ลำนำเลือด

เวทย์

(๑) 
มีเรื่องราวเลวร้ายอยู่หลายหลาก
ซ่อนหลังฉากลวงตาน่าเลื่อมใส
บนเส้นทางยุติธรรมงำเลศนัย
แฝงพิษภัยสารพัดของสัตว์คน
เมื่อกระบวนพิจารณาอันน่าเบื่อ
ถูกใช้เพื่อปรุงแต่งแปลงเหตุผล
พร้อมพร้อมกับนักกฎหมายร้ายเล่ห์กล
ได้ขายตนอย่างอุบาทว์เป็นทาสเงิน
ใช้กฎหมายกลายบทมุ่งกดขี่
สร้างอัปรีย์จนเปรอะไม่เคอะเขิน
จนกฎหมายหลายฉบับฉีกยับเยิน
หลังถูกเมินคุณค่าถูกท้าทาย
บริสุทธิ์ยุติธรรมถูกย่ำเหยียบ
แบบระเบียบบิดเบือนเลือนจุดหมาย
ฉุดความหวังสังคมล้มละลาย
ขื่อแปกลายย้อนกลับทับผู้คน
กูนี่แหละกำลังจะฉีกกระชาก
ถอดหน้ากากกำมะลอพวกฉ้อฉล
ให้แจ่มแจ้งประจักษ์ตามหาชน
ให้ตื่นตนต่อสู้กู้สิทธิ์คืน
หนึ่งชีวิตหนึ่งฝันบัณฑิตหนึ่ง
ได้รู้ซึ้งรู้สึกสะอึกสะอื้น
กี่คนยากถูกย่ำทุกข์กล้ำกลืน
กี่ขมขื่นคนดีถูกบีฑา
มันเกินที่ทนดูแล้วอยู่นิ่ง
ให้เห็นจริงจะแจ้งแจงปัญหา
ถึงคราวต้องดีเดือดเลือดเข้าตา
เอาชีวาทดแทนคุณแผ่นดิน
 
(๒)
ประวัติศาสตร์ชาติไทยได้บันทึก
ความรู้สึกอดสูมิรู้สิ้น
ครั้งพระจุลจอมเกล้าเจ้าแผ่นดิน
ต่างด้าวหมิ่นอธิปไตยของไทยเรา
ว่าศาลไทยไร้หลักจักเชื่อถือ
ต้องเอื้อมมือมาคุ้มครองคนของเขา
แค่สายเลือดชาวฝรั่งยังทำเนา
แต่เล่นเหมาทุกชาติเชื้อเหลือวุ่นวาย
ขอสิทธิสภาพนอกอาณาเขต
โดยอ้างเหตุบกพร่องของกฎหมาย
ว่าเปิดทางอยุติธรรมมากล้ำกราย
คือฝันร้ายยุคล่าอาณานิคม
ด้วยเดชะพระปรีชามหาราช
ทรงนำชาติพัฒนาสง่าสม
ตรากฎหมายเมืองสยามตามนิยม
คลี่คลายปมปัญหาอย่างถาวร
กระบวนการยุติธรรมสำคัญไฉน
ความเป็นไปที่ผ่านมาอุทาหรณ์
เฉกหลักค้ำสำคัญหากสั่นคลอน
จะเดือดร้อนกลีรุมราวสุมไฟ
เหลิงอำนาจอาจนำขาดสำนึก
ถลำลึกลงเหวความเหลวไหล
ละหลักการกฎเกณฑ์ควรเป็นไป
อำเภอใจทุจริตก่อพิษพาล
บริสุทธิ์ยุติธรรมนำทางชอบ
คือระบอบบำบัดทุกข์สร้างสุขศานต์
ยิ่งโลกาภิวัตน์ชัชวาล
ขื่อแปบ้านยิ่งสำคัญต้องมั่นคง
เพื่อชาติไทยเทียมหน้าอารยชาติ
ประวัติศาสตร์ย้ำเตือนอย่าเลือนหลง
ต้องเอาความชอบธรรมนำจำนง
ต้องยืนยงยุติธรรมค้ำสิทธิ์ชน
(๓)
จากจารีตนครบาลกาลกระโน้น
ค่อยอ่อนโอนเนื่องนำอำนวยผล
กฎหมายไทยพัฒนาเป็นสากล
อนุสนธิ์งานทรงองค์รพี
ตั้งพระทัยแน่วแน่แก้ปัญหา
พระปรีชาเชิงปราชญ์วาดวิถี
หนึ่งคือการกำหนดกฎหมายดี
สองต้องมีตุลาการพิจารผจง
เพราะแม้กฎตีกรอบดีชอบแล้ว
คนแหวกแนวแชเชือนเลอะเลือนหลง
ก็วุ่นวายเวียนวกเข้ารกพง
ลาญจำนงจนวินาศอนาถใจ
นอกจากทรงอุตสาหะชำระบท
ยังกำหนดแนวแบบยลแยบให้
สร้างวิถียุติธรรมอันอำไพ
มุ่งพระทัยพัฒนาตุลาการ
โดยพระทรงดำรงตนเป็นต้นแบบ
การุณย์แทบพระบาทไท้แผ่ไพศาล
พระดำรัสสูงส่งทรงประทาน
ก้องกังวานอยู่ในหัวใจคน
 เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าหรอก
แต่อย่าออกนอกทางไปให้เสียผล
จงอย่ากินสินบาทคาดสินบน
เรามันชนชั้นปัญญาตุลาการ 
พระบิดาแห่งกฎหมายไทยชูเชิด
พระเกียรติเทิดสถิตฟ้าทั่วหล้าขาน
ยิ่งสืบผลแห่งพระปณิธาน
เป็นรากฐานยุติธรรมค้ำแดนไทย
รอยพระบาทยาตรนำธำรงค่า
ยั่งยืนกว่ากัปกัลป์บันดาลไสว
พระดำรัสคติธรรมจำขึ้นใจ
เป็นผู้ให้ สมถะ สละตน
นักกฎหมายส่วนหนึ่งคำนึงแน่ว
ยึดเป็นแนวปณิธานสืบสานผล
รพีพัฒนศักดิ์สลักกมล
คอยช่วยดลยุติธรรมชี้นำทาง
(๔)
จากบันทึกบนบรรทัดประวัติศาสตร์
เราสามารถย้อนมองเห็นช่องว่าง
ความเปลี่ยนแปรเป็นไปไร้กรอบวาง
จึงระหว่างวิวัฒน์วิบัติเบียน
โดยพื้นฐานคนไทยไม่ยึดหลัก
แต่ชอบจักคอยตะแบงดัดแปลงเปลี่ยน
กี่แผนบทกำหนดแน่วแนวจำเนียร
ผลผิดเพี้ยนเพราะผู้นอกลู่ทาง
ต้องมีคนกวดขันหมั่นกำกับ
คอยบังคับบัญชาอย่าเว้นว่าง
หากโอนอ่อนผ่อนปรนผลอับปาง
อย่าเหินห่างเผลอให้อยู่ไกลตา
เพราะทำได้ตามใจคือไทยแท้
คำเก่าแก่ที่นับวันสร้างปัญหา
คนในชาติขาดวินัยแต่ไรมา
จนลูบหน้าปะจมูกไม่ถูกควร
บ้างไม่ยอมหยิกเล็บกลัวเจ็บเนื้อ
น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าพาผันผวน
แถมผักชีโรยหน้ามาเป็นพรวน
ลืมทบทวนผิดถูกปลูกฝังกัน
ยลเยี่ยงศรีธนญชัยใช้ประพฤติ
กลับหลงยึดเอาอย่างไม่สร้างสรรค์
บางคนเปลี่ยนจุดหมายเป็นรายวัน
เห่อแฟชั่นตามกระแสปรวนแปรนัก
หลังวัตถุนิยมผูกปมเงื่อน
ยิ่งบิดเบือนสังคมจนจมปลัก
ศีลธรรมรำไรไร้รูปลักษณ์
ก็ถูกผลักเสือกไสจากใจคน
ค่าของคนคำนวณนับจากทรัพย์สิน
ย่อมสูญสิ้นอุดมการณ์พาลสับสน
จึงพลิกผันบางผู้วิญญูชน
เลือกลดตนใฝ่ต่ำยอมทำเลว
ถึงยุคที่ศรัทธาบนบ่าแบก
กลายเป็นแอกหนักอึ้งดึงลงเหว
ฝันเหมือนไฟสิ้นเชื้อไม่เหลือเปลว
ความล้มเหลวหลากล้นท่วมคนดี
ความคดโกงโยงใยแผ่ไปทั่ว
คนโฉดชั่วเชิดหน้าอวดราศี
สร้างระบบอุปถัมภ์ค้ำอัปรีย์
เป็นผู้มีอภิสิทธิ์อิทธิพล
เจ็ดสิบปีเป็นไปใต้วิกฤต
โดยลืมคิดสังเกตตรองเหตุผล
แย่งอำนาจอธิปไตยให้ปวงชน
แต่กี่คนผูกขาดอำนาจครอง
กลายเป็นว่ายถากรรมนำทางชาติ
ประชาราษฎร์ยากไร้อกไหม้หมอง
กี่คนเคยเสวยสวรรค์อันเรืองรอง
กี่คนต้องทุกข์อนาถแทบขาดใจ
กี่เลือกตั้งปฏิวัติรัฐประหาร
ยิ่งดักดานย่ำแย่ยากแก้ไข
แค่อำนาจหมุนเวียนเปลี่ยนมือไป
เพื่อถูกใช้สร้างโอกาสโกงชาติกิน
บนเส้นทางพัฒนาน่าสมเพช
นำประเทศทุกข์ทวีเพิ่มหนี้สิน
ความฟุ้งเฟ้อฝังตัวทั่วแผ่นดิน
คนเสื่อมสิ้นศีลธรรมประจำใจ
ปัญหาหนักหมักหมมสังคมทรุด
ต้องรีบหยุดวิกฤตคิดแก้ไข
คนดีต้องรวมตัวอย่ากลัวภัย
กอบกู้ไทยสู่วิถีที่ถูกควร
(๕)
กับการมีกฎหมายเป็นลายลักษณ์
ย่อมมีหลักยึดมั่นยากผันผวน
แค่ตีความตามคำตรงสำนวน
อย่าแปรปรวนเบนเบี่ยงเลี่ยงบาลี
ยืนหยัดอย่างยืดหยุ่นดุลพินิจ
สุจริตศรัทธาในหน้าที่
คอยพิเคราะห์เหมาะควรมวลคดี
โดยไม่มีเงื่อนงำเล่ห์อำพราง
ขอบอำนาจกำหนดตามกฎหมาย
หากกล้ำกรายเลยเถิดเกิดบาดหมาง
ตามครรลองต้องเน้นความเป็นกลาง
ไม่เข้าข้างคนผิดแสร้งบิดเบือน
หิริโอตตัปปะอย่าละเว้น
ถือหลักเกณฑ์กติกาอย่าคลาดเคลื่อน
มีหน้าที่ดูแลห้ามแชเชือน
ห้ามเลอะเลือนเหลวแหลกแหกหลักการ
เมื่อคำว่าบริสุทธิ์เป็นจุดเริ่ม
ย่อมสร้างเสริมยุติธรรม์บรรทัดฐาน
ปราศจากอคติครอบพิชาน
ช่วยบันดาลสังคมให้ร่มเย็น
ขอเพียงแค่คนดีมีอำนาจ
ก็สามารถสร้างสุขสร่างทุกข์เข็ญ
ปล่อยคนชั่วครอบงำคงลำเค็ญ
บังเกิดเป็นกลียุคภัยคุกคาม
เพราะอำนาจอาจใช้ในทางผิด
ทุจริตรุมถิ่นแผ่นดินสยาม
ถืออำนาจบาตรใหญ่ด้วยใจทราม
จนลุกลามเดือดร้อนอย่านอนใจ
ทั้งสังคมสมควรมีส่วนร่วม
ช่วยส่วนรวมเหลียวแลคอยแก้ไข
เสมือนมีตาวิเศษทั่วเขตไทย
ความจัญไรถอนรากยากงอกเงย
เฉกมีสงฆ์ประพฤติทรามลามเสื่อมศาสน์
ฆราวาสล่วงรู้ไม่อยู่เฉย
แต่กับภัยใกล้ตัวมัวละเลย
รอทุกข์เกยกลบหน้าช้าเกินการณ์
ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดช่วยสอดส่อง
ทุกคนต้องเป็นภาระร่วมประสาน
เอาความชั่วมากระชากลากประจาน
ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองได้เฟื่องฟู
ลองเริ่มต้นตนเองเคร่งครัดเถิด
เลิกละเมิดกฎหมายอายอดสู
เลือกเดินตามความถูกต้องลองทำดู
เริ่มจากผู้เป็นผู้ใหญ่ในแผ่นดิน
(๖)
เมียทหารอาภัพทนนับขวด
เมียตำรวจนับแบ๊งค์แหล่งทรัพย์สิน
อัยการกร่อนกลายเป็นอัยกิน
คำหยามหมิ่นย่อมมีเหตุที่มา
สังคมคนปนปะคละดีชั่ว
นั่นแหละตัวต้นตอก่อปัญหา
เอาคนชั่วอุ้มชูอยู่ตำตา
ฉะนั้นปลาร่วมข้องต้องราคี
คำจ้วงจาบฉาบฉวยช่วยคนผิด
ลองยั้งคิดย้อนครวญถ้วนวิถี
อย่าเหมาหมายทนายความทรามสิ้นดี
เพียงแต่ที่สุนัขถ่ายฝอยรายเรียง
คำเรียกขานศาลอำเภอใช่เผลอพล่อย
ตุลาการกล่าวถ้อยละห้อยเสียง
ต้องให้ความยุติธรรมกลับลำเอียง
หลบหลักเลี่ยงสีข้างถูนอกลู่ทาง
เรื่องเลวร้ายเหล่านี้มีให้เห็น
ใครเล่าเป็นธุระคอยสะสาง
ล้วนแชเชือนเฉไฉไปพลางพลาง
ดีแต่สร้างภาพหรูหลอกผู้คน
(๗)
กลียุคทุกข์ท้นทนกลืนกล้ำ
กลชอบธรรมนำเลศเหตุสู่ผล
ผลสู่เหตุเลศนำทำชอบกล
กล้ำกลืนทนท้นทุกข์ยุคกลี
ใต้ระบอบระเบียบวางสร้างระบบ
ต้องเคารพกติการู้หน้าที่
แต่ตัวบทกฎหมายมากมายมี
ตรงจุดนี้บาปเคราะห์เข้าเกาะกุม
ทุกหนแห่งแฝงเงาเหล่าจิ้งจอก
คอยกลับกลอกกลบคำทำตีขลุม
ฉกประโยชน์ยื้อแย่งเหมือนแร้งรุม
มารมั่วสุมสร้างปัญหาน่าหวั่นเกรง
กลไกความยุติธรรมควรนำสุข
กลับสร้างทุกข์ทับถมคอยข่มเหง
ปล่อยให้สุจริตชนพึ่งตนเอง
จนคว้างเคว้งหวาดผวาระอาภัย
ถูกเอารัดเอาเปรียบถูกเหยียบย่ำ
ชะตากรรมวิปริตผิดวิสัย
แทบทุกทางทุกที่มีเลศนัย
ความบรรลัยล่วงล้ำรุมย่ำยี
ดำเป็นขาวขาวเป็นดำทำกลบเกลื่อน
ล้วนบิดเบือนกลับกลายระบายสี
สร้างหลักฐานพยานเท็จเบ็ดเสร็จมี
ผลคดีสั่งได้ดังใจปอง
อำนาจสั่งเงินซื้อหรือพวกขอ
เรื่องราวก็เรียบร้อยคล้อยสนอง
ความชั่วช้าช่วงโชติโลดลำพอง
ความถูกต้องตกต่ำเห็นตำตา
กระบวนการยุติธรรมหลักค้ำสิทธิ์
ทุจริตรายรุมสุมปัญหา
กวาดฝุ่นไว้ใต้พรมหมักหมมมา
ถึงเวลาปฏิวัติกำจัดพาล
(๘)
หลักประชาธิปไตยไทยยึดถือ
กฎหมายคือแนวทางวางรากฐาน
แต่สภาพบังคับกลับหย่อนยาน
ละหลักการกลายกร่อนอ้างผ่อนปรน
เจตนารมณ์ของกฎหมายสลายลับ
ขึ้นอยู่กับอำเภอใจไร้เหตุผล
เมื่อมีความบกพร่องของบุคคล
ยิ่งสับสนสืบเนื่องเกิดเรื่องลาม
การตรวจสอบทุกส่วนล้วนข้องขัด
สารพัดยุ่งยากเป็นขวากหนาม
ทั้งผู้คนกลไกไม่คล้อยตาม
มีแต่ความเมินเฉยจนเคยชิน
ต้องเรื่องราวฉาวโฉ่โกลาหล
ค่อยมีคนใส่ใจใฝ่ถวิล
ทุกข์ชาวบ้านธรรมดาดังอาจิณ
แทบไม่ยินไม่ยลไม่สนใจ
แค่เช้าชามเย็นชามตามประสา
กี่ปัญหาที่ผ่านการแก้ไข
กี่แผนงานเงียบนิ่งทอดทิ้งไป
บ้างก็ไฟไหม้ฟางก่อนจางควัน
ในขณะประชาชนยังท้นทุกข์
ท่านกลับสุขเสมือนเทพเสพสวรรค์
เพิ่มเงินเดือนเลื่อนตำแหน่งผลแบ่งปัน
สมานฉันท์สมาคมจนกลมเกลียว
ท่านอยู่ดีกินดีมีอำนาจ
ประชาราษฎร์ยากไร้ใครแลเหลียว
มาตรฐานที่พึงเป็นหนึ่งเดียว
ยังลดเลี้ยวลักลั่นแบ่งชั้นชน
หลากตัวบทกฎหมายหลายข้อห้าม
แค่ข้อความในกระดาษปราศจากผล
ใช้บังคับอยู่บ้างกับบางคน
ที่เผลอตนไปอยู่ขวางหูตา
แม้การเลือกปฏิบัติขัดกฎหมาย
แต่เส้นสายสัมพันธ์นั้นแน่นหนา
ความเป็นธรรมที่ใครเคยได้มา
ต้องถือว่าโชคหนุนบุญอนันต์
ตราบที่กฎไม่ถูกเน้นว่าเป็นกฎ
ยังจับจดตามใจไม่กวดขัน
เหมือนไม้หลักปักเลนล้อเล่นกัน
ไม่มีวันยุติธรรมถูกคำนึง
ตราบผู้ถือกฎหมายเล่นขายของ
ความมัวหมองเสื่อมทรามลามทั่วถึง
ขณะที่คนดีทำเพียงรำพึง
ย่อมอื้ออึงเสียงสะอื้นคนขื่นใจ
(๙)
มีปลาเน่าร่วมข้องต้องกำจัด
ต้องยืนหยัดมุ่งมั่นอย่าหวั่นไหว
ยุคข้อมูลข่าวสารกังวานไกล
สามารถใช้เป็นเครื่องมือทุกสื่อกลาง
นำความรู้ความเข้าใจไปเผยแพร่
ให้ถ่องแท้เท็จจริงอาจอิงอ้าง
กระบวนการตรวจสอบเคยบอบบาง
ปรับโครงสร้างเสริมกำลังเฝ้าสังคม
การศึกษาพื้นฐานต้องขานรับ
หลักสูตรปรับเปลี่ยนใหม่ให้เหมาะสม
เอาคุณค่าแทนที่ค่านิยม
โดยระดมมันสมองช่วยตรองงาน
ทั้งสิทธิหน้าที่ชี้ให้เห็น
กำหนดเป็นแนวทางวางรากฐาน
ก่อนงอกงามความคิดจิตวิญญาณ
แตกกิ่งก้านคุณค่าปัญญาชน
ให้มองกว้างคิดไกลและใฝ่รู้
แบบอย่างผู้มีวินัยใช้เหตุผล
ยึดถือหลักพอเพียงพอเลี้ยงตน
ไม่ฉ้อฉลทุจริตมิจฉาจาร
ทุกองค์กรเกี่ยวข้องสนองตอบ
รับผิดชอบเคร่งครัดบรรทัดฐาน
เริ่มต้นที่ทุกส่วนกระบวนการ
ให้ประสานสอดคล้องทำนองควร
การรวบรัดปัดสวะอย่าประพฤติ
แต่จงยึดหลักมั่นมิผันผวน
อคติอวิชชาพาเรรวน
ต้องถี่ถ้วนดุลพินิจถูกทิศทาง
อย่าหวังเพียงเพื่อตนผลงานเด่น
จนเบี่ยงเบนความจริงอิงเท็จอ้าง
ความรู้สึกผิดชอบเป็นกรอบวาง
ทุกก้าวย่างยึดถือความซื่อตรง
หน้าที่เจ้าพนักงานทำการชอบ
มีเขตขอบยั้งคิดอย่าผิดหลง
บริสุทธิ์ยุติธรรมนำจำนง
จะยืนยงเกียรติยศปรากฏนาม
ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องอาจหาญ
ถือหลักการสุจริตไม่คิดขาม
หูไปนาตาไปไร่จัญไรลาม
อย่าคล้อยตามอภิสิทธิ์อิทธิพล
พฤติกรรมทำสำนวนควรแก้ไข
เปลี่ยนมาใช้รวมสำนวนประมวลผล
ไม่ให้มีสำนวนอ่อนที่ซ่อนกล
ไม่เปื้อนปนปรักปรำทำวุ่นวาย
แม้รวบรวมหลักฐานเป็นงานหนัก
หลายสิ่งมักถูกอำพรางบ้างสูญหาย
ไม่เหมือนสร้างหลักฐานงานสบาย
อย่ามักง่ายผูกเงื่อนบิดเบือนความ
เคยตำรวจเจ้าตำรับเรื่องจับแพะ
แล้วหาแกะมาชนเห็นล้นหลาม
ก็เลิกละลบหมดภาพพจน์ทราม
เลิกวางก้ามทำกร่างอย่างเป็นนาย
ห้ามปกปิดสิทธิของผู้ต้องหา
ขั้นตอนตราไว้หมดในกฎหมาย
อย่ารวบรัดลิดรอนซ้อนอุบาย
จะอับอายอดสูคนดูแคลน
จะกลายเป็นตราบาปตราบลูกหลาน
ก่อตำนานอัปยศหดหู่แสน
ความผิดพลั้งครั้งคดีเชอรี่แอนน์
จำให้แม่นทั้งหมดเป็นบทเรียน
สำหรับผู้บริสุทธิ์ดุจพวกเขา
ถูกใครเล่าลิขิตชีวิตเปลี่ยน
เมื่อหลักฐานถูกสร้างอย่างแนบเนียน
ผลวนเวียนอย่างนี้อีกกี่ราย
ตรงกันข้ามกับคนที่พ้นผิด
เพราะอามิสสู่มือถือกฎหมาย
มีผู้ยอมอัปยศหมดยางอาย
เอาเกียรติขายสิ้นค่าศรัทธาคน
บ้างละเลยเฉยชาลืมหน้าที่
บ้างแสร้งมีดุลพินิจผิดเหตุผล
หยิบกฎหมายตีความตามใจตน
ล้วนฉ้อฉลจัดฉากยากเยียวยา
อัยการเปรียบทนายของฝ่ายรัฐ
ต้องเคร่งครัดแข็งขันมองปัญหา
กรองสำนวนถ้วนถี่ด้วยปรีชา
ใช้อาญาแผ่นดินปราบสิ้นพาล
สำนวนอ่อนซ่อนเงื่อนเหมือนงำเลศ
ก็สังเกตแก้ไขไม่ปล่อยผ่าน
สั่งสอบสวนเพิ่มเติมเสริมพยาน
กันหลักฐานตกหล่นเกิดมลทิน
ประโยชน์รัฐเป็นหลักต้องรักษา
สร้างศรัทธาผองชนพ้นติฉิน
อย่าเหลวไหลเลยออกนอกระบิล
ลบคำหมิ่นเคยมีที่แล้วมา
ต้องชัดเจนจรรโลงความโปร่งใส
เหตุผลใดมิฟ้องผู้ต้องหา
พร้อมระวังพลั้งพลาดผิดมาตรา
เขาจะว่ามวยล้มสมยอมกัน
ความประพฤติควรให้อยู่ในกรอบ
รับผิดชอบหน้าที่ขมีขมัน
บริสุทธิ์ยุติธรรมเป็นสำคัญ
ต้องยืนยันยืนหยัดถือสัตย์ครอง
คนเป็นผู้พิพากษาอย่าหวั่นไหว
หากเผลอไผลลืมตัวอาจมัวหมอง
คติธรรมประจำใจใช้ไตร่ตรอง
เพราะท่านต้องเป็นหลักพิทักษ์ธรรม
ในพระปรมาภิไธยอ้าง
อย่าอำพรางทุจริตคิดใฝ่ต่ำ
ขืนปล่อยให้ตัณหามาครอบงำ
จักเกิดคำครหาเป็นราคี
ใช่อยู่บนบัลลังก์นั่งเชิดหน้า
แหงนมองฟ้าเมินดินสิ้นราศี
เริงอำนาจวาสนาบารมี
ลืมหน้าที่พันธะปฏิญาณ
แต่รอบคอบรอบรู้ตราชูเที่ยง
ไม่เอนเอียงอคติริวิตถาร
ใช้สามัญสำนึกตรึกตรองการณ์
มองเหตุผ่านสู่ผลค้นต้นตอ
โดยหลักการความเป็นกลางใช่วางเฉย
อย่าละเลยคอยจนคนร้องขอ
ทางชอบธรรมในหน้าที่ห้ามรีรอ
อย่าลับล่อเลี้ยวลดเลี่ยงกฏเกณฑ์
กระบวนการวาดวางอย่างสร้างสรรค์
ต้องครบครันพร้อมพรักขะมักเขม้น
ยึดตัวบทบัญญัติความชัดเจน
ห้ามเบี่ยงเบนเบือนบิดผิดกระบวน
ธรรมชาติธรรมดามีสาเหตุ
หมั่นสังเกตกลนัยเร่งไต่สวน
กรองเอาถ้อยกระทงความตามสมควร
เพื่อประมวลเบ็ดเสร็จข้อเท็จจริง
นำไปสู่สุจริตวินิจฉัย
ตามวิสัยโดยสัตย์ชัดทุกสิ่ง
ข้อกฎหมายที่กระจ่างยกอ้างอิง
แยบคายยิ่งยืนยันภูมิปัญญา
บุคลากรฝ่ายรัฐเลิกจัดฉาก
เป็นฐานรากสำคัญแก้ปัญหา
สร้างความหวังรำไรให้ประชา
ได้พึ่งพาความเกื้อกูลเหล่ามูลนาย
(๑๐)
หากไปศาลด้วยใจซื่อมือสะอาด
มักพลั้งพลาดเพลี่ยงพล้ำระส่ำระสาย
ต้องปลิ้นปล้อนซ่อนเล่ห์เพทุบาย
ดำก็กลายเป็นขาวราวเสกมนต์
จากภาพลักษณ์ด้านลบที่พบเห็น
จึงกลายเป็นจุดด่างสร้างสับสน
ทนายความตามสายตาประชาชน
ได้แก่คนกลิ้งกลอกคอยหลอกลวง
กระบวนการบิดเบือนจนเปื้อนปด
พาภาพพจน์เพี้ยนไปอย่างใหญ่หลวง
คนดีนั่งหน้าสลดรันทดทรวง
ท่ามกลางปวงปัญหาที่มารุม
ในศาลาโกหกที่บกพร่อง
หลากคนชั่วฉวยช่องมาซ่องสุม
ทิศทางแห่งอำนาจขาดใครคุม
ก็เกิดกลุ่มคดโกงเชื่อมโยงใย
พวกตีนโรงตีนศาลสำราญรื่น
สินบนยื่นสู่อำนาจอนาถไฉน
คือความจริงที่จำต้องทำใจ
ตราบยังไร้หลักฐานประจานแจง
ผลกำหนดล่วงหน้าก่อนหาเหตุ
วางขอบเขตบีบคั้นอันเคลือบแฝง
วิธีการแยบยลกลพลิกแพลง
เพื่อกลั่นแกล้งกลบเกลื่อนเลือนความจริง
จนตกหล่นสูญหายรายละเอียด
ก็ยัดเยียดอยุติธรรมต่ำช้ายิ่ง
หวังที่พึ่งสุดท้ายหมายพึ่งพิง
กลับพบสิ่งที่แสลงเสียดแทงใจ
ทนายความที่ว่าความไปตามสัตย์
ทนอึดอัดอดกลั้นแกมหวั่นไหว
ต้องหดหู่รู้เห็นความเป็นไป
หวังเพียงให้โชคนำบุญอำนวย
บนถนนคนดีที่เปลี่ยวร้าง
เหมือนทิ้งขว้างโอกาสอาจฉกฉวย
ไกลเหลือเกินกับคำว่าร่ำรวย
เต็มไปด้วยขวากหนามตามเส้นทาง
ตราบที่ยังยืนหยัดความสัตย์ซื่อ
ความเชื่อถือทีละน้อยค่อยสมสร้าง
ทุกนาทีที่ผ่านรากฐานวาง
ทุกก้าวย่างสั้นสั้นแต่มั่นคง
แล้วจากปากสู่ปากยิ่งฝากชื่อ
ซึ่งก็คือคุณค่าอานิสงส์
กลายเป็นเกียรติเป็นศรีที่ดำรง
เชิดชูวงศ์ตระกูลจรูญเจริญ
วิชาชีพหลักวิชาต้องมาก่อน
ใช่ปลิ้นปล้อนสารพัดไม่ขัดเขิน
หากพูดจาสับปลับเกียรติยับเยิน
ถูกประเมินค่าต่ำหยามย่ำยี
ทุจริตผิดบาปเขาสาปแช่ง
ผลสำแดงเดือดร้อนรอนศักดิ์ศรี
เห็นแก่เงินเกินงามลามกาลี
กลับทวีทุกข์เทวษนำเภทภัย
จริยธรรมนำทางต่างเข็มทิศ
สุจริตศรัทธาอัชฌาสัย
รู้หลักเกณฑ์เจนจัดเสริมปัจจัย
ทันสมัยมีสมองตรองถูกควร
(๑๑)
กฎระเบียบแบบฉบับบังคับราษฎร์
บ่งอำนาจหน้าที่ไว้ถี่ถ้วน
ขาดเพียงผู้ดูแลจึงแปรปรวน
เสียกระบวนจากผลคนตะแบง
กระบวนการตรวจสอบไม่ตอบสนอง
กลับเปิดช่องฉ้อฉลกลกลั่นแกล้ง
มากมุบมิบโมเมเล่ห์พลิกแพลง
เหลือระแวงยากระวังกระทั่งระอา
มีใครเล่าเอาธุระขะมักเขม้น
ไม่ล้อเล่นหลบเลี่ยงไร้เดียงสา
คงมีแต่พวกเราเหล่าประชา
ช่วยจับตาแข็งขันหมั่นเปิดโปง
รอภัยลามถึงตนผลเสียหาย
เกิดเครือข่ายต่ำช้ามาเป็นโขยง
หลากลวดลายเลี้ยวลดจ้องคดโกง
ซ่อนใยโยงย้อนยอกออกอุบาย
คนลุแก่อำนาจเห็นกลาดเกลื่อน
คอยบิดเบือนกระบวนการลาญกฎหมาย
ความคาดหวังสังคมล่มมลาย
คลุมเครือคล้ายกลียุคย้อนคุกคาม
จิตวิญญาณนักกฎหมายแทบหายสูญ
คอยเกื้อกูลคนผิดไม่คิดขาม
สายสัมพันธ์พวกพ้องครรลองทราม
ยิ่งแผ่ลามฝังรากยากเยียวยา
หวังหน่อเนื้อเชื้อดีรพีพัฒน์
มิกระจัดพลัดพรายหน่ายปัญหา
แต่ร่วมแรงแข็งขืนฟื้นศรัทธา
ให้เจิดจ้า บริสุทธิ์ ยุติธรรม
ความเป็นนักกฎหมายในสายเลือด
อย่าแห้งเหือดปล่อยให้ใครเหยียบย่ำ
เลือดต้องข้น ต้องขลัง ฝังใจจำ
ไม่ใฝ่ต่ำลดตัวกลั้วอาจม
พวกนอกรีตผ่าเหล่ารากเหง้าชั่ว
ต้องลากตัวมารับทัณฑ์อันสาสม
ตัดเนื้อร้ายที่ลามความโสมม
เพื่อสังคมอบอุ่นบุญแผ่นดิน				
comments powered by Disqus
  • จังงัง พรรคลิงรักลิง

    25 เมษายน 2546 17:48 น. - comment id 131273

    เต็มอิ่ม .. :)
  • เพื่อนของพระจันทร์

    25 เมษายน 2546 17:49 น. - comment id 131274

    ข้าน้อยขอคารวะในฝีมือเจ้าค่ะ
    \\(^__^)//
  • น้ำ

    25 เมษายน 2546 18:59 น. - comment id 131296

    กฏหมายสำคัญมากยามสงครามเศรษฐกิจ
    วิกฤตปลิดชีพชาติ
    ขาดอากาศธาตุ
    มาศว่าบรรลัยลง
     ปลงสลดลันทดชาติ
    กฏหมายผูกขาดค้าขาย
    แลขายวิสาหกิจจ้องทำลาย
    ไม่รวมหนี้สินสาธรณะ
      8แสนล้านล้านหาญนับ
    โอกาสวิบัติสิ้นสับ
    เมื่อไรประชาจะมีกินกับ
    ลับหายละบายโทษประชา
      ขออภัยท่านครูยิ่งเขียนยิ่งยาว
    คืนนี้มีแจมนิ
    
  • ใจปลายทาง

    25 เมษายน 2546 20:09 น. - comment id 131307

    ขออนุญาติ เก็บไว้ค่ะ
    
    ..ประทับใจ...
  • เวทย์

    25 เมษายน 2546 20:25 น. - comment id 131309

    บางที..หลังจากงานชิ้นนี้แล้วจะไม่มีงานใหม่ออกมาอีกสักระยะ
    ขอบใจทุกคำทักทายด้วย
  • กวินทรากร

    25 เมษายน 2546 20:53 น. - comment id 131320

    ขออนุญาติเก็บนะครับ
    เหมือนได้อ่านหนังสือ เป็นเล่มๆๆ55อ่านกลอนบทนี้
  • เวทย์

    25 เมษายน 2546 20:59 น. - comment id 131323

    555 กวินทรากรมาแบบเต็มยศเลยเหรอ
    แล้ว อนุญาต ไม่มีสระอินา  เผลอได้ไงล่ะนี่
    แต่ ขนาด กวินทรากร ขอเก็บ  เป็นไปได้หรือนี่
  • จังงัง พรรคลิงรักลิง

    25 เมษายน 2546 21:08 น. - comment id 131327

    ตะกี้ชวนเล่นหมากหนีบเหย็งๆ บอกว่าไม่เป็นก็ไม่เชื่อ เล่นหมากเก็บเป็น นะ เจ้าเต๋า
  • ต่อง (ต้อง) ksg

    25 เมษายน 2546 21:13 น. - comment id 131333

    
      ขอนับถือ ในความสามารถของลุงจริงครับ
    
    
  • ลูกเป็ดขี้เหร่

    25 เมษายน 2546 21:16 น. - comment id 131335

    ยังไง ๆๆ  พิมพ์ก็ต้องพึ่งลุงต่อไปนะคะ  จนกว่าจะบรรลุ  เพราะมากกกกกกกกกกกกกกกกก
  • windsaint

    25 เมษายน 2546 21:44 น. - comment id 131351

    ยังไงๆ ก็จะติดตามพยายามเป็นรุ่นน้องให้ได้ สาธุ
    
    อ่านแบบนี้ จุใจจัง
  • น้ำ

    25 เมษายน 2546 23:51 น. - comment id 131416

    แจมครูท่าน
    
     กฎหมายสถิตธรรม
    ธรรมสถิตหัวใจ
    ใจประชาสถิตไท้
    พระเจ้าอยู่หัวภูมิพล
    
         ยามสงครามเศรษฐกิจ
    ฤกษ์วิกฤตปลิดชีพชาติ
    ประชาขาดอากาศธาตุ
    ปริ่มมาศบรรลัยลาย
         ปลงสลดลันทดชาติ
    กฎหมายผูกขาดค้าขาย
    วิสาหกิจถูกทำลาย
    รวมหายหนี้สาธารณะ
         แปดแสนล้านล้านหาญนับ
    โอกาสวิบัติสิ้นขาย
    ผองมวลประชาสิ้นวาย
    ลับหายบายโทษประชา
        ไท้ประทานยุทธ์พอเพียง
    เรียบเรียงปราชญ์แห่งแผ่นดิน
    ช่วยเหลือเกื้อการทำกิน
    ทั่วแผ่นดินขานพอเพียง
    
  • ละอองน้ำ

    26 เมษายน 2546 01:12 น. - comment id 131443

    อะโห
  • ลำน้ำน่าน

    26 เมษายน 2546 01:47 น. - comment id 131451

    กับวันนี่ที่ได้พบครูแห่งกลอน
    ในที่นี้ หนังสือเล่มนี้ขออนุญาตเก็บ
    ด้วยนะครับคุณลุง
    
  • พุดพัดชา

    26 เมษายน 2546 02:18 น. - comment id 131459

    เพิ่งดูหนังเจมส์บอนด์จบอ่านเอาจริงตั้งแต่ตี1กว่ายันจะตีสองแล้วค่ะ และคิดว่าจะขอพริ้นท์ไปอ่านอีกรอบ พร้อมเก็บไว้นะคะ เพราะต้องอ่านแบบตีความ..
    ด้วยรักและชื่นชมนะคะ
  • น้ำ

    26 เมษายน 2546 08:51 น. - comment id 131499

    อย่าไปนานนะ
    นึกถึงนะ
  • เวทย์

    26 เมษายน 2546 08:56 น. - comment id 131500

    ลูกลิง...ไปป่วนตะเอ๋าทามมายยยย
    ก้อง,พิมพ์,ลม...ลุงเขียนกลอนชิ้นนี้ด้วยเลือดเนื้อ  ทำดีไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
    ละอองน้ำ.....แหะๆ
    น้ำ,ลำน้ำน่าน....อย่าเรียก ครู เลย กระดากใจน่ะ
    พุดพัดชา....ขอบคุณจากใจ
  • เจ้าตัวยุ่ง

    26 เมษายน 2546 09:50 น. - comment id 131505

    อิอิ ... สงสัยจังเลยค่ะลุงเวทย์ขา ... ลุงเวทย์ใช้
    เวลานานมั๊ยคะในการแต่งกลอนแบบนี้ .... 
    ... ทึ่งค่ะ ..เคยไปอ่านมาทีนึงล่ะค่ะที่ห้องครูไหว..
    ( ถ้าทุกคนคิดทำหน้าที่เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน..
    ปัญหาต่าง ๆ คงไม่เกิดขึ้นนะคะ )
  • เวทย์

    26 เมษายน 2546 10:00 น. - comment id 131509

    ดูแล้ว..เจ้าตัวยุ่ง ไม่ได้ยุ่งสักเท่าไรเลยนะ
    งานนี้เริ่มเอาฤกษ์เมื่อวันธรรมศาสตร์ปีที่ผ่านมา
    แล้วทยอยเขียนตามที่เวลาและอารมณ์จะอำนวย
    จนเสร็จเมื่อวาน(25 เม.ย.)
    
    แต่เนื้อหาในนั้น ต้องสะสมมานานกว่าครึ่งชีวิต
    จะบอกว่าเขียนด้วยชีวิตจิตใจก็น่าจะได้นะ
  • rain..

    26 เมษายน 2546 11:54 น. - comment id 131539

    เรน..กราบสวยๆ...นะคะ..
           ..ทุกครั้ง..ที่เข้ามา..
       เรนมองหา..ทุกครั้ง..
          ..ใจหาย.. ที่ไม่พบ...
       ..บทกวี..  ที่ให้...
           ..อยากมี..คน..ที่ร่วม..รับรู้..
       คุณค่า..และความหมาย...
        เรนยิ่งอ่าน.. ยิ่งวางไม่ลง..(ปริ้นเก็บ..ในไดอารี่..ของเรน..นะคะ..)..
            ..อาจ..ไม่ได้ขอ..อนุญาตก่อน..
         แต่..เรนรู้..  คนใจดี..คนนี้..ม่ายดุ..
            ไม้เรียว..แห่ง..ความเมตตา..
                ..เรนยื่นมือ..แล้วนะ..
         ตีเบาๆร่า..  ก้อมันเจ็บ..อะดิ...
               ..ซาแว๊ปปปป...
             เด็กดื้อ..ของใคร..ม่ายรู้ดิ!!
  • ทะเลรัก

    26 เมษายน 2546 12:15 น. - comment id 131542

    ขอชื่มชมอ่านอารมณ์สมหมาย
    มากเหลือหลายอ่านได้ยาวยิ่งนัก
    ขอชื่นชมสื่ออารมณ์ได้ทุกวรรค
    ขอทายทักคุณท่านเวทย์เก่งจริงๆ
  • กดหมู

    26 เมษายน 2546 14:30 น. - comment id 131574

    กฎหมายไทยยุติธรรมแล้วหรือ
    หน้าหนึ่งคือทุกคนต้องรู้กฎหมาย
    ตาสีตาสายายมีขี่หลังควาย
    บังคับให้รู้ด้วย ..กล้วยแน่ะครับ
  • เวทย์

    26 เมษายน 2546 14:57 น. - comment id 131580

    เรน...ซนตามเคย
    ทะเลรัก...ขอบใจ
    กดหมู...มีทางอื่นดีกว่านี้หรือ?
  • Daosaddha

    26 เมษายน 2546 17:56 น. - comment id 131625

    ยอดเยี่ยมครับ
    
    น่าเอาไปแปะไว้ตามโรงตามศาล (โรงพักกับศาลจริงๆไม่ใช่ศาลเจ้า)
    
    แล้วก็...เอาไปแปะในใจ นักกฏหมาย นักปกครองทุกๆท่าน เลย
  • เวทย์

    26 เมษายน 2546 18:44 น. - comment id 131635

    Daosaddha....คงต้องแปะในใจทุกคนเลยครับ  เพราะที่ผ่านมาเป็นผลจากการที่เราไม่ช่วยกันแก้ปัญหาน่ะ
  • Daosaddha

    26 เมษายน 2546 21:51 น. - comment id 131741

    นั่นสิ
    แรกก็นึกเล็งแค่ชาววันรพีฯ
    จริงๆแล้ว กฏหมายนั้นเกี่ยวพันกับทุกผู้ทุกนาม
    
    ผมเอามาแปะที่ใจตัวด้วยแล้วคร้าบ...
  • Lovely_boy

    26 เมษายน 2546 21:53 น. - comment id 131744

    ประทับใจมากครับ...........
  • กดหมู

    26 เมษายน 2546 23:26 น. - comment id 131820

    อิอิ นักกฎหมายมาย้อนถาม
    ก็ดีแต่ตีความไม่เข้าท่า
    ตาสีตาสายายมีตามา
    ยังรอว่าโซ่ตรวนควรหลุดคอ
    
    ก็ข้าเลี้ยงควายอยู่เชิงเขาดี ๆ พวกเอ็งไม่กี่คนมาเขียนกฎหมงกฎหมายขึ้นแล้วบังคับว่าพวกข้าต้องรู้ด้วย หนังสือยังอ่านไม่ออก บอกต้องรู้ ยังงี้
    จะเรียกว่าไรหว่า
  • กดหมา 2516

    27 เมษายน 2546 02:35 น. - comment id 131869

    ก็นะ คุณพี่ กดหมู
    
    ก็ลอง ตาสี ตาสา ยายมี ตามา ไอ้คล้าว ฯลฯ
    
    วันดี คืนดี พวกนั้นเกิดวิตกจริต มาปล้นบ้าน ยึดข้าวของเงินทอง รวมทั้ง หมู ในเล้า ที่คุณ กดหมู เคย กด ไว้ไปหมด  
    
    คุณกดหมู จะทำไงดีเอ่ย
    
    อย่าบอกนะว่าจะไม่ ไปแจ้งความ พึ่งกฎหมาย
    ( ไม่อย่างงั้นก็คง ถือปืน ลูกซองไล่ยิ่ง ตาสีตาสา ยายมี ยายมา หรือ ไอ้คล้าว ใช่ไหมคะ )
    
    กฎหมาย ใช่ หมายกด เหมือนกับที่ คุณ กดหมู กำลัง กด คนอื่น อยู่ เพราะนึกว่า คนอื่น เป็น หมู ของคุณ อยู่นะจ๊ะ
    
    คุณอาจดูคนที่คุณคิดว่า เป็นหมู ผิดไปก็ได้
    
    หรือบางที แม้แต่ หมู แท้ ๆ คุณ อาจจะยังไม่มีปัญญา กดมันเสียด้วยซ้ำ เพราะ ดู แล้ว อย่างคุณเนี่ย ไม่ กดเก็บ ก็ เก็บกด คงไม่เกินไปจากนี้เท่าไหร่
    
    พี่ อย่าเพิ่งมาสนใจ กฎหมายเลย
    เอาเป็นว่า พี่กลับไปท่องศีลห้า ที่บ้านดีกว่า รับรอง ถ้า ทำได้แค่ศีล ห้า แล้วก็ไม่ ต้อง มาบ่นกับตำรวจว่าไม่รู้ กฎหมายอีก
    
    เผลอ ๆ อาจจะไม่ มาโพสอะไร ที่แสดงออก ถึงสำนึกอันไม่บังควรของตัวเอง ในที่สาธารณะ อย่างนี้ก็ได้
    
    นะจ๊ะ
    
  • เวทย์

    27 เมษายน 2546 09:42 น. - comment id 131903

    อย่าทะเลาะกันเลยครับ
    ความจริงก็คือสังคมจำเป็นต้องมีกฎหมาย
    และความจริงอีกเหมือนกันที่มีคนรู้กฎหมายฉวยโอกาสกดขี่คนไม่รู้กฎหมาย
    ปัญหาคือเราต้องช่วยกัน  ไม่นิ่งดูดาย
    และขวนขวายหาความรู้ด้วยตัวเองด้วย
    
    ที่จริงกฎหมาย กับ ศีลธรรม  ก็ไม่ห่างไกลกันสักเท่าไรหรอก
  • ตะเอ๋า

    29 เมษายน 2546 15:48 น. - comment id 132972

    เท่าที่เรียนมาเคยมีคนบอกว่า ชนชั้นใดออกกฏหมายก็เพื่อประโยชน์แห่งชนชั้นนั้น อ่ะครับ
  • เวทย์

    29 เมษายน 2546 17:57 น. - comment id 133012

    ความคิดในยุคปลุกระดมน่าจะหมดไปแล้วนะ
    เพราะปัจจุบันการออกกฎหมายพัฒนาไปมากแล้ว
    คนที่ทำงานเพื่อส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่ตนหรือพวกพ้องเป็นใหญ่ก็มีมากมาย
    ถ้าคิดว่ากฎหมายฉบับไหนไม่ดี หรือคิดว่าควรมีกฎหมายแบบไหน  ก็ล่ารายชื่อเสนอกันได้นี่นา
    
    แต่ปัญหาที่พบทุกวันนี้คือ กฎหมายดีๆ ถูกละเลยหรือใช้อย่างบิดเบือนโดยคนตะหาก
  • เวทย์

    29 เมษายน 2546 18:04 น. - comment id 133017

    Daosaddha....สังคมน่าจะมีคนอย่างคุณมากๆ  คนที่ใช้เหตุผลตัดสินเรื่องราว  ชื่นชมครับ
     Lovely_boy....ขอบคุณครับ
  • แม่มด@>--,---

    1 พฤษภาคม 2546 21:54 น. - comment id 134087

    เข้ามาอ่าน ชื่นชมในงานเขียนของคุณนะคะ
    ขออนุญาติเก็บไว้ด้วยนะคะ
  • เวทย์

    2 พฤษภาคม 2546 08:51 น. - comment id 134261

    แม่มด....เอาไปเผยแพร่เลยก็ได้ครับ  อยากให้คนหันมาช่วยกันเยอะๆ
  • ราชิกา

    3 พฤษภาคม 2546 20:18 น. - comment id 134902

    อาจจะเข้ามาอ่านช้าไปหน่อยค่ะ...แต่ราชิกาได้มากเกินกว่าจะบรรยายได้...ทั้งวรรณศิลป์...และหลักของกฎหมาย...ลุงเวทย์แต่งเหมือนคนที่มีกฎหมายอยู่ในมือ...และสัมผัสกับเรื่องนี้มานานโดยตลอด..(ไม่ทนายความ..ก็ผู้พิพากษา..แน่ๆเลยค่ะ)....ราชิกาเดานะคะ...ถ้าถูกตัองมีรางวัลให้ด้วยนะคะ...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ...
    
    
  • ร้อยกรอง

    4 พฤษภาคม 2546 19:59 น. - comment id 135244

    ...มาอ่านช้าอีกคนค่ะ ลุงเวทย์
    
        กฏหมายนั้นหรือคือกฏหมาย
        กำหนดตราตีความพิพากษา
        รักษาวินัยมั่นคงตรงมาตรา
        ไว้คุ้มครองประชาชนเหล่าคนดี
    
        บทบาทกฏหมายนั้นมีมาก
        กาฝากทรชนเหล่าคนชั่ว
       แฝงกายปะปนไม่หั่วนกลัว
       หลงอบายมุขมัวเมาเหล่าคนพาล
    
       ขออนุญาตแจมและชื่นชมผลงานคุณลุงค่ะ...
    
  • เวทย์

    6 พฤษภาคม 2546 10:43 น. - comment id 135739

    ราชิกา....เล่นเดาแบบแทงกั๊ก เอารางวัลชมเชยก็แล้วกัน  คือชมว่าเดาเก่งนี่..อิอิ 
    ร้อยกรอง....ขอบใจจ้ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน