ยินเด็กเด็กบ้านท่า กุดปลาขาว มันมาเล่าขานกัน เมื่อวันก่อน ว่าเด็กชาย ชาวนา หน้าวัดดอน จะแรมรอน ตามพ่อ ไปขอทาน ก็ปีก่อน ฝนแล้ง จนแห้งผาก ผืนนาตาก แดดแรง แข็งจนกร้าน นาที่ทำ ไม่ได้กิน เป็นดินดาน ข้าวที่หว่าน แห้งตาย ให้ควายเล็ม พอปีนี้ ฝนหนัก ทะลักล้น เหมือนแกล้งก่น ชะตา เมฆหนาเข้ม พากันหอบ พัดมา ฝนฟ้าเต็ม เหงื่อขมเค็ม หยาดลงไป ไม่ได้คืน เงินของพ่อ ร่อยหรอ ไม่มีเหลือ แม้จะเผื่อ กินมั่ง ก็ยังฝืน ซ้ำแม่ป่วย ตรอมตรม ล้มทั้งยืน เงินจะคืน ธกส. ก็ไม่มี เขาจะยึด นาเรา เอาไปแล้ว เสียงพ่อแผ่ว ขายควาย ไปใช้หนี้ เหลือเศษเงิน ขอดเอา ก็เท่านี้ เหลือทางมี สุดท้าย เข้าในเมือง นั่งแบมือ ถือกะลา มาขอเงิน ออกย่ำเดิน หวังเพียงถึง สลึงเฟื้อง ขอเศษใจ คนกรุง คนรุ่งเรือง พอฐานะ กระเตื้อง ก็คืนนา เด็กน้อย ใจหาย อยากไปเรียน ไปขีดเขียน เพียรถือ หนังสือหนังหา เก็บสมุด ดินสอ รอวันกลับมา จะท่องบ่น ตำรา หาความรู้ แต่วันนี้ ข่มใจ ไม่สะอื้น แกล้งทำท่า หน้าชื่น ยืนหยัดสู้ เพราะตกยาก ลำเค็ญ ก็เห็นอยู่ มาลาครู ตามพ่อ ไปขอทาน -(ม้าก้านกล้วย)-
17 กันยายน 2544 20:51 น. - comment id 11913
อ่า...เป็นอีกมุมหนึ่งในสังคมบ้านเราที่ลึกมากจนบางครั้งมองเข้าไปไม่ลึกถึงแก่นแท้ของปัญหา..ม้าก้านกล้วยบรรยายออกมาได้ลึกซึ้งมากอ่านแล้วซึมไปเลย
4 มีนาคม 2545 23:33 น. - comment id 38666
อ่านแล้วสะเทือนใจจริงๆค่ะ มองเห็นภาพได้เลย พี่เขียนได้สุดยอดๆๆๆ ไม่ได้แกล้งชมเลย แต่พูดจากใจค่ะ เพราะเจทท์อ่ะ ชมคนยากนะพี่ม้านะ T-T งืออ...
5 มีนาคม 2545 20:26 น. - comment id 38808
poemdata.asp?id=7042
5 มีนาคม 2545 21:21 น. - comment id 38821
อ่านแล้วสะเทือนใจไปเลยนะ เขียนได้กระแทกใจมากเลยค่ะ คำเรียบง่ายแต่บรรยายได้ชัดเจน
11 กันยายน 2553 17:48 น. - comment id 102513
สงสารเด็กน้อยจัง