...อย่าตัดพ้อต่อว่าเมื่อคราห่าง ไม่แรมร้างลืมไปคิดไขว้เขว ควรยึดมั่นกันป่วนเกิดรวนเร การคะเนคาดผ่านจะรานใจ คอยตระหนักสักหน่อยแล้วค่อยว่า วันเวลาผ่านผันหรือหวั่นไหว ลองมองนึกตรึกตรองแล้วมองไป เป็นจริงไหมที่เห็นเรื่องเป็นมา นึกสักนิดคิดนึกลึกลึกเถิด เล่ห์ร้างเกิดหันเหเสน่หา นั่นเพราะใจไม่มั่นนะขวัญตา ใช่เพราะว่าเปลี่ยนไปเมื่อไกลกัน น่าเข้าใจในคราที่ลาห่าง ทุกหนทางมีทุกข์และสุขสันต์ ถึงครั้งนี้ที่พึ่งในหนึ่งวัน คือคงมั่นสัตย์ซื่อลืมหรือไร ลองนึกย้อนก่อนน้องจะหมองหม่น ที่สองคนเรานี้อยู่ที่ไหน เริ่มรู้จักรักเพิ่มต่อเติมใจ นานเท่าไหร่ที่ผ่านนะกานดา จึงขอพ้อต่อถึงใครซึ่งห่วง ฉันเฝ้าหวงผูกพันกระสันหา นับวันชื่นคืนรับการกลับมา คำต่อว่าเลิกทำขอพร่ำวอน... ....บังคับพิเศษ....-ซ้ำเสียงสระในคำที่ 1,5,7
7 มิถุนายน 2546 23:45 น. - comment id 143892
แต่งได้งามครับ ความหมายก็ดี พยายามต่อไปนะครับ จะติดตามอ่านผลงานครับ
8 มิถุนายน 2546 12:47 น. - comment id 143961
:)
8 มิถุนายน 2546 13:14 น. - comment id 143965
....แว่ววิหกผกผินบินจากไม้ ประดุจใจตรอมตรมระทมฝืน ต้องจากน้องคนงามข้ามวันคืน แสนขมขื่นขัดข้องใจมองตาม .....จากรวงรังยังห่วงกลัวร่วงหล่น ครั้งลมฝนโดยกายให้พรั่นขาม คล้ายแว่วเสียงสำเนียงร้องเรียกนาม พี่คนงามยามนี้...อยู่ที่ใด...
8 มิถุนายน 2546 16:36 น. - comment id 143993
คราจากไกลใจพาต้องลาจาก ขอเพียงฝากให้รอพนอขวัญ ฟ้าแสนไกลใฝ่หาทั่วหล้าพลัน สองกายนั้นมั่นครองด้วยปองใจ....ฯ ขอร่วมแต่งกลอนกลบทด้วยค่ะ..อยากฝึกหัด..เพราะแต่งไม่เป็น...ขอคำชี้แนะด้วยนะคะ... บทกวีไพเราะมาก..ให้ความหมายที่ดี..จะติดตามต่อไปค่ะ..ชื่นชมด้วยใจจริงค่ะ..
9 มิถุนายน 2546 16:39 น. - comment id 144194
เป็นการใช้คำที่เก่งมากเลยค่ะ แวะมาชื่นชมนะค่ะ