ดาวกระจายแตกเสี่ยงละเลงฟ้า ดาษเมฆาปุยละอองลอยเหินหาว ราตรีนี้ดำเนินยั่งยืนยาว ชีพชาวทุกข์ - ทุกข์ลามตามราตรี อยากจะหลับให้ตาหลับ - หลับลาลับ เหนื่อยหนุบหนับหนักหน่วงให้แหนงหนี ตาเบิกโพลงโคลงบนเตียงเคียงธานี ทุกนาทีต้องรับรู้ความเป็นไป ดาวแตกเสี่ยงร่วงกราวลงจากฟ้า ปุยเมฆาซาหายไร้แขไข นภานี้ปราศแสงสีสิ่งอื่นใด เหลือเพียงกายกับใจในความมืด ใจแตกเสี่ยงตกตุบใต้ตาตุ่ม แรงคนหนุ่มฝืดเฟืองดังคราดครืด ไม่อยากรับรู้สรรพรส ขม, เผ็ด, จืด จึงฝืนตาข่มกัดฟันหลับให้ลง เสียงลมร้องโบกครวญผ่านรอยแยก ฝ้าที่แตกรูที่รั่วตัวที่หลง ฝนประปรอยโปรยลงอย่างบรรจง ดังพรหมส่งน้ำฟ้าประโลมกลัว ไฟที่แรงฤๅแดงสู้สุรีย์ส่อง หิ่งห้อยผ่องยังแคลงแสงสลัว ชีวิตต่อไหมทอ - เนียนัว ใจกับตัวคิดกับทำกันกลับไกล
8 เมษายน 2546 21:27 น. - comment id 124043
ไม่เครียดหรอกค่ะ .........
9 เมษายน 2546 07:40 น. - comment id 124224
ทุกข์กายถ่ายสู่ใจ ใจดู ใจสู้ทุกข์ ทุกข์อยู่สู้ใจ มิถอย ถอยไร ใจไรมิถอย จักแจ้ง มิรู้จักมืด จักจืดมิรู้จักขม ใจเขาใจเราเนาตรง หลงจักมิรู้แจ้ง หายหลงรู้จักหลง จำจารใจลงโคลงใจ ใจใช้ธรรมชาติหลงดิ่งตรงไป ใจคอยดู เขาไกร ทะเล ไพร ไหว นิ่ง อิงอุ่นใจ จึงถอนหลงคงเหลือหลง ให้หลงคงเหลือ ใจดู นิ