@ เย็นละไมไอละอองของอากาศ สายฝนสาดซ่านกระเซ็นเป็นฟองฟอย เย็นยะเยียบหยาดยะยาบทาบดินรอย ราวกวีที่เรียงร้อยลงรอยดิน @ โลกเรานี้มีตำนานการพลัดพราก จำใจจากยากบรรจบสบถวิล เป็นตำนานเล่าขานมาคู่ฟ้าดิน ยังแว่วยินให้ได้ยลยามฝนมา @ แต่แรกเริ่มเดิมทีที่โลกเกิด ฟ้าบรรเจิดดินบรรจบคู่คบหา สนิทแนบอิงแอบจิตชิดกายา โอบกอดฟ้าบรรจงจูบลูบผิวดิน @ อันความรักหวานล้ำมักซ้ำซาก หวานนั้นยากจักคงอยู่คู่ธรรมศีล มิเว้นแม้แต่ความรักของฟ้าดิน ยังแยกผินแลผกผันห่างกันไกล @ กาลต่อมาคู่ดินฟ้าถึงคราห่าง เว้นที่ว่างเอาไว้จัดสัตว์อาศัย เกิดพืชพันธุ์อันหลายหลากแลกว้างไกล ให้ชีวิตทั้งน้อยใหญ่ได้เกิดตาย @ แม้นพบหน้าไม่อาจพากายาใกล้ ได้ดั่งใจสมจิตปองประคองหมาย ฟ้าทำได้เพียงหลั่งน้ำตาด้วยอาลัย ดินทำได้เพียงมอบดอกไม้ปลอบใจฟ้า
11 มิถุนายน 2546 14:07 น. - comment id 146411
ธรรมติต่างลิขิตสรรพชีวิต ให้ยึดติดตอบสนองครรลองผล หยาดน้ำฟ้าร่วงหล่นมาราดกมล ล้างตัวตนบ่มดอกดิน ให้เบ่งบาน หายไปนานนะครับเจือจันทร์ นาน ๆจะได้อ่านบทกวีงามสักที กลับมาก็เพราะเหมือนเดิม แฝงฝังด้วยคติและแง่คิดลุ่มลึกครับ
11 มิถุนายน 2546 14:09 น. - comment id 146414
โอบกอดฟ้าบรรจงลูบจูบผิวดิน ได้แต่กลิ่นเหม็นเน่าเคล้าขยะ ลูบตรงไหนไม่พ้นมลภาวะ จะหันหน้าพึ่งพระก็เจอซอง.... ไปทางไหนดีหว่า
11 มิถุนายน 2546 17:07 น. - comment id 146453
ชอบชื่อกลอนจังค่ะ กลอนเพราะมากนะคะ เลยจะเก็บ ................................................... :)
11 มิถุนายน 2546 18:29 น. - comment id 146474
ฟ้ากับดินนั้นยังใกล้กันไม่ได้ ฉันจึงต้องทำใจให้ได้ก่อน เพราะขนาดดินกับฟ้ายังลาจร ฉันจึงขอลืมเธอก่อนจะร้อนใจ อิ อิ ***แวะมาทักทายนะค่ะ กลอนบทนี้น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ***
11 มิถุนายน 2546 19:03 น. - comment id 146488
เย็นละไมไอละอองของอากาศ โลกเรานี้มีตำนานการพลัดพราก อันความรักหวานล้ำมักซ้ำซาก ฟ้าทำได้เพียงหลั่งน้ำตาด้วยอาลัย เพราะจับใจแท้กลอนฟ้าดินรึ ฟ้ารักแท้แม้ดินถิ่นพงษ์ไพร ด้วยหัวใจแลกใจจึงได้ไสว กล่อมชาวดินถิ่นฟ้าพร่ำพิไร ฟ้าสบดินอำไพณ.ปรายฟ้างาม อิอิ แซวนิ
11 มิถุนายน 2546 19:56 น. - comment id 146512
เขียนกลอนเพราะฝนตกไม่แปลก แต่อย่า..ให้ฝนตกในหน้าต่างนะ.. เศร้า
12 มิถุนายน 2546 00:53 น. - comment id 146579
เพิ่งลง..สั่งฟ้าฝากดิน..ไปค่ะ น่าจะขอใช้บทกวีแสนงามนี้ไปประกอบนะคะ คิดถึงและชอบตามอ่านงานมานานแล้วนะ
12 มิถุนายน 2546 08:39 น. - comment id 146595
ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็นดีๆเคล้ากลิ่นไมตรีที่หยิบยื่นให้ ลำน้ำน่าน... ฤกษ์ ชัยพฤกษ์...ฟองอากาศ...ผู้หญิงไร้เงา...น้ำ.....สีน้ำฟ้า...พุด... เราพบกันแล้ว..ในนามความรู้สึก จากใจเจือจันทร์
12 มิถุนายน 2546 16:21 น. - comment id 146725
ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าเพื่อนเราจะแต่งกลอนได้เพราะขนาดนี้ ยังไงเราก็ขอให้นายแต่งกลอนแบบนี้ต่อไปนะจะเป็นกำลังใจให้เสมอ ถ้าเปรียบตัวเองเราก็อยากเป็นดอกไม้ดินอย่างที่นายว่าไว้ละมั้ง
12 มิถุนายน 2546 16:29 น. - comment id 146729
เพราะมากเลยนะเจ้าคะ หายไปนาน พอนายโผล่มาอีกที ก็ทำให้สาวสาวหลายคน หัวใจสั่นเชียวนะเจ้าคะ กลอนก็เพราะ คนก็งามนำใจเลิศ ชอบมากมาก ตะลึงเลยล่ะ จะขอเป็นแรงใจไม่ไกลห่าง... ระยะทางอาจทำให้หวั่นไหว... จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอไป... ฝากหัวใจ...วิญญาณผ่านกวี... ดีใจนะคะ ที่เจือจันทร์ ตั้งใจทำในสิ่งที่รักและมีความสุข ขอให้แต่งกลอนเพราะเพราะให้คนน่ารักน่ารักอ่าน ตลอดไปนะคะ
12 มิถุนายน 2546 16:40 น. - comment id 146737
นายเนี่ยนะ อัจฉริยะจริงจริงเลย แค่อ่านก็ปลื้มมากเลย ไม่เคยคิดว่าความรู้สึกที่ลึกซึ้งจะมีในใจผู้ชายที่อ่อนโยนเช่นนี้ เพื่อนทุกคนขอเป็นกำลังใจให้นายเสมอนะ จะรออ่านบทกลอนทุกบทที่นายแต่ง เรารู้ว่านายทำได้นะเพื่อน คงจำได้
13 มิถุนายน 2546 18:18 น. - comment id 146927
ช่างเป็นกลอนที่ไพเราะยิ่งนัก
15 มิถุนายน 2546 12:58 น. - comment id 147234
เจือจันทร์ หนอกระไร ช่างไพเราะ เขียนเสนาะ เนื้อหา อารมณ์ฝัน ขอมาอ่าน บ่อยบ่อย ก็แล้วกัน เผื่อมีวัน เขียนดีเหลือ เหมือน เจือจันทร์