวไหลเฉกไฟลาม ยากมีความสุขสงบให้พบพาน ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว (นี่เป็นอีกเวอร์ชั่น ต่างกันเล็กน้อย อิอิ)
16 มิถุนายน 2546 21:18 น. - comment id 147579
ขอบคุณค่ะ ทุกๆท่าน ลุงเวทย์คะ .. ลงเสียง สระเอว .. หาคำยากจัง ยังไม่ค่อยพอใจเลยค่ะ นี่..ไว้คราวหน้าแก้ตัวใหม่ค่ะ
16 มิถุนายน 2546 22:11 น. - comment id 147600
ดอกเยาว์ หากเปรียบชีวิตนี้ดังดอกไม้ ก็คลับคล้าย คลับคลา ดวงดอกฝัน ดอกเยาว์วัย หวานแฉล้ม ต้นวัยวัน บริสุทธิ์สั้น แสนดี วันวัยเยาว์ แล้วดอกโศก เริ่มแย้มบาน เมื่อรู้รัก ซึ้งประจักษ์ เล่ห์กลกาม จนใจเขลา ดอกเสน่หา ผุดงอกงาม แทนดอกเยาว์ เมื่อสองเรา แลกรสรัก รู้รสกัน ดอกราโรย เริ่มบาน ไร้รักแท้ ผ่านเกมแก้ เกมกาม จนเลิกฝัน ดอกความจริง ผุดสอนใจ ทุกคืนวัน ดอกสวรรค์ ลอยลาลับ ลงลานดิน ดอกดวงใจ แม่พ่อ เพาะบานใหม่ วนเวียนไป เป็นดอกเยาว์ มิรู้สิ้น ดอกโศกบาน ดอกรักร่วง พราวสู่ดิน บานมิสิ้น ดวงดอกไม้ ชดใช้กรรม!
17 มิถุนายน 2546 07:47 น. - comment id 147669
กลอนงามแท้พี่อัลคนงามของนิ คันมืออิอิ แต่เด็กน้อย ศึกษา หาวิชา เติบใหญ่มา สะสม สินออมทรัพย์ เฒ่าแล้วเฝ้า ค้นหา ภูมิธรรมสรรพ สามวัยปรับ ตามครู ผู้สอนสั่ง แต่เด็กน้อย เล่นสนุก ไม่เดียงสา เติบใหญ่กล้า มุ่งหา มาสะสม ทำธุรกิจ กำไร ตัณหาบ่ม เร็วหมักหมม รีบเร่ง ร้อนร้ายกลาย จิตเดิมที สติมี เพียงไม่รีบ เป็นประทีป ครอบครัว ตัวใฝ่ฝัน ชนะใครล้วน ตัวตน ไม่สำคัญ ชนะจิตตน ตั่งมั่น ไป่นิวรณ์ ใจสูงส่ง คงสติ ดูจิตนิ่ง ได้ละทิ้ง ทางหมอง หมางห่างหาย ปะร้ายมา ใจมั่น ไม่คลอนคลาย ดังแก้วเก้า พรรณราย สถิตวิมาน มหาสติ ปัฏฐาน สูตรพุทธองค์ มั่นดำรงค์ รั้งใจ สงบสงัดเหมือน เสพทิพย์ธาร ธารา ทุกคลาเยือน อย่าแชเชือน เรือรอง ผ่องอำไพ ขออภัยเขียนจากอารทย์กลอน วอนผู้รู้เมตตา อภัยนิ
17 มิถุนายน 2546 10:21 น. - comment id 147697
ลูกลิงไม่ยักเยื้องคำเองตะหาก แทนที่จะเป็นคนคุมคำ กลายเป็นให้คำมาคุม
17 มิถุนายน 2546 11:12 น. - comment id 147698
จากแรกเริ่มดรุณวัยไร้เดียงสา มือไขว่คว้ายึดมั่นฉันเจ้าของ โตมาเสาะสินทรัพย์แย่งจับจอง พาให้ต้องทุกข์ท้นทุรนทุราย หลงอัตตาตัวตนจนเกินเหตุ เป็นประเภทฟั่นเฟือนเลือนจุดหมาย ปล่อยใจตามความอยากที่มากมาย ชีวิตกลายกลัดกลุ้มไฟสุมทรวง ท่ามกลางการแก่งแย่งการแข่งขัน การแบ่งปันมิอาจแทนการแหนหวง จนสังคมจมบาปหลงภาพลวง พลอยผลพวงชักพาถึงฆ่าฟัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน เป็นจุดอับจุดอ่อนย้อนโทษทัณฑ์ เป็นจุดผันผลักไสให้ทำเลว ที่ใจสูงเคยงามตามปรากฏ มาถูกปลดเขวี้ยงทิ้งให้ดิ่งเหว จากความดีก็ผละมาคละเลว ธรรมจึงเหลวแหลกยับไปกับกาล ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว งั้น..อัลมิตราแก้ตามลุงนะคะ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน เป็นจุดอับจุดอ่อนซ่อนโทษทัณฑ์ กลายจุดผันผลักไสให้เลวทราม คือรากเหง้าเหล่านี้ที่เห็นทั่ว คนลืมตัวลืมตรองกลับมองข้าม โลภโกรธหลงเหลวไหลเฉกไฟลาม ยากมีความสุขสงบให้พบพาน ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว .... ขอบคุณค่ะ คุณน้ำ คุณพุดพัดชา