บ้าหมู(2)

ม้าก้านกล้วย

จะวิ่งไปทางนั้นก็ควันไขว่
จะวิ่งไปทางไหนก็ไฟล้อม
จะวิ่งหนีลุกลนวนเวียนอ้อม
จะยินยอมอย่างไรไฟจะลน
เด็กทั้งหลายต่างตระหนกตกประหม่า
จะหันหน้าหนีไฟให้ผ่านพ้น
ก็เกรงว่า จะลามลวกพวกของตน
จึงตั้งต้น หนีภัยก่อนไร้แรง
โชคยังไม่โหดร้ายเกินไปนัก
ยังมีปลักโคลนขัง ยังมีแอ่ง
จึงพร้อมเพรียง ถลาหลง ลงตีแปลง
เอาดินแป้ง ทาเถือ ทั้งเนื้อตัว
พอกมือ พอกตีน ดินเกรอะกรัง
แขนขา หน้าหลัง กระทั่งหัว
ก็ละลน ปนละลาน พาลนึกกลัว
หากยังมัว ลังเลใจ ไฟจะมา
หลบอยู่ในเลนโคลน จนทุเลา
เพลิงผลาญเผา วอดวาย คลายโหมกล้า
กุศลหนุน บุญปลอด รอดชีวา
แต่เกือบพา กันมา ฆ่าตัวตาย
ผลุบโผล่ โงหัว ขึ้นยั่วเย้า
หยอกกระเซ้า หัวร่อ กันงอหาย
จากเล่นลม มาจมโคลน ตะโกนตะกาย
ได้แหวกว่ายปลักเปรอะ เลอะทั้งตัว

ม้าก้านกล้วย)				
comments powered by Disqus
  • สีน้ำฟ้า

    18 มีนาคม 2546 00:34 น. - comment id 115910

    ตามมาอ่านบทที่สองค่ะ
    
    เห็นภาพเลยเชียว
  • ข้าวปล้อง

    18 มีนาคม 2546 11:25 น. - comment id 116047

    ซนจริง ๆ เชียว --
    
    
    เขียนให้ลูกของพ่อคนไหนรึป่าวเนี่ย ๕๕๕ เห็นภาพเชียว
    
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน