แค่เอาถ้อยร้อยเรียงเพียงพอหรือ ที่จะสื่อจะสานวิญญาณฝัน ใช่เพียงแค่ถ้อยคำเพ้อรำพัน แต่ต้องกลั่นจากห้วงของดวงใจ ต้องคำนึงถึงความอันงามเฟื่อง ก่อนวางเรื่องเรียงพจน์กำหนดไข ต้องรู้ชอบทุกจารที่สาส์นไป รู้รับใช้รอบด้านที่กานท์มา ต้องสำรวจตรวจสอบระบอบศัพท์ รู้ระงับรู้ประกาศปรารถนา แม่นลำดับบังคับบทพจนา จึงสมค่าควรชมนิยมกัน บนเส้นทางสร้างสรรค์วรรณศิลป์ อันแจ่มจินตนาการวิญญานฝัน หากเพียงลากอักษรแค่คอนดัน ป่วยการจะประพันธ์เรื่องอันใด.
24 มีนาคม 2546 11:12 น. - comment id 118188
ขอบคุณที่ได้มาอ่านค่ะ ****อัลมิตรา****
24 มีนาคม 2546 12:31 น. - comment id 118216
เห็นกลอนบทนี้ที่ ถนนนักเขียน ในกระทู้ผม ชอบและตรงใจที่อ่านครับ... หลากอย่างเรายังไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และคิดว่ายากที่จะทำความเข้าใจ ผมเขียนกลอนแรก ๆ ผิดสัมผัสเกือบหมด ได้เพื่อน ๆ ซึ่งเป็นครูที่ช่วยสอน บ่อยครั้งเคยคิดโกรธ แต่เมื่อเงียบ ๆ กับตัวเองจึงระลึกถึงบุญคุณเหล่านั้น ของทุกคน กว่าสองสามปีแล้วที่ผมเข้ามาเรียนรู้หนทางกวี อาจคืบหน้าไปบ้าง เชื่องช้า....แต่ทว่ามันทำให้ผมรู้ว่า ผมรักมันมากเพียงใด มากถึงไม่อยากให้ อะไรมาทำร้ายมัน หวังว่าคุณคงเข้าใจ ยินดีที่ได้เข้ามาอ่านบทกวีที่ไพเราะคงได้แง่งามและแง่คิดสำหรับใครหลายคน....... มิตรภาพจะมีแด่เรา แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
24 มีนาคม 2546 13:12 น. - comment id 118227
การเรียงร้อยถ้อยคำจำเป็นหรือ ต้องยึดถือเกณฑ์กฎกำหนดไหน ฤๅยึดอย่างวางแนบรูปแบบใด กระทั่งไร้อิสระเกินประมาณ เฉกยึดมั่นสรรค์สร้างต้องอย่างนี้ กลวิธีรูปพรรณทรงสัณฐาน แท้ควรคัดจัดเพราะเหมาะเหตุการณ์ จงเชี่ยวชาญเลือกบทเลือกพจมาน อย่าดึงดันมั่นหมายคล้ายคุกขัง เพียงลำพังบังคับพร้อมสรรพสาน จะโศกศัลย์บันเทิงเริงสราญ ล้วนจดจารจิตจ่อกฎข้อเดียว ร้อยกรองไทยหลายหลากมากประเภท ย่อมแฝงเลศสื่อขานขมหวานเปรี้ยว จะโกรธแค้นแน่นหนักฤๅหักเกลียว สวาทง้อระย่อเกี้ยววานเหลียวแล.
24 มีนาคม 2546 13:14 น. - comment id 118228
ขอบคุณค่ะ คุณริมธาร ขอบคุณค่ะ คุณแสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า .. บทกลอนชุดนี้เป็นการบ้าน ที่ลุงเวทย์ให้อัลมิตราเขียนค่ะ โดยที่ลุงเวทย์บอกว่า เขียนให้ได้และนำไปสอนตัวเองด้วย .. แต่ละบท ถอดความมาได้ดังนี้ค่ะ บทที่ ๑.. (การเขียนไม่ใช่แค่เอาถ้อยคำมาเรียงต่อกันอย่างไม่มีจุดหมาย ตึควรมาจากความจริงใจ) บทที่ ๒.. (ต้องคิดก่อนลงมือเขียน และมีความรับผิดต่อทุกตัวอักษรที่ได้เขียนลงไป งานที่เขียนพึงมีเป้าหมายว่ารับใช้อะไร) บทที่ ๓.. (ต้องไม่มีความผิดพลาดในเรื่องศัพท์ แบบแผนบังคับ) บทที่ ๔.. (หากทำไม่ได้ ก็ไม่สมควรที่จะเขียนอะไรออกมา) ....................................... อัลมิตราเอง ก็เขียนผิดเขียนถูกมาตลอด สัมผัสเฝือ เล่นคำ จนเสียรสความ โคลงหนึ่งบทได้หนึ่งสลึงบ้าง ได้ครูมาช่วย ต้องขอกราบขอบพระคุณ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ คุณครูไหวใจร้าย ลุงเวทย์ จอมยุทธเมรัย พี่สดายุ ลุงราม ลิขิต .. ต่างก็มุ่งหวังที่จะจรรโลงวรรณศิลป์ไทย ..และท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้ออกชื่อ ที่แนะนำ ชี้แนะในเส้นทางที่ถูกต้อง อัลมิตราติดลักษณ์ของตนเองพอสมควร ในการที่ปรับเปลี่ยนบางที ก็ทำให้คนสอนเหนื่อยใจเหมือนกัน (จริงหรือเปล่าจ๊ะลุงเวทย์ ..555) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกท่านเหล่านั้น ไม่ได้มีผลประโยชน์อันใดทั้งสิ้น มีคำเดียวเท่านั้น ที่ทำให้พวกท่านมีเจตนารมย์อันงดงาม คำนั้น คือ รักษ์ วรรณศิลป์ .. ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการค่ะ คุณแสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ...
24 มีนาคม 2546 13:31 น. - comment id 118239
โอ๊ย ..หัวโขกจอค่ะ ปู่ก๊อง .. ๕๕๕ ตอบไม่ทันค่ะ ตะกี้คีย์ยาวไปหน่อย .. ไฟเขียวแบบนี้ ลูกลิงได้แก้วประมาณนั้น .. สนุกอีกแล้วคะ ปู่.. ขอบคุณค่ะ
24 มีนาคม 2546 14:49 น. - comment id 118248
มาชื่นชมการบ้านครับผม
24 มีนาคม 2546 18:07 น. - comment id 118301
การเรียงร้อยถ้อยคำจำเป็นหรือ ต้องยึดถือเกณฑ์กฎกำหนดไหน ฤๅยึดอย่างวางแนบรูปแบบใด กระทั่งไร้อิสระเกินประมาณ เฉกยึดมั่นสรรค์สร้างต้องอย่างนี้ กลวิธีรูปพรรณทรงสัณฐาน แท้ควรคัดจัดเพราะเหมาะเหตุการณ์ จงเชี่ยวชาญเลือกบทเลือกรสกรอง อย่าดึงดันมั่นหมายคล้ายคุกขัง เพียงลำพังบังคับตำรับผอง จะรื่นเริงบันเทิงใจเลือดไหลนอง ล้วนใฝ่ปองจิตจ่อกฎข้อเดียว ร้อยกรองไทยหลายหลากมากประเภท ย่อมแฝงเลศสื่อขานขมหวานเปรี้ยว จะโกรธแค้นแน่นหนักฤๅหักเกลียว สวาทง้อระย่อเกี้ยววานเหลียวแล. แหะ แหะ เข้ามาแก้ครับ แบบส่งสัมผัสซ้ำง่ะ ฮี่ฮี่ฮี่
24 มีนาคม 2546 18:11 น. - comment id 118306
เห็นเธอ มุ่งมั่น แล้วนั้น น้ำตา จะไหล ขอเคียง เพียงข้าง ก้าวย่าง ตามทาง กว้างไกล ร่วมกลั่น วรรณไวย ไว้ให้ ผิชน ขุดค้น เล่นคำ (ร่ายสอง)
24 มีนาคม 2546 18:52 น. - comment id 118318
^J^ ........................... ชมชื่น....ชื่นชม.......
24 มีนาคม 2546 21:35 น. - comment id 118363
แค่เอาถ้อยร้อยเรียงไม่เพียงพอ สื่อจิตต่อส่อใจให้ประสงค์ เรียบเรียงถ้อยร้อยคำตามจำนงค์ คือสิ่งองค์ประกอบมอบกลอนกานท์ พอใช้ได้แมะคับ อิอิ
24 มีนาคม 2546 22:06 น. - comment id 118390
ไม่เห็นด้วยครับคุณพุ่มกวีหญิงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ แต่งกลอนเรื่อง พระมเหเถไถ และเรื่อง อุณรุทร ร้อยเรื่อง แบบนั้นก็ยังดังได้เลย 555
24 มีนาคม 2546 22:14 น. - comment id 118394
ลุงเวทย์ได้เลือกเพชรเม็ดนี้มาเจียรนัยนับว่าถูกต้องที่สุดแล้ว จะคอยชื่นชมผลงานต่อๆไป บัวใต้น้ำอย่างเราคงต้องถูกเต่ากินไปในที่สุดอิอิ
24 มีนาคม 2546 22:42 น. - comment id 118402
ขอบคุณค่ะ คุณคนผ่านมา คุณม้าก้านกล้วย คุณกฤษณะ เจ้าลม ตะเอ๋า เอ๋ คุณฤกษ์ ...ไม่ได้เป็นบัวนะคะ อัลมิตราชื่นชมผลงานของคุณเช่นกัน ค่ะ
24 มีนาคม 2546 23:22 น. - comment id 118407
...ไม่เก่งกาจอาจไปเปรียบใครเขา เป็นตัวเราอย่างนี้ดีแล้วหนอ ถึงไม่เป็นเช่นใคร..สุขใจพอ และไม่ท้อเพราะเราเป็นเราเอง... .....สวัสดีครับ....
25 มีนาคม 2546 12:10 น. - comment id 118583
เห็นด้วยจ๊ะ
25 มีนาคม 2546 12:56 น. - comment id 118596
แว้บ ... มาอ่านกลอนลูกลิงจ๊ะ แหะ ๆๆๆ ไปทำงานต่อ ก่อนแล้ว ....
25 มีนาคม 2546 21:40 น. - comment id 118762
ขอบคุณค่ะ คุณใบบอนแก้ว ขอบคุณค่ะ คุณข้าวปล้อง อาหมอวฤก .. บอกว่าลิงครวญน่ะ เขียนเพลงเสร็จหรือยังคะ
25 มีนาคม 2546 21:58 น. - comment id 118771
แค่เอาถ้อยร้อยเรียงเพียงพอหรือ ให้ยืดถือโบราณท่านพร่ำสอน ฉันทลักษณ์มักเน้นเป็นบทกลอน อีกวรรคตอนย้อนคำนำใส่ใจ มีมากนักหากเรียนเพียรศึกษา เทศนาโวหาร...ครั้นสงสัย คือบทกลอนสอนสั่งดั่งจูงใจ ให้ฝักใฝ่ในธรรมหนุนนำตน ที่จะสื่อจะสานวิญญาณฝัน เพื่อให้มั่นให้มายคลายสับสน นำคำสอนคำสั่งฝังกมล พ้นวังวนพ้นเวียนว่ายในมัวเมา พรรณาโวหาร...หมั่นศึกษา ดุจคุณตาปราณี...ชี้เรื่องเล่า ให้คลายร้อนผ่อนหนาวเศร้าบรรเทา นิทานเก่าเราฟังอย่างตั้งใจ ใช่เพียงแค่ถ้อยคำเพ้อรำพัน หากจริงนั้นผสานสิ่งเป็นจริงได้ เสนาะหูรู้แจ้งแฝงความนัย ฟังครั้งใดคล้ายชมโขนกรมศิลป์ อีกแบบหนึ่งตรึงตราจะหาไหน อุปมาอุปมัยได้สุขิน อ้างเรื่องเทียบเปรียบเปรยแผ่เผยจินต์ ยกศัพท์สิ้นส่อความตามโบราณ แต่ต้องกลั่นจากห้วงของดวงใจ กฎเกณฑ์ใดไม่หลงตรงอรรถสาส์น เรื่องใดเหมาะเพราะพริ้งแอบอิงกานท์ ยกตำนานผสานส่งจำนงค์ไป พึงเพิ่มเติมเสริมแนบแบบฉบับ ดุจประดับอาภรณ์ตอนสวมใส่ จักงดงามตามฉันท์กาพย์กานท์ไทย แม้นผู้ใดได้ชมภิรมย์เริง .
26 มีนาคม 2546 21:43 น. - comment id 119083
มาช้าไปไหมเนี่ย
26 มีนาคม 2546 23:57 น. - comment id 119127
:) ยังไม่เช้า ยังไม่ช้า ค่ะ