..นิราศนีลรัตนชาติคูหา…ตอนที่ ๒..( นิราศถ้ำมรกต )…..

อัลมิตรา


๑๑. 
.....ปลาจาระเม็ดน้อย...................เริงชล 
ปลาหมึกปลาทูปน.......................เม่นน้ำ 
ปลาดาวคืบคลานรน-...................รานหลบ 
ปลิงมากหลากดูคล้ำ.....................ครั่นคร้ามแสยงใจ ฯ 
๑๒. 
.....ปลามากหลากแต่งแต้ม............ทะเลงาม 
หอยแปลกแทรกตัวตาม................ซ่อนเร้น 
กุ้งกั้งคับคั่งหลาม.......................เรียงขนาด 
แมงกระพรุนกระเพื่อมเต้น............ดุจอ้างนางรำ ฯ 
๑๓. 
.....ปูเสฉวนง่วนคุ้ย....................พรางตัว 
กายแบกหอยบังหัว.....................ปกป้อง 
บ้างรีบรุดซอกสลัว......................หินงอก 
บ้างมากหอยหลากพ้อง................พรั่งพร้อมตระการพรรณ ฯ 
๑๔. 
.....ปะการังช่างน้อย...................เป็นไฉน
คราวก่อนงดงามไสว...................เลื่อมแล้ 
แยกกิ่งแตกก้านไป.....................แปลกรูป 
ฤๅหมู่มนุษย์แท้..........................หักบ้างหวังเชย ฯ 
๑๕. 
.....หากมวลดอกไม้ช่าง...............สะคราญเหลือ 
ชูช่อปลาคลอเจือ.........................ชื่นใกล้ 
แอบอิงนิ่งว่านเครือ-....................พฤกษ์แผก-  พันธุ์นา 
ผ่องผุดดุจจิตรกรได้....................แต่งให้งามเสมอ ฯ 
๑๖. 
.....หวนคิดถึงแน่งน้อย................นวลลออ  แม่เอย 
ยามนั่งใครจักพะนอ.....................กล่อมข้าง 
คราวนอนปราศคำยอ...................หยอกยั่ว  แลฤา 
คืนค่ำคงอ้างว้าง...........................จิตให้อาวรณ์ ฯ 
๑๗. 
..พุดงามยามทัดข้าง.................เทียมหู  แม่เอย 
หอมเมื่อโอบอิงพธู.......................ชื่นแท้ 
มะลิที่โฉมตรู..............................เรียงดอก-  ร้อยนา 
ยังติดตรึงจิตแม้..........................ห่างเจ้าเลยสมัย ฯ 
๑๘. 
.....หินผาหาโยกย้าย...................ตามกระแส-  ธารเฮย 
เปรียบพี่มิปรวนแปร....................รักเจ้า 
ลมโกรกกระโชกแค่.....................หนาวครู่ 
พลัดพรากจักรุมเร้า.....................ร่ำไห้ใจหนาว ฯ 
๑๙. 
.....นางนวลชวนคู่พลิ้ว................บินถลา 
สยายปีกหลีกหลบครา..................คลื่นตั้ง 
เริงลมร่อนรื่นอุรา........................สุขยิ่ง  แลฤา 
พุ่งดิ่งลงทะเลรั้ง..........................จับเนื้อปลาเป็น ฯ 
๒๐. 
.....ตรึกตรองมองหมู่เจ้า................ปักษี 
คราวพี่เคียงดรุณี..........................ก่อนนั้น 
เชยชมพฤกษ์ชาติปรี-....................ดายิ่ง 
พรอดพร่ำคำหวานครั้น..................สุขพ้องสมสมาน ฉันท์เอย ฯ				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงไร้เงา

    7 พฤษภาคม 2546 15:23 น. - comment id 136147

    มีความรู้เรื่องธรรมชาติ เยอะจังเลย  ขอชมจ้า
  • ไข่เจียว

    7 พฤษภาคม 2546 15:30 น. - comment id 136150

    อ่านแล้ว กลับไปนั่งดูทะเลใหม่ ....
    คงสวยขึ้นอีกแยะเชียวค่ะ ....
  • ใบบอนแก้ว

    7 พฤษภาคม 2546 23:03 น. - comment id 136286

    ....ผมเห็นด้วยครับ....ถ้าธรรมชาติไม่ถูกทำลายเสียก่อน...
    
    .....ลอยคอจนย่างเท้า......แนบทราย
    แรงอ่อนพลันมลาย.........หมดสิ้น
    สมคำกล่าวมากมาย.........ยกย่อง
    อยากเอ่ยมิลวงลิ้น...........เล่นล้องามสม.....
    
    ...........................สวัสดีครับ.......................
  • ทะเลรัก

    8 พฤษภาคม 2546 00:24 น. - comment id 136319

    ชอบจัง พี่อัลมิตรา
    
           คลื่นหาดทรายสายลม......พัดไหว
    ตะวันงามฟ้าไกล....................ทอแสง
    ผืนน้ำพริ้วผ้าใบ.....................ลอยลม ชมไป่
    ทะเลสวยตะวันแดง................สวยงามเหนือใด
    
    ^__^
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    8 พฤษภาคม 2546 00:49 น. - comment id 136334

    ทะเลงามยามค่ำพลบ   อิงไหล่ซบไหล่นวลน้อง
    ปูปลาพากันจ้อง     พลิ้วผมคล้องเคลียแก้มนาง
    เอิบอิ่มนิ่มนงคราญ   สวยละลานทุกท่าทาง
    กุ้งกั้งคลั่งร้องคราง   ไม่อยากร้างทะเลตรัง
    
    อิอิแจมเล่นสนุก ๆง่ะ นิราศยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยายจริงๆสมที่รอคอย
  • อัลมิตรา

    8 พฤษภาคม 2546 10:46 น. - comment id 136430

    คุณผู้หญิงไร้เงา ... อยากเขียนให้ได้ดีกว่านี้นะ แต่จนใจจัง ฝีมือไม่ถึงค่ะ ธรรมชาติงดงามมาก บางอย่างอัลมิตราไม่รู้จะสรรคำอย่างไรมาเทียบดี
    
    คุณไข่เจียว ..ใช่เลย อยากไปอีกครั้ง มีความตั้งใจไว้ค่ะ
    
    คุณใบบอนแก้ว ..:) เหนื่อยแต่มีความสุขใจนะ เป็นเช่นนั้นมั๊ย
    
    คุณทะเลรัก ..น่ารักจัง เขียนได้น่ารัก
    
    คุณฤกษ์..แน๊ ไม่ตามอ่านจะโกรธด้วย มีอย่างที่ไหน ทวงต้นฉบับ ..555 ปั่นจนหวัดกำเริบอีกแล้วนะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน