เอื้องผึ้งบนหนึ่งผาหน้าน้ำตก บุษราคัมแซมหยกปกแผ่นหิน บนเงื้อมโง้งบนโค้งคุ้งรุ้งเลื่อมริน ประดับดินประดับใจใครบางคน เสน่หาเจ้ากระจายในสายลม ซ่านกำซาบสาปผสมกับลมฝน ลำแสงลอดเมฆมาเสกมนต์ ให้เจ้าเด่นเช่นมาดลจนใจรัก ตำนานว่าคู่ชีวามาพรอดพร่ำ ชวนชี้นำนางชมนกอย่างปกปัก ผาพฤกษาแหวกกว้างพลางทายทัก และแนะให้ได้รู้จักมาลางาม นวลนางผู้หลงไหลใคร่เชยชม จึงลงก้มเด็ดโดยแม้โหยห้าม เอื้อมมือลงสุดล้าคราผลีผลาม นางถลำลื่นร่วงจากห้วงหิน กระแทกร่างลงตรงมาลานั้น วิญญาณอันห่วงใยก่อนใจสิ้น ก็แลกร่างกับเอื้องผึ้งชึ่งร่วงริน น้ำตาริ้นอาลัยให้นวลนาง หนุ่มผู้พานางมาหาความตาย ใจสลายคว้าไขว่ได้เพียงร่าง สาบานรักมั่นไว้ไม่จืดจาง พลัดทอดร่างหล่นผามาตามกัน เอื้องผึ้งบนหนึ่งสุสานเหงา จันผาเฝ้าเคลียคลอไม่ขอหวั่น มิได้สมครั้งยังเป็นเช่นชู้นั้น จันผามั่น เคียง เอื้องผึ้ง ก็ พึงใจ (ม้าก้านกล้วย)
10 เมษายน 2546 21:54 น. - comment id 125088
ใช่ๆๆๆๆ เศร้า ลูกเป็ดก็เศร้าค่ะ
10 เมษายน 2546 21:59 น. - comment id 125093
ทำไมแต่งกลอนเศร้าจังเลยคะ เศร้าจนไม่เห็นความงามของเอื้องผึ้งแล้วค่ะ
10 เมษายน 2546 23:46 น. - comment id 125185
โธ่น้า..หนูเกิดไม่ทันนี่..ครุ ลหุ ของน้าอ่ะ.. เดี๋ยวกลับไปอ่านอีกที ก็ด่ะ.. ความผิดของน้าน่านแหละ.. ที่โพสติดกันเยอะ ๆๆๆๆ หนูเลยอาวมายำรวมกันหมดเลย (เหะ ๆ ดูมานกวน..สมควรตายยยยย ไหมนั่น)
11 เมษายน 2546 08:43 น. - comment id 125338
เขารักกันจังเลยนะ ... :)
13 เมษายน 2546 23:46 น. - comment id 126275
พี่อัลมิตราเป็นพยาน ผมยืนยันนิ 5เกสรปรุงยาอายุวัฒนะแด่ครูม้า ดอกมะลิผลิหอมลมหวนทน ดอกพิกุลหล่นดลใจยลเจ้างาม ดอกจำปาหอมอบเย็นเด่นนาน ดอกกระดังงายลใจแลหวามหวาน ดอกบัวหลวงชวนชมสมใจยล ห้าเกสรผสมปรุงยาไทยมานาน เป็นยาบ่มบำรุงใจใยใสสราญ จิตรชื่นบานอยู่เย็นเป็นหมื่นปีเอย