...จากความคุ้นเคย ความผูกพันที่แสนดี อาจยังมีสิ่งหนึ่งในใจ ...ไม่เคยรู้ตัว จนเมื่อเธอจากไปแสนไกล ...ก็เพิ่งเข้าใจ ว่ามันคืออะไร จนวันที่ต้องไกลห่าง ...หวาดกลัวเหลือเกิน เราห่างโดยไม่รู้ใจ ...ก็เริ่มจะเคว้งคว้าง ในสิ่งหนึ่งที่เหมือนหายไปไกล ...เมื่อไหร่จะได้มาพบ ...เธอเองก็รู้ตัวว่าคิดอย่างไรกับฉัน ...และเธอพยายามที่จะข่มอารมณ์ตัวเอง ...แต่จนแล้วจนรอด ยากนัก เธออ่อนแอ อิดออด ...บ่ายเบี่ยงตัวเองตลอดมา ...พยายามเท่าใด ก็เหมือนยิ่งจะพันลึกไปมากเท่านั้น ...ฉันซึ่งได้แต่เฝ้ามองเธอทรมาณใจ ฉันก็เริ่มที่จะรู้สึกว่า ...ฉันเอง..ปวดใจไปด้วย ...และแล้ววันนี้ ฉันก็เพิ่งจะค้นพบสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ในใจ ...เช่นกัน ....เธอและฉันคิดอย่างเดียวกัน ...ความปวดใจนี้ได้แต่เฝ้ามอง ซึ่งก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรเธอได้ ...รวมทั้งหัวใจของฉันเองด้วย ...เพิ่งรู้... เธอคือสิ่งที่หายไป เธอเป็นยิ่งกว่าหัวใจ ...ไม่อาจทนเมื่อไกลกัน ...เพิ่งรู้...เธอคือสิ่งที่หายไป รอคอยเธอด้วยหัวใจ ...โปรดกลับมารับรู้ใจกัน ...เมื่อไหร่จะได้มาพบ อยากเพียงพบเธอ เพื่อบอกเธอให้รับฟัง ...เพียงเพื่อที่จะบอกคำนั้นกับเธอ ...เพิ่งรู้... ...So many words for the broken heart ...It is hard to see in a crimson love ...So hard to breathe walk with me, and maybe ... *********************************************************** กับคำถามที่ใจเคยไต่ถาม กลายเป็นความเร้นลับและสับสน ใจของฉันกับใจใครบางคน ไยต้องหม่นทุกทีที่ห่างกัน ไม่ทันจะเตรียมใจเอาไว้ก่อน เผลอมองย้อนกลับไปในความฝัน ความรู้สึกลึกล้ำก่อสัมพันธ์ ผ่านคืนวันแสนหวานสานเยื่อใย เป็นความรักที่ใจไม่รู้สึก แต่ฝังลึกจนฉันนั้นหวั่นไหว ณ วันนี้ที่เผอิญสายเกินไป เมื่อต้องไกลเกินกว่ากลับมาเคียง เพิ่งรู้ตัวตอนนี้ตอนที่ช้ำ ต้องกลืนกล้ำรันทดหมดทางเลี่ยง เห็นสายตาตัดพ้อจนพอเพียง ยังบ่ายเบี่ยงพยายามหนีความจริง อยากย้อนวันเวลาถ้าทำได้ เพื่อบอกให้เธอประจักษ์ว่ารักยิ่ง กลับไปขอหัวใจไว้พักพิง ไปแอบอิงไออุ่นหนุนตักเธอ
5 เมษายน 2546 12:35 น. - comment id 122444
....เข้ามาเยือนครับ... ..โอ้โฮ...เพิ่งรู้ครับ...ว่าเป็นอย่างไร..ในความรู้สึก...ควรไว้ใจในสิ่งที่เราไว้ใจ...และเชื่อใจในสิ่งที่ใจเรายอมรับ... ..........ไม่มีบ้านหลังไหนหรอกครับ..ที่น่าอยู่...เท่ากับ..บ้านที่มีหัวใจของคนที่เรารักอยู่ในนั้น....... ......สวัสดีครับ.............
5 เมษายน 2546 13:19 น. - comment id 122464
ตามมารู้มาเห็นด้วยคนครับ คุณอัลมิตราเขียนได้หลายแนวนะครับ แต่ผมชอบแนวมหามนตรา และก็แนวธรรมชาติของคุณมากกว่าหน่ะครับ คงไม่ว่ากัน เขียนแนวนั้นมาอ่านเยอะๆ นะครับ
5 เมษายน 2546 13:45 น. - comment id 122472
เพิ่งรู้ว่ารัก
5 เมษายน 2546 15:20 น. - comment id 122508
พยามสำผัสธรรมชาติให้ใจเบาเย็น จากใจนิ การทำนา เพื่อนคู่ใจนอกจากมีรถเต่า แลมีเจ้าควายเหล็กหัวใจเหล็ก สูบน้ำเข้าเสร็จ รถไถใช้ผานเดินตาม แลคาดให้ดินเสมอน้ำระดับเดียวกัน กระบุงข้าวงอกหว่านทั่วนา พาสุขใจ ใช้ชีวะวิธีนิเวศดินทรัพย์สินปัญญาไท ได้ข้าวมาเต็มทุ่งทองนาหอมดินหญ้า มีรถเกี่ยวมาอาสา สบายไปเรา ตอนขายได้เฮฮา ฉลองเย็นอุรา ดักปลามาแกง ดักหนูนามาย่าง สวนเสเฮอาหมู่เรา ลูกชาวนา เหนื่อยนักพักใจ ในเนา หายใจเข้าออกผ่อนผันผ่านกาลยาว ราวทุ่งทองข้าวท้องเต็มลออตา จัดข้าวปลาย่างหอมยวนใจ ไครเหงื่อเพื่อไหลอาบฉาบทา แกร้งผิวกำพร้ากร่านลมชม หม่ไอรวีมิร้อนรนดลกลอนกานต์ ขานเพลงทุ่งรวงทองของชรินนันทนาคร ร้องเพลงทั้งวันนิ พ่อผมก็ทำนา แลผมก็อาสา เลยดลกลอนจากใจ ครั้งหนึ่งผ่าน วานยังจำจาร ขานเพลงขับ ควายเหล็กเราเก่าดีนิ นินิ
5 เมษายน 2546 19:45 น. - comment id 122574
เป็นบทกวีที่ไพเราะมาก...หากรู้ใจเรา..ก็ควรบอกเขา...ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากชีวิตเรา.. สวยทั้งภาพ..และอักษร..ให้ความรู้สึกที่ดีค่ะ..
5 เมษายน 2546 22:53 น. - comment id 122723
หวานเจียว เอวันก่อนใครบอกว่า จบราม บางคนก็โชคดีน้อ อิอิ ครายหว่า จบรามแล้วโชคดี แว้บดีก่า เด๋วโดนแพ่นกบาล อิอิ
5 เมษายน 2546 23:40 น. - comment id 122770
คุณใบบอนแก้ว ... อืมมม ร่างร้อยแก้วจากในใจ หลั่งไหลความรู้สึกที่มี เศร้าจัง .. คุณลำน้ำน่าน ..ขอบคุณค่ะ ตอนนี้กำลังเขียนกาพย์ ค่ะ เกี่ยวกับสงกรานต์ แต่ยังจบไม่ลงซะที 16 บทแล้วค่ะ คุณsarayuchi ... ใช่ค่ะ เพิ่งรู้ว่ารัก .. คุณน้ำ..อัลมิตราเคยถามเพื่อนว่า นั่นรถอะไรทำไมมีล้อแฉกๆแยะจัง เพื่อนฮากันทั้งรถตู้ รถไถนา อัลมิตราไม่เคยเห็น มาเห็นตอนนั้นค่ะ คุณราชิกา ... บอกไม่ทันแล้วค่ะ เจ้าลม ...เราไม่ได้จบรามนะ เราจบที่อื่นน่ะ .. ที่บอกไป หมายถึงคนอื่น นะจ๊ะ
6 เมษายน 2546 00:09 น. - comment id 122789
กว่าจะรู้ก็สายเกิน
6 เมษายน 2546 00:25 น. - comment id 122796
คุณฤกษ์ ..คงเช่นสายน้ำที่ไม่ไหลย้อน ...ค่ะ
6 เมษายน 2546 01:55 น. - comment id 122835
รักเอยให้แล้วหวานใจ รักเอยขอแล้วก็แล้วไป...แห้ว รักเอยมิขอไรแล้ว รักเอย รัก นิ
6 เมษายน 2546 08:10 น. - comment id 122878
^J^ ..................... เพราะครับ.....ฯ
6 เมษายน 2546 09:57 น. - comment id 122913
สายน้ำ ไม่ไหลย้อน แต่บางตอน ก็มี ... วังน้ำวน ไหลเวียน ปะปน วกวน เคล้าทุกข์ ระคนกัน คงเป็นเพราะมัน อิดเอื้อน ที่จะจากไป จนไปอาจ ไหลกลับมาพบเธอได้อีก.... อนิจจา...สายน้ำ ถ้าเจ้ามาจากฟ้า ... เจ้าคือความชุ่มฉ่ำ และแช่มชื่นแก่ทุกชีวิตบนโลก แต่ถ้าเจ้าหลั่งลงมาจากเนตรงาม ... เจ้าคือสิ่งปลดปล่อยความระทม ที่ฝังแน่นในห้วงลึกแห่งหัวใจ สายน้ำเอย ... เมื่อเจ้าต้องจากไป ... ก็จงทิ้งความรู้สึกดีๆไว้เบื้องหลังเถิด ... สายน้ำเอย
6 เมษายน 2546 10:29 น. - comment id 122919
คุณน้ำ ..อืม แห้ว ระกำ บ๊วย .. คุณกฤษณะ .......... คุณโคถึก.. เสียงสะอื้นจากปลายฟ้า... จะโหยหาอย่างไรใครจะเห็น เฝ้าครวญคร่ำร่ำไรไม่วายเว้น น้ำตากระเซ็นเป็นน้ำกรดรดราดใจ
7 เมษายน 2546 13:48 น. - comment id 123339
มาขอคำชี้แนะท่านพี่คนดี ไพรระหงภูกระดึงไต่เขาสูง มวลป่าไม้สะพรั่งไพรสนเขา เป็นสนสองใบซ้อนสามใบแซมเนา หนาวเหน็บหน่วงอุราฉ่ำชื่นเย็น เช้าก่อนตะวันรุ่งมุ่งฝ่าผาชมคลื่น ทะเลเมฆครืนคลุมลุ่มวิมานพื้นฟ้า ทะเลหมอกสร่างพร่างพรายตา ยอดเขาทะเลฝ่าหมอกสอดแซม ดวงอาทิตย์เดินขึ้นเขินจากเขา ฉายแสงฉานฉาบทาบทาไพรสณฑ์ ดลให้หลงใหลครวญหวนทวนยล จำติดตรึงจนตราบวันวายมิเลือน หวนดลใจคล้ายทะเลหมอกม่านบัง ทะเลเมฆสะพรั่งหว่างไพรระหง งามวิจิตรตรึงติดฤดีชวนยล ดลกลอนขานนามภูกระดึง ตรึงใจเอย นิ
7 เมษายน 2546 17:15 น. - comment id 123411
เดินเขาสูงเมื่อยเมื่อยขา พี่อัลมิตรา ปวดขาก็ต้องทายา ยาแดงทาแผลสดหายไว ยาแก้ไอกินก่อนนอน ยาดองเสือ11.....ของพี่โอมเขา ยาหมองพอทำเนา ยาเปาเสกวานพี่สอนดนูเถอะพี่คนดี นิ
7 เมษายน 2546 21:47 น. - comment id 123493
ไม่ทานยาของพี่โอมค่ะ .. กลัวจะโดนวางยาพิษ เข็ดค่ะ ..