อวสารทะเลใจหรือเป็นไปชั่วนิรันดร์

พิราบสีขาว

( ปฐมบทนำทะเลใจ)  
          มหาสมุทธว่าลึกสุดหยั่งถึง            แต่ที่ซึ่งลึกกว่าคือทะเลใจ
เป็นที่ซึ่งวกเวียนมาวกเวียนไป            ไม่มีใครยากแท้ที่จะหยั่งถึง
กระแสน้ำช่างเชียวเป็นเกียววน            ช่างสับสนหมุนเวียนเปลี่ยนคะนึง 
พลาดพลั้งตกไปไม่อาจที่จะดึง           แต่ไม่จมถึงก้นบึ้งแห่งทะเลใจ
(บทสอง ไม่มีใครรู้ใจเราเท่าตัวเราเองหรอกนะ)
  
แม้ว่าใครมีรักสมัครสมาน                 มิเคยคราน  รักซึ้งเป็นไฉน
ขอจงรักแต่อย่าไปปักใจ                  เพราะเกียวไหลทะเลใจมันเชี่ยววน                                                                            
เกิดเป็นคนควรคิดให้แยบยน            อย่าหลงกลคำหวาน แห่งวิญญูชน
เพราะความจริงที่ค้นคือใจตน           มิมีใครหนีพ้น ผลกรรมที่ทำมา          
(บทสาม   อย่าเสียน้ำตาให้อดีต)
จงกระทำจิตแห่งใจให้ผุดผ่อง            อย่ามัวมองอดีตที่ไม่ย้อนคืนมา
คิดขึ้นมาทีไรมีแต่ช้ำเสียน้ำตา               อย่ามองหาทะเลใจ  มองไม่เห็น
จงเป็นตัวของตัวเองดีกว่า                 อย่าไปหาทะเลใจของใครให้ยากเย็น
ควรทำในสิ่งที่ดีที่ควรเป็น                    อย่าเป็นเช่นทะเลใจที่ยากหยั่งถึง
(บทสี่  คุยเรื่องเศรษฐกิจไทยกับทะเลใจ)   ตามพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ถึงความพอเพียงในเรื่องสันโดษ           ไม่อยากโทษว่ายุคนี้ต้องแข่งขัน
ทุกเวลานาทีมีค่า    ช่างสำคัญ               มีใครกันเห็นคุณค่า ความเพียงพอ
ต่างทำตามค่านิยมอันสิ้นเปลือง             ไม่เคยเรื่องประหยัด เลยร้องขอ
เศรษฐกิจจะดีคนไทยต้องรอ               อย่าเพิ่งท้อเป็นเหยื่อทะเลใจของนายทุน  
(บทที่ห้า  เรื่องของห้วงแห่งทะเลรัก)
เบียงบังบทเบี่ยงเรื่องความรัก                 ได้ประจักษ์พบรักปักห้วงใจ
ไม่มีใครหลีกพ้นคนรักได้                       เหมือนเรือใหญ่ลอยคว้างกลางทะเลใจ
หลายหลากอารมณ์แห่งมรสุม                   ถาโถมรุมเททุ่มขุมแห่งดวงใจ
เปรียบดั่งไฟเผาเร้าร้อนปอนไหม้            ไม่มีใครต้านทะเลรักหักอุรา 
(บทที่หก  ดนตรีแห่งรัก)
เรียกเรียกเพียกเพียงเสียงสำเนียงรัก         สุดตระหนักหักห้ามใจไหวหวั่น
เรียบร้อยทำนองเพลงเป็นหมื่นพัน                มาพรรณนารักนั้นพรั่นพึงใจ
เสียงบรรเลงแผวพริ้วจนทิวไหว                    เสียงดนตรีใจ ให้ไว้ในรักแท้
แสงยานุภาพแห่งรักมิอาจแก้                         มิอาจแพ้ความใคร่ได้ลุ่มหลง
(บทที่เจ็ด  ทะเลใจใครหลุดพ้น)
ด้วยรักแห่งรักนี้มีค่าสุขล้น                        อยากจะค้นหารักไว้ในฤทัย 
ให้ดิงลึกจมสุดห้วงทะเลใจ                       มิให้ใครชิงรักนี้หนีจากไป
ให้เธอจมสุดก้นบึ้งทะเลใจ                        ไม่ให้หนีไปไหนได้ตลอดไป
และฉันก็จมอยู่กับทะเลใจ                          ของเธอไว้โปรดได้ให้เมตตา
(บทปัจฉิมทะเลใจ  อวสารทะเลใจหรือเป็นไปชั่วนิรันดร์)
ท้ายนี้ความรักเป็นไฉน                              อยากจะให้ได้แต่เพียงสิ่งมีค่า
ความรักอาจเปรียบได้กับมายา                   อย่ามาหาทะเลใจให้ยากเย็น
เรื่องทะเลใจแต่งไว้ให้ได้คิด                      อย่ายึดติดดวงใจของใครอื่น
ถ้ารักงมงายมากไปมิได้ฟื้น                       จะไม่ตื่นจากความจริงสิ่งที่เป็น
ความรักทุกคนนั้นให้มีได้                          แต่อย่าจมไปกับใจให้ยากเย็น
ถ้ารักแบบทะเลใจสุดลำเค็น                      ยากจะเข็นขึ้นฝั่งฝังรากเหง้า
ถ้าจะรักใครจงรู้ใจเรา                             รักไม่งี้เหงาถ้าเจ้าค้นใจตัวเอง
อย่ามัวหลงตัวทำเป็นครื้นเครง                 แล้วเจ้าเองจะทุกข์เพราะเคราะห์แห่งใจ
   อวสาวของเรื่องเท่านั้นแต่ถ้าบนโลกใบนี้ยังมีมนุษย์จะไม่มีอวสานสุดแห่งทะเลใจ
อยากให้คิดว่าระหว่างตัวเรากับผู้อื่นเรารู้ข้อมูลสิ่งใดมากกว่ากัน  จงใช้สติคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินสิ่งใด				
comments powered by Disqus
  • พิราบสีขาว

    17 เมษายน 2546 10:45 น. - comment id 127277

    ทะเลใจจบแล้วในบทประพันธ์
    แต่ให้ฝันใฝ่ในชีวิตจริง
    ไม่มีสิ่งใดจบได้อ้างอิง
    มีแต่สิ่งเป็นอนิจาอยู่บนโลก
    
  • keng

    17 เมษายน 2546 11:38 น. - comment id 127302

    ใช่เลย
    
              มหาสมุทธว่าลึกสุดหยั่งถึง            แต่ที่ซึ่งลึกกว่าคือทะเลใจ
    
    เห็นด้วย
    
  • ใจปลายทาง

    17 เมษายน 2546 12:40 น. - comment id 127326

    ใจตัวเอง ยังไม่ค่อยจะเข้าใจเลย  
    สับสนวุ่นวาย แล้วใจคนอื่น จะไปเข้าใจได้ลึกซึ้งอย่างไรกัน
    .......
  • น้ำ

    17 เมษายน 2546 14:41 น. - comment id 127385

    ทะเลเอยใจเอย
    รักเอยใจเลย
    รักเคย
    เคยรัก
    รัก
    ริ
    นิ
    เขียนได้งามงดหมดจดอารม จมดิ่ง นิ่งจน ค้นเจอ ใจตน ผลกรรม ทำไว้ มิมีหนีได้ ฝากรักไว้กับเธอ
    หัวใจหากขาดสติ
    คงคิดแก้ไม่หาย
    จวบชีพวาย
    วนวายทะเลใจ
    ใจใครให้ใคร  ให้ทำไม ให้กันอย่างไร ให้เวลาไหน ล้วนวังวน 
    สติดีดิ่งลึกนิ่งสู่ห่วงลึกทะเล
    เห่เอยรักเอย
    ให้แล้วมิหวังไรเลย
    หลงให้แล้วจะถอนหลง
    ยังเหลือหลงให้ดูใจ
    สิรู้หลงเมื่อไรหยุดหลงได้ทันที
    มีรักดี
    ไม่มีรักดี
    มีหรือไม่มี
    ใจดีนิคนดี
  • ทะเลใจ

    17 เมษายน 2546 15:05 น. - comment id 127399

    ความรักมันก็คือความรัก
    คนนำชักมากกว่าว่าจะไปทิศทางไหน
    คนทำให้มีความสุขก็สุขสุดห้วใจ
    แต่คนทำให้เศร้า ยังไงก็เศร้าอยู่ดี
    
    ความรักเกิดมาเพื่อแต่งแต้ม
    มาซ่อมแซมสิ่งที่เราได้ขาดหายทุก ๆ ที่
    เชื่อเถอะนะ เชื่อเถอะว่าความรักของทุกคนนี้
    มันจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ตัวเรา
    
    มาแจมด้วยกั๊บป๋ม  ---
    พอดีกลอนที่พี่หนึ่งแต่งอ่ะ ---
    เหมือนนามปากกาทีเอมใช้เห็นทีไร ---
    เอมสะดุ้งทุกทีอ่ะนะ  ---
    หุ หุ หุ  ---
  • สีน้ำฟ้า

    17 เมษายน 2546 15:11 น. - comment id 127401

    ทุกวันนี้..ก็เวียนว่ายอยู่ในทะเลใจ ไม่สามารถหาทางออกได้เลย..เฮ้อ..
  • พิราบสีขาว ดุจดาวสีเงิน

    17 เมษายน 2546 17:45 น. - comment id 127460

    ความรักอีกแล้วสินะพี่สีน้ำฟ้า
  • Y

    12 เมษายน 2547 12:30 น. - comment id 145311

    เพราะแหะ ความหมายก็ดี เข้ากันได้หมดจดเลย
    โฮ่ ยาวขนาด!!  ครูอุ๊บอกว่าหากเราไม่รู้สึกไปตามกลอน ก็จะแต่งไม่ได้... นี่ผู้แต่งเป็นอะไรหรือปล่าวเนี้ย??

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน