@ เล่ากันว่าคราสมัยพระเจ้าเสือ ธ ทรงเรือชมความงามลำน้ำใส มีวันหนึ่งออกจากวังนั่งเรือไป ขุนนางใหญ่แลน้อยพลอยติดตาม @ คนคัดท้ายพายเรือคิดเบื่อสุด ทำหน้างุดมองพระพักตร์แล้วทักถาม พระเจ้าข้า..ปุโรหิตที่ติดตาม ทุกทุกยามแสนสบายไม่เหนื่อยเลย @ พระองค์ทรงคิดดูเล่าเหมือนเอาเปรียบ เมื่อมาเทียบกับผมเหนื่อยเมื่อยเหลือเอ่ย ปุโรหิตชีวิตงานท่านเสบย นั่งหลับเฉยแสนเพลินมันเกินไป @ เจ้าอยู่หัวหัวเราะเพราะนึกขำ ไม่ตอบคำเก็บกักไว้พักใหญ่ เรือแล่นเรื่อยเฉื่อยช้าค่อยคลาไคล ผ่านพงไม้ริมฝั่งจึงยั้งรอ @ พระตรัสร้อง เฮ้ย..สำเนียง เสียงอะไร เจ้าจงไป ดูมา บอกข้าหนอ คนคัดท้าย ขึ้นฝั่งไว ไม่รีรอ แล้ววิ่งห้อ มาถวาย ทูลรายงาน @ หมาเกิดลูก ลูกมันร้อง พะยะค่ะ และแล้ว ธ ก็ถามว่า กี่ตัวท่าน คนคัดท้าย วิ่งไป อีกไม่นาน มากราบกราน บอกมีห้า ล้วนน่าดู @ เจ้าอยู่หัว หัวร่อตาม ถามอีกหน่อย พวกหมาน้อย เป็นตัวเมีย หรือตัวผู้ พ่อหนุ่มนิ่ง อึ้งไป เพราะไม่รู้ ผมขอดู ลูกสุนัข อีกสักครา @ เจ้าอยู่หัว หัวร่อ แล้วรอคอย พ่อหนุ่มน้อย วิ่งไว ไปดูหมา สักประเดี๋ยว เดียวหนอ ก็กลับมา พระเจ้าข้า ตัวผู้สี่ ตัวเมียตัว @ เจ้าเหนือหัว ยิ้มงาม แล้วถามต่อ สีละพ่อ สีอะไร ตอบให้ทั่ว หนุ่มสะอึก นึกไม่ออก บอกไม่ชัวร์ กราบพระเจ้า อยู่หัว แล้ววิ่งไป @ ไปยืนมอง จ้องดู รู้แล้วนับ แล้ววิ่งกลับ มาถวาย รายงานใหม่ หนึ่งสีดำ น้ำตาลสอง ขาวสองไซร้ เจ้าอยู่หัว ยิ้มให้ บอกนั่งลง @ แล้วก็หัน ไปเรียกขาน วานสะกิด ปุโรหิต ตื่นหน่อย ผู้สูงส่ง ปุโรหิต ตื่นมา ทำท่างง ข้าพระองค์ จะทรงใช้ การใดนอ @ เจ้าเหนือหัว บอกขอวาน ท่านหน่อยหนา ไม่รู้ว่า เสียงอะไร แปลกใจหนอ ปุโรหิต ขึ้นฝั่งไป ไม่รีรอ อึดใจพอ กลับมาถวาย รายงานพลัน @ พระเจ้าข้า หมาเกิดลูก ลูกมันร้อง สีขาวสอง น้ำตาลสอง ดำหนึ่งนั่น เป็นผู้สี่ เมียหนึ่ง เกิดได้วัน แม่มันนั้น ไม่มีนม สักหยดเลย @ องค์ราชัน ฟังคำตอบ ปุโรหิต ก็ยิ้มนิด หันไปมอง จ้องแล้วเอ่ย พ่อหนุ่มน้อย เจ้าสงสัย อีกไหมเอย บ้างเสบย บ้างเหนื่อย เพราะเหตุใด @ คนคัดท้าย มือประนม นั่งก้มหน้า พระเจ้าข้า เข้าใจแล้ว มิสงสัย บ้างงานหนัก บ้างงานเบา เข้าใจไซร้ ต่างหัวใจ ต่างสมอง ต้องต่างงาน!!!
2 มีนาคม 2546 04:49 น. - comment id 111541
ถูกใจจังค่ะ .... ..... ต่างหัวใจ ต่างสมอง ต้องต่างงาน ... !!!
2 มีนาคม 2546 05:21 น. - comment id 111543
ไข่เจียวจ๋า.!! ..แซงหน้า..พี่เรน..ด้ายงัยยยย..!! อิอิอิ.. อาเฮีย..อาเรนกราบสวยๆค่ะ... ..คิดถึงนะ... .วันนี้..อาเรน..ม่ายกวนค่ะ.. (แบบ..นั่งพับเพียบ ฟังเรยยแระ..).. ..อ่านเมล์ดิ.... ..อิอิอิ..
2 มีนาคม 2546 13:27 น. - comment id 111585
นึกว่าเรื่องพันทายนร...เสียอีก....แต่ดีค่ะ
2 มีนาคม 2546 13:34 น. - comment id 111591
มานั่งฟัง....นิทานที่มีคติสอนใจด้วยคน
2 มีนาคม 2546 13:45 น. - comment id 111600
ดีจัง มีคนใจดีเล่านิทานเป็นกลอนให้อ่านด้วย เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยได้ยิน แต่ชอบที่คุณเขียนจัง
2 มีนาคม 2546 20:00 น. - comment id 111714
ย่อหน้าแรกขอขอบคุณไข่เจียว....รวีลับฟ้า...ตุ๊กตาไล่เหงา...สีน้ำฟ้า....และ...เรน....ครับพ้ม ถือว่าให้กำลังใจกันโดยตรง ย่อหน้าสอง ขอขอบคุณผู้ที่เข้ามาอ่านท่านอื่นๆจ้ะ ย่อหน้าสาม ขออรรถาธิบายสักหน่อยว่า...ที่เขียนขึ้นมาเพราะได้ยินเขาเล่ามาแต่สมัยเด็ก ....พอนึกสนุกก็เลยเอามาผูกเป็นกลอน...หากนักประวัติศาสตร์ระบุว่าผิดเพี้ยนไปจากความจริงและไม่มีเรื่องราวพรรค์นี้ ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ และขอยอมรับทุกประการ เจตนาก็เพียงให้พวกเราชาวไทยโพเอ็มได้สนุกกับอารมณ์กลอนพร้อมกับมองข้อคิดจากเรื่องเล่าไปด้วยกันเท่านั้นครับ
4 มีนาคม 2546 14:24 น. - comment id 112083
^*^ ^*^ ^*^..........มาอ่านแย้ววจ้า.......^*^ ประทับตราแย้ววจ้า หายร้อนแย้ววจ้า.. อิอิ ^*^...............^___^.............^*^
4 มีนาคม 2546 18:08 น. - comment id 112147
ก็ยังคิดอยู่นี่น่ะว่าแนทตี้ไปไหนน้อ.... เก๊าะมาพอดี....พร้อมกับนกหลายตัวโบยบิน..มีชีวิตชีวาจริงๆเลย...