วัฎฎะเวิ้งว้างกว้างนัก ต้นปลายหรือจักมองเห็น สะสมอนุสัยกิเลสเป็น ปมเด่นอวิชชาพืชพันธุ์ คนชั่ว..ไม่กลัวชั่วผล คนชั่วอยากเสียจนสุดกระสัน โหมฮึกห้าวหาญฟาดฟัน เหยียดฟ้าไม่พรั่นธรณี คนพอ..ขอมีแค่พอ ไม่พ้อพรึงพรั่นหวั่นหนี ดำเนินตามความพอดี แก้ไขตามที่เหมาะตน คนพบ..ขอจบทุกสิ่ง หยุดนิ่งไขว่คว้าหาผล ไม่ต้านสรรเสริญสุขตน ไม่ต้านลาภผลยศใด คนพบ.เพียงรู้ตามจริง ทุกสิ่งย่อมมีมาได้ มีแล้วก็พรากจากไป ไตรลักษณ์ประจักษ์ฤดี มองตาม..มองตน..ค้นพบ ดื่มด่ำความสงบขณะนี้ สุดทางแห่งมรรคสามัคคี จักหนีพ้นได้อย่างไรกัน
28 เมษายน 2546 21:52 น. - comment id 132556
คนพบ.เพียงรู้ตามจริง ทุกสิ่งย่อมมีมาได้ มีแล้วก็พรากจากไป ไตรลักษณ์ประจักษ์ฤดี ...ชอบอันนี้อ่ะค่ะ สนับสนุนนะ อิอิ
29 เมษายน 2546 01:38 น. - comment id 132703
เป็นธรรมะ ธรรมชาติธรรมดา ที่สถิตอยู่ที่ใจเราเอง แต่ยากนักที่จิตมนุษย์นี้ไซร้จะยากหยั่งถึงด้วยมัวค้นหาและหลงสุขจากภายนอกเสียมากกว่า..จนเวียนวนไม่พ้นทางกรรมวกวนเวียนว่าย..ราวกับอยู่ในทะเลโลกย์ยึดโศกสุขจนยิ่งหลงทางห่างฝั่งฝันพระนิพพาน..ด้วยไม่ว่าง วาง ไม่พอ.. พุดพัดชา
29 เมษายน 2546 13:14 น. - comment id 132933
...ต่างหลงไขว่คว้าอากาศ มุ่งมาดในสิ่งเพ้อฝัน เวลาผ่านล่วงนานวัน ยึดมั่นพูนพอกหลอกตน ..เห็นผิดว่าถูกเป็นนิจ เห็นผิดไปนอกเหตุผล เห็นผิดว่าเป็นตัวตน เห็นผิดจากหนทางธรรม...
17 พฤษภาคม 2546 18:25 น. - comment id 138985
เห็นผิดว่าคืออัตตา เห็นผิดมรรคาสุขไซร้ เห็นผิดนั้นหรือที่ใจ เห็นผิดจากในพระธรรม...ฯ ให้ข้อคิดมากมายค่ะ..ชอบมากค่ะ.
22 พฤษภาคม 2546 00:20 น. - comment id 139936
มองท้องนาและฟ้ากว้าง โลกนี้อ้างว้างนักหนา คนเขลาคร่ำครวญวาจา ร้องขอให้ฟ้าเห็นใจ ฟ้าตอบ...นี่แน่ะคนเขลา ตัวเจ้าก็คือโลก..เห็นไหม หาได้อ้างว้างห่างไกล ความพินาศอยู่ในใจทุกคืนวัน จงมองตนเองให้เห็นชัด และจงฝึกหัดมุ่งมั่น ความพินาศเกิดดับฉับพลัน ที่ในปัจจุบันฐานธรรม มาอ้อนวอนขอสิ่งใดเล่า ความพินาศในใจเจ้า..ไม่พอหรือ โลกภายนอกมิใช่สิ่งควรฝึกปรือ ทำลายโลกที่ยึดถือคือตนเอง ...ขอบคุณครับราชิกา.....